กลาโหม 25 ต.ค.-โฆษกกระทรวงกลาโหม แจงผลการประชุมสภากลาโหม เห็นชอบยืดใบอนุญาตควบคุมยุทธภัณฑ์จาก 1 ปี เป็น 3 ปี “พล.อ.ประวิตร” ย้ำหน่วยขึ้นตรง-เหล่าทัพ เพิ่มความเข้มงวดป้องกันการลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตรและสินค้าผิดกฎหมายตามแนวชายแดน
พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงผลการประชุมสภากลาโหม ครั้งที่ 10/2561 ว่า ที่ประชุมเห็นชอบแต่งตั้งกรรมการทหารผ่านศึก ประเภททหารผ่านศึกประจำการ แทนตำแหน่งที่ว่าง 4 คน ประกอบด้วย พล.อ.อ.วันชัย นุชเกษม รอง ผบ.ทสส. , พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รอง ผบ.ทบ. , พล.อ.อ.ชาญยุทธ ศิริธรรมกุล ผช.ผบ.ทอ. และ พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน และแต่งตั้งกรรมการทหารผ่านศึก ประเภททหารผ่านศึกนอกประจำการ แทนตำแหน่งที่ว่างลง 5 คน ประกอบด้วย พล.อ.ศุขเกษม องคะศิลป์ , พล.อ.จิตตสักก์ เจริญสมบัติ , พล.อ.นพปฎล คุณกมุท , พล.ร.อ.สุชีพ หวังไมตรี และ พล.อ.อ.อารมย์ ปัถวี
พล.ท.คงชีพ กล่าวอีกว่า ที่ประชุมเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติควบคุมยุทธภัณฑ์… เพื่อให้รัฐสามารถควบคุมการนำยุทธภัณฑ์ประเภทต่าง ๆ ที่นำไปใช้ในเชิงพาณิชย์ได้อย่างทั่วถึงจากการเติบโตทางเศรษฐกิจ และเป็นการอำนวยความสะดวก ลดภาระและค่าใช้จ่ายกับทุกภาคส่วนในการควบคุมยุทธภัณฑ์ประเภทต่าง ๆ โดยขยายระยะเวลาให้ใบอนุญาตจากเดิม ไม่เกิน 1 ปี เป็นไม่เกิน 3 ปี แล้วแต่กรณี พร้อมทั้งกำหนดอัตราค่าธรรมเนียม เพื่อให้สอดคล้องกับการเพิ่มระยะเวลาให้ใช้ใบอนุญาตได้
“พล.อ.ประวิตร มอบเป็นนโยบายให้กับหัวหน้าหน่วยขึ้นตรงกลาโหม และ ผบ.เหล่าทัพ สนับสนุนรัฐบาลในการจัดงานวันดินโลก 5 ธันวาคม 2561 โดยให้หน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหม และเหล่าทัพ สนับสนุนการจัดงานวันดินโลก ตามที่องค์การสหประชาชาติ ได้กำหนดเป็นวันที่ 5 ธันวาคมของทุกปี ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงได้รับรางวัล นักวิทยาศาสตร์ดินเพื่อมนุษยธรรม และประกอบกับวันที่ 5 ธันวาคม เป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของพระองค์ท่าน โดยขอให้สนับสนุนการจัดงาน ภายใต้ชื่องาน มหกรรมวันดินโลก ปี 2561 ระหว่างวันที่ 5-7 ธันวาคม 2561 พร้อมกันทั่วประเทศ และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทั่วไปได้รับทราบอย่างต่อเนื่อง” พล.ท.คงชีพ กล่าว
โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวด้วยว่า พล.อ.ประวิตร ขอให้หน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหม และเหล่าทัพ โดยเฉพาะกองกำลังป้องกันชายแดน เพิ่มความเข้มงวด กวดขัน และป้องกันการลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตรและสินค้าผิดกฎหมาย ตามบริเวณแนวชายแดน ทั้งทางบกและทางน้ำ โดยประสานความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่อย่างจริงจัง เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ไม่ให้กระทบต่อราคาและผลผลิตภายในประเทศ และเดินหน้าแก้ปัญหาหนี้นอกระบบระบบอย่างจริงจังต่อเนื่องกันมา โดย 3 เดือนที่ผ่านมา การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ มีความคืบหน้าไปมาก สามารถเจรจาไกล่เกลี่ยให้ความเป็นธรรมกับผู้ได้รับผลกระทบเป็นจำนวน 42,000 ราย จากลูกหนี้นอกระบบที่มีกว่า 900,000 ราย หรือเกือบครึ่ง ซึ่งเกิดจากความร่วมมืออย่างจริงจังของทั้งฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายเศรษฐกิจ และฝ่ายกฎหมาย.-สำนักข่าวไทย
