“ภูมิธรรม” รับฟรีวีซ่ามีราคาต้องจ่าย ยันเข้มความปลอดภัย

บก.ทัพไทย 30 เม.ย.- “ภูมิธรรม” รับฟรีวีซ่า มีราคาต้องจ่าย เปิดช่องก่ออาชญากรรม แต่สร้างเม็ดเงิน ยันรัฐบาล เข้มความปลอดภัย ส่วนกรณีภาพ “สารวัตรทหาร” ร่วมอีเวนต์จีน สั่งตรวจสอบแล้ว


นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมสภากลาโหมสัญจร ถึงนโยบายฟรีวีซ่านักท่องเที่ยว ทำให้เกิดการก่ออาญากรรมในประเทศไทยว่า ต้องดูว่าเป็นข้อเท็จจริง มากน้อยเพียงใด กรณีที่มีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาแล้วมาก่อคดีต่าง ๆ ในประเทศไทย ให้ว่ากันไปตามกฎหมาย และไม่มีผลเสียอะไร เพราะไม่ได้เกิดขึ้นจากความไม่ปลอดภัย ในประเทศเรา แต่เกิดจากคนของเขาเอง ส่วนที่มีความกังวลว่า จะมีเรื่องประเด็น การตัดอวัยวะขายนั้น ปัจจุบันยังไม่มีกรณีดังกล่าว

ส่วนกรณี ชายแต่งตัวคล้ายสารวัตรทหารรับอีเวนต์จีนนั้น ได้ทราบข่าวแล้ว แต่ทราบว่าเกิดขึ้นตั้งแต่เดือนธันวาคม 2567 แต่เป็นข่าวในช่วงนี้ แต่ในทางปฏิบัติได้สั่งการไปเรียบร้อยแล้ว ให้ตรวจสอบ ทั้งนี้หน่วยที่เกี่ยวข้องกับสารวัตรทหาร มีอยู่ 3 หน่วย คือ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม กองบัญชาการทัพไทย กองบัญชาการกองทัพบก ตนได้รับรายงานว่าจากการตรวจสอบขั้นต้น ไม่มีคำสั่ง ให้สารวัตรทหารออกไปปฏิบัติภารกิจดังกล่าว เนื่องจากการไปปฏิบัติภารกิจเช่นนี้ต้องมีคำสั่งออกมา ดังนั้นจึงต้องไปดูว่า เขาไปดำเนินการในลักษณะส่วนบุคคลหรือไม่ ซึ่งอยู่ระหว่างตรวจสอบ หาก พบว่ามีก็ต้องปฏิบัติไปตามระเบียบ กฎหมาย ซึ่งได้สั่งการไม่ค่อนขัดไปแล้ว แต่หากเป็นการแต่งกาย เลียนแบบผิดกฎหมายอาญาแน่นอน


นายภูมิธรรม ยอมรับว่า ประเทศไทยได้รับผลกระทบ จากกระแสข่าวต่างๆ ซึ่งมีทั้งจริง บ้าง และไม่จริง แต่เมื่อวัดกับ จำนวนนักท่องเที่ยว ที่เข้ามาประเทศไทย ก็ถือว่ามีจำนวนสูง ส่วน จำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่น้อยลงนั้น ส่วนใหญ่เป็นทัวร์ศูนย์เหรียญ เชื่อว่าไม่ส่งผลอะไร ไม่มีอะไรต้องกังวลมากนัก ที่สำคัญที่สุดเราต้องทำให้ประเทศไทย ปลอดภัย การมาก่อคดี ก็ต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด

เมื่อถามว่า เราปล่อยปละละเลย ให้กลุ่มคนจีน ใช้ประเทศไทยเป็นฐาน หลอกขายตรง ให้คนจีน โดยใช้ หน่วยงานข้าราชการ เช่น การแต่งตัวคล้ายสารวัตรทหาร ซึ่งเรื่องเกิดตั้งแต่เดือนธันวาคม 2567 นายภูมิธรรม กล่าวว่า เราไม่ได้ปล่อยให้เขาทำ และเรื่องนี้ไม่มีใครทราบแต่เมื่อมีการหยิบยกขึ้นมาพูดในโซเชียลมีเดีย ก็ดำเนินการอย่างเคร่งครัด

