รัฐสภา 26 ต.ค.- สนช. รับหลักการร่างกฎหมายแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร ที่แก้ให้บริษัทและห้างหุ้นส่วนใช้สกุลเงินตราต่างประเทศคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลได้ ช่วยลดต้นทุนผู้ประกอบการและจูงใจให้มีการตั้งสำนักงานใหญ่ในต่างประเทศมากขึ้น
การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) วันนี้เป็นการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ..) ที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ โดย นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจงว่าเนื่องจากมาตรฐานการบัญชีได้ปรับปรุงให้สอดคล้องกับมาตรฐานรายงานทางการเงินระหว่างประเทศ กำหนดให้กิจการที่มีธุรกรรมทางการเงินเป็นเงินตราต่างประเทศบางกรณี สามารถเลือกใช้สกุลเงินที่ใช้ในการดำเนินงานเป็นสกุลเงินอื่นนอกจากเงินตราไทยได้
ดังนั้น เพื่อให้การปฏิบัติจัดเก็บภาษีเงินได้จากบริษัทและห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล สอดคล้องกับมาตรฐานการบัญชี จะส่งผลเพิ่มความสะดวกในการประกอบธุรกิจ ลดต้นทุนของผู้ประกอบการ จูงใจให้มีการจัดตั้งสำนักงานใหญ่ข้ามประเทศและบริษัทการค้าระหว่างประเทศในประเทศไทยมากขึ้น จึงได้ปรับปรุงหลักเกณฑ์ของประมวลรัษฎากรเกี่ยวกับการใช้สกุลเงินอื่นนอกจากสกุลตราไทย เป็นสกุลเงินที่ใช้ในการดำเนินงาน รวมถึงอัตราแลกเปลี่ยนสำหรับการคำนวณค่า หรืออัตราของเงินตราทรัพย์สินหรือหนี้สิน และวิธีการคำนวณและการชำระภาษีของบริษัท หรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ใช้เงินตราต่างประเทศ เป็นสกุลเงินที่ใช้ในการดำเนินงาน
ขณะที่ สมาชิก สนช. ส่วนใหญ่อภิปรายสนับสนุนหลักการของร่างกฎหมายนี้ เนื่องจากมีการแก้ไขที่สอดคล้องกับมาตรฐานการบัญชีสากล ไม่ต้องเผชิญความเสี่ยงกับอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันสิ้นรอบบัญชี พร้อมเชื่อว่ากฎหมายฉบับนี้ จะทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการลงทุนต่ออุตสาหกรรมทุกด้าน โดยหลังการอภิปรายที่ประชุม มีมติเห็นชอบรับหลักการวาระแรกด้วยคะแนน 168 เสียง ไม่เห็นด้วยไม่มี และงดออกเสียง 4 เสียง พร้อมตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาจำนวน 15คน กำหนดแปรญัตติภายใน 7 วัน มีกรอบการทำงาน 30 วัน .-สำนักข่าวไทย