ครม.ไฟเขียวต่อสัญญาเชฟรอนอีก 10 ปี

ทำเนียบรัฐบาล  7 ธ.ค. –  ครม.เห็นชอบต่อสัญญาสัมปทานให้เชฟรอนอีก 10 ปี รัฐบาลยื่นข้อเสนอเก็บค่าธรรมเนียมพิเศษเพิ่ม ระบุรัฐได้ประโยชน์มากกว่าการให้ยุติตามสัญญา


พลโทสรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบตามข้อกระทรวงพลังงานขยายระยะเวลาผลิตปิโตรเลียมของบริษัท เชฟรอน ออฟชอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้รับสัมปทานปิโตรเลียมเลขที่ 1/2534/36 แปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทยเลข 88/32 ออกไปอีก 10 ปี  ครบกำหนดปี 2573 จากเดิมสัญญาสัมปทานจากปี 2543-2563  ระยะเวลา 20 ปี นับเป็นการเห็นชอบตามข้อสัญญาระบุไว้ใน  “ไทยแลนด์ 3″ เปิดโอกาสให้ต่อสัญญาเพิ่มได้อีก 10 ปีสำหรับผู้รับสัมปทานแหล่งปิโตรเลียม ยอมรับว่าแหล่งปิโตรเลียมดังกล่าวในช่วงเวลาที่เหลือ 10 ปี ผลิตน้ำมันได้ 26,000 บาร์เรลล์ต่อวัน และก๊าซธรรมชาติ 180 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน

ขณะที่ปัจจุบันทั้งประเทศมีความต้องการใช้น้ำมัน 1 ล้านบาร์เรลล์ต่อวัน ต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติ 5,000 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน  ถือเป็นสัดส่วนน้อยมาก  อีกทั้งผลประโยชน์ที่ได้รับจากแหล่งปิโตรเลียมดังกล่าว อายุสัมปทานเดิมภาครัฐได้ประโยชน์ร้อยละ 63 เชฟรอนได้รับร้อยละ 37  เมื่อต่ออายุสัมปทาน 10 ปี ภาครัฐได้รับประโยชน์ร้อยละ 71 เชฟรอนได้รับประโยชน์ร้อยละ 29 หรือประมาณ 8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยรัฐบาลยื่นข้อเสนอรับผลประโยชน์หรือเป็นโบนัสพิเศษเพิ่ม 0.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยต้องชำระภายใน 30 วันนับจากวันลงนาม, โบนัสจากการผลิตปิโตรเลียมร้อยละ 1 ของมูลค่าปิโตรเลียม โดยไม่ต่ำกว่า 1.25 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และโบนัสสำหรับช่วยเหลือทางสังคม 0.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงระยะเวลา 10 ปี เริ่มจ่ายปี 2561


นอกจากนี้ ครม.เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.รายได้ปิโตรเลียมกำหนดให้ผู้รับสัมปทานจ่ายค่าธรรมเนียมรายปีรองรับการรื้อถอนอุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องจักร จนกว่าครบกำหนดสัญญาสัมปทาน เพราะหากภาคเอกชนผู้รับสัมปทานไม่ยอมรื้อถอนรัฐบาลต้องใช้งบประมาณเข้าไปรื้อถอนเครื่องจักร อุปกรณ์ ดังนั้น ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปบริษัทเอกชนผู้รับสัมปทานต้องจ่ายค่าธรรมเนียมรายปี เมื่อครบสัญญาสัมปทานสามารถเบิกเงินดังกล่าวไปใช้รื้อถือนได้และนำค่าใช้จ่ายหักลดหย่อนภาษีได้ เพื่อจูงการลงทุนด้านปิโตรเลียม.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Satellite images show wake of destruction of wildfires burning across California

เปิดปัจจัยที่ทำให้ไฟป่าแอลเอไหม้ลามหนัก

มีหลายปัจจัยที่ทำให้ไฟป่าในเทศมณฑลลอสแอนเจลิสหรือแอลเอ (LA) ในรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐไหม้ลามเป็นวงกว้างอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นวิกฤตไฟป่าครั้งร้ายแรงที่สุดครั้งหนึ่งของประเทศ

รู้ตัวคนไทยพลัดตกตึกสูงฝั่งปอยเปต พบไม่ได้ถูกจับโยนลงมา

รู้ตัวคนไทยพลัดตกตึกสูง 18 ชั้น ฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา เบื้องต้นพบไม่ได้ถูกจับโยนลงมา และอาคารดังกล่าวถูกระบุเป็นฐานบัญชาการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยมีคนไทยถูกหลอกไปทำงานที่นี่จำนวนมาก

Palisades Fire

สหรัฐสั่งอพยพกว่าแสนคนหนีไฟป่า 6 จุดในแคลิฟอร์เนีย

ลอสแอนเจลิส 9 ม.ค.- สหรัฐสั่งอพยพประชาชนมากกว่า 100,000 คน เนื่องจากจำนวนไฟป่าที่โหมไหม้ในเทศมณฑลลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนียเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 6 จุดแล้ว เพราะกระแสลมแรงเทียบเท่าเฮอริเคนและสภาพอากาศแล้ง เจ้าหน้าที่เผยว่า ในจำนวนไฟป่าทั้ง 6 จุด มีอยู่ 4 จุดที่ยังไม่สามารถควบคุมได้เลย ไฟป่าจุดแรก คือ พาลิเซดส์ไฟร์ (Palisades Fire) เกิดขึ้นช่วงเช้าวันที่ 7 มกราคมตามเวลาท้องถิ่นใกล้แปซิฟิก พาลิเซดส์ ซึ่งเป็นย่านที่พักอาศัยทางตะวันตกเฉียงเหนือของเทศมณฑล ต้นเพลิงมาจากไฟไหม้พุ่มไม้ที่โหมไหม้จนเกินควบคุมเพราะกระแสลมแรง ต้องอพยพคนอย่างน้อย 30,000 คน ไฟป่าจุดที่ 2 คือ อีตันไฟร์ (Eton Fire) เกิดขึ้นในเย็นวันเดียวกันที่หุบเขาอีตันแคนยอน เผาไหม้พื้นที่ขยายวงกว้างมากพอ ๆ กับไฟป่าจุดแรก ไฟป่าจุดที่ 3 คือ เฮิร์ตส์ไฟร์ (Hurst Fire) เกิดขึ้นกลางดึกวันเดียวกันในย่านซิลมาร์ของนครลอสแอนเจลิส จากนั้นในเช้าวันที่ 8 มกราคมเกิดไฟป่าจุดที่ 4 คือ วูดลีไฟร์ […]

ข่าวแนะนำ

จับนายอำเภอเหนือคลอง เรียกรับเงินผู้รับเหมา แลกจบงาน

ตำรวจแถลงผลปฏิบัติการ “ไม่จ่าย ไม่จบ” จับนายอำเภอเหนือคลอง จ.กระบี่ พร้อมเจ้าหน้าที่ปกครอง เรียกรับเงินใต้โต๊ะบริษัทรับเหมา 50,000 บาท แลกจบงาน

นายกฯ เผยไม่มีคนไทยบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุไฟป่าแอลเอ

นายกฯ เผย ไม่มีคนไทยได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต จากเหตุไฟป่าที่แอลเอ มีเพียงร้านอาหารไทยที่ได้รับความเสียหาย สั่ง กงสุลเปิดศูนย์ช่วยเหลือคนไทย