เมื่อถามว่าการฟรีวีซ่า เป็นช่องโหว่ ที่ให้คนประเภทนี้เข้ามาก่อเหตุ ในขณะที่ เจ้าหน้าที่รัฐหละหลวม นายภูมิธรรม กล่าวว่า ฟรีวีซ่าถือเป็นเครื่องมืออย่างหนึ่ง เปิดให้คนเข้ามาท่องเที่ยว สร้างเม็ดเงินทางเศรษฐกิจ ยอมรับว่าทุกอย่างไม่มีอะไรเป็นบวกอย่างเดียว ก็มีสิ่งที่ต้องจ่าย ส่วนที่มีคดีต่างๆ เกิดขึ้น เป็นเพียงส่วนเดียว เราก็จะดำเนินการตามกฎหมาย ไม่ได้หมายความว่านักท่องเที่ยวเข้ามาแล้วทำเช่นนั้นหมด


เมื่อถามว่า ส่วนใหญ่ เป็นคนเชื้อสายจีน เข้ามาก่ออาชญากรรม นายภูมิธรรม กล่าวว่า หากยังไม่ชัดเจน ก็อย่าเอามาเป็นประเด็นแล้วไปกระพือข่าว สร้างผลกระทบกับประเทศของเรา สิ่งเหล่านี้ เจ้าหน้าที่ก็ติดตามทั้งหมด ซึ่งมีทั้งจริงบ้าง ไม่จริงบ้าง ถือเป็นเรื่องปกติตามธรรมดา ไม่ว่าจะเป็นประเทศไหนเข้ามาก็มีโอกาสเข้ามาก่อเหตุได้ทั้งสิ้น หากประเทศนั้นมีเงื่อนไขที่เขาจะหาผลประโยชน์ จึงไม่อยากให้เอาเคสเดียวที่เกิดขึ้น หรือข่าวลือ มาทำให้ประเทศเราหมดความเชื่อมั่น ไม่อยากให้ขยาย ทำให้ภาพลักษณ์ประเทศเสียหาย

เมื่อถามว่า ปัจจุบัน ประเทศเรามีปัญหา เกี่ยวกับคนจีนที่เข้ามาหาผลประโยชน์หลายอย่าง เช่น กรณี ผู้ว่าฯปราจีนบุรี ตั้งคนจีนเป็นที่ปรึกษา นายภูมิธรรม กล่าวยืนยันว่า มาตรการฟรีวีซ่า เป็นการฟื้นฟูกระตุ้นการท่องเที่ยว และเป็นเป้าหมายที่เหมาะสมถูกต้อง เมื่อมีกระบวนการเกิดขึ้น ซึ่งยอมรับว่าเกิดขึ้นได้อยู่แล้ว แต่เราไม่ได้นิ่งเฉย หรือละเลย พยายามดำเนินการแก้ไขปัญหาเต็มที่ อีกครั้ง ในประเทศอื่นก็มีเช่นกัน กรณีนักท่องเที่ยวไปก่อคดี ไม่ใช่เรื่องผิดแปลก ซึ่งรัฐบาลใส่ใจเรื่องนี้ เพราะเป็นแผ่นดินไทย เราต้องดูแลความปลอดภัยคนในประเทศของเรา ซึ่งตนมองว่าเรื่องที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องที่เกิดปกติ เราก็ใช้กระบวนการที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา ไม่ใช่เรื่องอะไรที่พิเศษหรือน่ากังวลใจ ส่วนจะมีแนวโน้มปรับลด จำนวน วัน ฟรีวีซ่าจากเดิม60วันหรือไม่นั้น ตนจะรับไป ให้หน่วยที่เกี่ยวข้องพิจารณา

เมื่อถามว่าในด้านทางการข่าว มีข้อมูลหรือไม่ว่าทุนจีน เป็นท่อน้ำเลี้ยงให้พรรคการเมือง นายภูมิธรรม กล่าวว่า หากมีข้อมูลก็ส่งมา ก็จะดำเนินการตามกฎหมาย พรรคการเมืองไม่ได้อยู่เหนือกฎหมาย-313 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้เสียหายรวมตัวถามความคืบหน้าซื้อขายทอง จากร้านดังแล้วไม่ได้ทอง

