กทม.25 ต.ค.-สถาบันโรคผิวหนัง ชวนสังคมไทย” หยุดตีตราผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงิน” เร่งสร้างองค์ความรู้ผ่านE-book หวังผู้ป่วยกว่าแสนรายมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ไทยเป็นประเทศ หนึ่งที่ยังคงมีกลุ่มคนที่มีความเข้าใจผิดว่าโรคสะเก็ดเงิน เป็นโรคที่สามารถติดต่อกันได้ จึงมักมีพฤติกรรมแสดงความรังเกียจผู้ป่วย ให้ได้พบเห็นอยู่บ่อยครั้ง เพื่อเป็นการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องแก่คนในสังคม เนื่องในวันสะเก็ดเงินโลก 29ตุลาคม ผ่านแคมเปญ”หยุดตีตราผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงิน” เพราะเมื่อคนมีความรู้ที่ถูกต้องแล้ว จะช่วยสังเกตอาการตนเองหรือคนใกล้ตัวและช่วยให้ผู้ป่วย สามารถดำเนินชีวิตประจำวันได้อย่างไร้ความ กังวล
ด้าน พญ.มิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กล่าวว่า โรคสะเก็ดเงิน (psoriasis) เป็นโรคผิวหนังเรื้อรังชนิดหนึ่ง ที่ยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด แต่เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับความผิดปกติทางพันธุกรรม เช่น พ่อแม่เป็นสะเก็ดเงินมี ลูกมีโอกาสที่จะเป็นสูงกว่าคนอื่นถึงร้อยละ 41 อาการ ของสะเก็ดเงินจะกระทบต่อการใช้ชีวิตของผู้ป่วยอย่างมาก เพราะจะเกิดผื่นแดง นูนขอบเขต ชัดเจนจะมีขุยสีขาวหรือสีเงินปกคลุมอยู่ บางรายเป็นตุ่มหนองกระจายทั่วร่างกายใบหน้า หนังศีรษะ และมีเล็บผิดปกติร่วมด้วย ซึ่งผื่นอาจมีอาการคันมองเห็นชัดเจน ส่งผลให้ผู้ป่วยขาดความมั่นใจในการดำเนินชีวิต หลีกเลี่ยงเข้าสังคม บางรายอาจมีอาการข้ออักเสบ ผิดรูปร่วมด้วย
สำหรับ “หยุดตีตรา ผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงิน” เป็นการกระตุ้นสังคมไทยให้มีความรู้ความเข้าใจ ที่ถูกต้อง ผ่านองค์ความรู้จากE-book/และวิดีโอชุด”ผมเป็นโรคสะเก็ดเงินครับ”ให้ประชาชนทั่วไปดาวน์โหลดได้ที่inderm.go.th
ทั้งนี้ ปัจจุบันประเทศไทย พบผู้ป่วยสะเก็ดเงิน ประมาณ143,291 ราย นอกจากต้องดูแลสภาพร่างกายแล้วผู้ป่วยยังต้องดูแลสภาพจิตใจควบคู่ไปด้วย
สำหรับการรักษาโรคสะเก็ดเงินมี 4 วิธีคือ ใช้ยาทาภายนอก การฉายแสงใช้ยากิน ยาฉีด นอกจากนี้ผู้ป่วยยังต้อง พักผ่อนให้เพียงพอหากนอนน้อยภาวะสะเก็ดเงินจะกำเริบ ระวังการกินยาบางชนิด เช่น ยาลดความดันโลหิต เพราะอาจจะทำให้สะเก็ดเงินกำเริบเช่นกัน งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด หลีกเลี่ยงแสงแดดที่ร้อนเกินไปและการสัมผัสสารเคมี.-สำนักข่าวไทย