กรุงเทพฯ 22 พ.ค. – ผู้เสียหายกว่า 30 ราย บุกทวงถามความคืบหน้าคดีซื้อขายทอง จากร้านชื่อดังแล้วไม่ได้ทอง ยอดความเสียหายพุ่งกว่า 700 ล้านบาท พ้อเดือดร้อนอย่างหนัก ผู้เสียหายจากการซื้อขายทองคำรายย่อยจากทั่วประเทศกว่า 30 ราย จากการซื้อขายกับร้านทองชื่อดัง ย่านเยาวราช พร้อมนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน เข้าติดตามความคืบหน้าคดีฉ้อโกงซื้อขายทองคำ ที่ศูนย์แจ้งความกองบัญชาการสอบสวนกลาง นายปานเทพ เปิดเผยว่า ขณะนี้รวมมูลค่าความเสียหายจาการซื้อขายทองคำกับร้านทองชื่อดัง พุ่งไปกว่า 700 ล้านบาทแล้ว โดยกลุ่มผู้เสียหายมีหลายรูปแบบ ทั้งกลุ่มที่ซื้อทอง กลุ่มที่ฝากเงิน และกลุ่มที่ซื้อทองและฝากเงิน นอกจากนี้จะยื่นคำร้องขอให้สอบสวนเพิ่มเติมสอบกับ 8 บุคคลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทและบริษัทในเครือ พิจารณาดำเนินคดีความอาญากับผู้เกี่ยวข้องในคดีที่ผู้เสียหาย ซื้อทองไม่ได้ทอง ขายทองไม่ได้เงิน ฝากทองไม่ได้คืน ลงทุนไม่ได้อะไร กับบริษัทดังกล่าว และต้องการให้ออกหมายจับผู้กี่ยวข้องทั้งหมด เนื่องจากกลัวจะมีการหลบหนี ส่วนการอ้างโฆษณาว่า ร้านรับซื้อทองคำให้ราคาสูงกว่าร้านอื่น การซื้อขายแต่ไม่ได้ทอง มองว่ามีเจตนาชัดเจนอยู่แล้ว การอ้างขาดสภาพคล่อง แต่ยังเปิดแอปพลิเคชั่นให้ประชาชนมาซื้อขายทองคำต่อได้อย่างไร ส่วนที่ผ่านมาทางร้านมีความพยายามเคลียร์กับผู้เสียหายรายย่อย มีการจ่ายเงินคืนไปแล้วบางรายไม่ถึงล้านบาท และตอนนี้ไม่สามารถติดต่อได้แล้ว มองว่าเป็นแทคติกที่ต้องการเปลี่ยนเป็นสัญญา เพื่อหลีกเลี่ยงจากคดีอาญาเป็นคดีแพ่งแทน […]

ทรูประกาศชดเชยลูกค้าจากเหตุขัดข้อง

กรุงเทพฯ 22 พ.ค. – ทรูประกาศชดเชยสำหรับลูกค้า กรณีเหตุขัดข้องของระบบเครือข่ายในวันนี้ ทรูแจ้งว่าขออภัยเป็นอย่างยิ่งในเหตุขัดข้องของระบบเครือข่ายที่เกิดขึ้น ขณะนี้บริการต่างๆ ทั้งวอยซ์และดาต้ากำลังกลับมาให้บริการเต็มประสิทธิภาพได้ในทุกพื้นที่ ทั่วประเทศ บริษัทขอชดเชยให้ผู้ใช้งานระบบรายเดือนและเติมเงินที่ได้รับผลกระทบจากสาเหตุเครือข่ายขัดข้อง ทั้งนี้ ผู้ใช้งานในระบบเครือข่ายทรูที่ได้รับผลกระทบ จะได้รับ SMS แจ้งถึงรายละเอียดการชดเชยต่อไป โดยเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา คณะผู้บริหารของบริษัทได้เข้าพบ กสทช.เพื่อชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับสถานการณ์ดังกล่าว รวมทั้งแนวทางในการป้องกันเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต. -511- สำนักข่าวไทย

ปลาติดเชื้อจากสารเคมีปนเปื้อนในแม่น้ำกก

เชียงราย 22 พ.ค. – วิกฤติน้ำกก หลังพบสารหนู-สารเคมีปนเปื้อนจากการทำเหมืองแร่ ลุกลามไปแม่น้ำสายและแม่น้ำโขงแล้ว ล่าสุดตรวจพบปลาในแม่น้ำมีอาการผิดปกติที่ผิวหนัง ส่วนช้างอาบน้ำในน้ำกกมีผื่นและตุ่มใส ติดเชื้อจนเกิดแผล หลังจากมีการตรวจสอบหาสารหนู และสารเคมีอื่นๆ ในแม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำโขง ทำให้พบว่ามีปริมาณเกินกว่ามาตรฐานหมายเท่าตัว จากการทำเหมืองแร่ในรัฐฉาน ประเทศเมียนมา และตรวจพบปลาในแม่น้ำมีอาการผิดปกติที่ผิวหนัง ซึ่งทางกรมประมงได้ติดตามการติดเชื้อของปลาในแม่น้ำทั้ง 3 สาย โดยนำปลาที่ชาวประมงพื้นบ้านจับได้จากแม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำโขง นำมาตวรจสอบหาสารตกค้าง และเชื้อโรคที่ปลาได้รับ เพื่อป้องกันการติดเชื้อสู่มนุษย์ หากนำไปบริโภค นายสมเกียรติ เขื่อนเชียงสา นายกสมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต เปิดเผยว่าสมาคมพยายามจะมอนิเตอร์ปลาในแม่น้ำกก แม่น้ำรวก แม่น้ำโขง เพื่อติดตามว่ามีการติดเชื้อแพร่กระจายไปถึงไหนบ้าง เพื่อจะเก็บตัวอย่างรีบส่งให้กับทางกรมประมง ในการตรวจหาสาเหตุภายในของปลาว่ามีเชื้ออะไรบ้าง ซึ่งต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ ป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อผู้ใช้น้ำ ซึ่งขณะนี้เกิดความวิตก และกังวลใจของชาวประมงที่ได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก ที่ต้องหาปลาในแมน้ำ เมื่อเกิดสถานการณ์ขึ้นการค้าขายปลาเกิดผลกระทบ ทางเศรษฐกิจในชุมชน คนไม่นิยมปลาจากแม่น้ำ ทำให้ขาดรายได้เลี้ยงชีพ นอกจากนี้ที่บ้านรวมมิตร ตำบลแม่ยาว อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย พบว่าน้ำในแม่น้ำกกมีลักษณะขุ่นจัด เมื่อเทียบกับลำห้วยสาขาที่ไหลลงสู่แม่น้ำ ซึ่งมีน้ำใสกว่ามาก เทศบาลตำบลแม่ยาวได้เร่งติดตั้งป้ายเตือนประชาชน […]

จับแล้ว! มือฆ่ารัดคอพยาบาลสาวเกาะสมุย

สุราษฎร์ธานี 22 พ.ค.- จับแล้ว! มือฆ่ารัดคอพยาบาลสาวเกาะสมุย ตร.เค้นสอบ สารภาพก่อเหตุจริงก่อนขโมยรถผู้ตายหนี ความคืบหน้าคดีคนร้ายฆ่าเปลือยพยาบาลสาววัย 36 ปี ในหอพัก 2 ชั้น พื้นที่ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี และขโมยรถยนต์ผู้เสียชีวิตไปด้วย ซึ่งผู้ต้องสงสัยคือแฟนของผู้ช่วยพยาบาลที่อยู่ห้องติดกับผู้เสียชีวิต โดยศาลจังหวัดเกาะสมุย ได้ออกหมายจับนายสุวัฒน์ อายุ 30 ปี ความผิดฐาน ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนหรือรับของโจร ล่าสุด มีรายงานว่าชุดสืบสวน สภ.บ่อผุด สามารถจับกุมคนร้ายได้แล้ว เบื้องต้นรับว่า เป็นบุคคลตามภาพจากกล้องวงจรปิดที่ขับรถยนต์ของพยาบาลสาวไปจอดในห้างฯ และก่อเหตุฆ่าพยาบาลสาวก่อนขโมยรถยนต์ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบสวนถึงเหตุจูงใจ .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

น้ำสายทะลักท่วมหลายชุมชน อ.แม่สาย จ.เชียงราย

เชียงราย 24 พ.ค.-ฝนตกหนักเกือบทั้งคืน แม่น้ำสายทะลักท่วมหลายชุมชน อ.แม่สาย จ.เชียงราย กลางดึก บางจุดสูงถึง 1 เมตร ส่วนบริเวณใต้สะพานพรมแดนไทย-เมียนมาแห่งที่ 1 น้ำล้นบิ๊กแบ็กทะลักท่วมชุมชนริมน้ำเช่นกัน ฝนตกหนักเกือบทั้งคืน ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำสายสูงขึ้น จนล้นพนังกั้นน้ำเข้าท่วมหลายชุมชน เช่น บ้านถ้ำผาจม ตลาดสายลมจอย ตลาดน้อยเหมืองแดง ชุมชนเหมืองแดง ชุมชนไม้ลุงขน ชุมชนเกาะทราย โดยน้ำจากแม่น้ำสายได้เอ่อเข้าท่วมบ้านเรือนเป็นวงกว้าง บางจุดสูง 50 เซนติเมตร ถึง 1 เมตร น้ำได้ไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนกลางดึกแบบไม่ทันตั้งตัว หลายหลังเข้าท่วมภายในบ้าน จนต้องตื่นมาขนของมีค่าหนีน้ำกลางดึก ขณะที่บริเวณใต้สะพานพรมแดนไทย-เมียนมาแห่งที่ 1 ระดับน้ำในแม่น้ำสายสูงขึ้นจนล้นพนังกั้นน้ำจากกระสอบทรายบิ๊กแบ็กบนถนนลอดใต้สะพาน ทะลักไหลเข้าพื้นที่ชั้นในขยายเป็นวงกว้างออกไปหลายชุมชนที่อยู่ริมแม่น้ำสาย และเป็นพื้นที่ที่เคยถูกน้ำท่วมอย่างหนักเมื่อปีที่ผ่านมา ล่าสุดระดับน้ำยังคงท่วมสูง และมีแนวโน้มว่าน้ำจะยังคงสูงขึ้นได้อีก เนื่องจากพื้นที่ต้นน้ำในประเทศเมียนมาฝนยังตกหนัก.-สำนักข่าวไทย

เร่งระบายน้ำหลุมเสาเข็ม หากไม่มีฝนจะนำร่างขึ้นมาได้วันนี้

กทม. 24 พ.ค.-เจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำออกจากหลุมเสาเข็ม และเพิ่มแผ่นชีทไพล์ชั้นที่ 4 คาดหากไม่มีฝน จะนำร่างคนงานขึ้นมาได้วันนี้ นายเพช็ร ภุมมา ผอ.เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ให้ข้อมูลความคืบหน้า โดยเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่พยายามนำเครื่องสูบน้ำมาระบายน้ำออกจากหลุมเสาเข็ม เนื่องจากเมื่อวานฝนตกหนักทำให้มีน้ำท่วมภายในหลุมและบริเวณรอบ และทำให้แผ่นชิทไพล์ที่ทำไว้ 3 ชั้น แตก ในวันนี้จึงต้องกั้นใหม่เป็นชั้นที่ 4 โดยกั้นลึกกว่าเดิม 2 เมตรเป็น 9.5 เมตร จากเดิม 7.5 เมตร หากวันนี้ไม่มีฝนตกคาดว่าจะนำร่างขึ้นมาได้ โดยเมื่อวานนี้มีสัญญาณดี คือเจอถุงมือที่มีชิ้นเนื้อติดขึ้นมาด้วย แต่ยังไม่เจอร่างทั้งหมด แต่คาดว่าร่างจะอยู่ในกรอบที่เรากำหนดไว้ ถ้าวันนี้ไม่มีอุปสรรคอะไรก็จะสามารถนำร่างขึ้นมาได้ โดยในช่วงบ่ายวันนี้ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร จะเดินทางมาติดตามสภานการณ์ด้วย.-420.-สำนักข่าวไทย

เตือนทั่วไทยฝนตกหนักถึงหนักมาก

กทม. 24 พ.ค.-กรมอุตุฯ เตือนฉบับที่ 7 ทั่วไทยฝนตกหนักถึงหนักมาก ถึง 27 พ.ค.นี้ ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม ทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศฉบับที่ 7 เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย (มีผลกระทบในช่วงวันที่ 24-27 พฤษภาคม 2568) ในช่วงวันที่ 24-27 พฤษภาคม 2568 ขอให้ประชาชนในบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเส้นทางที่มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมขังในระยะสั้นได้ สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกัน โดยการปรับปรุงระบบทางระบายน้ำในแปลงเพาะปลูก เพื่อลดผลกระทบและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยง เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับจะมีร่องมรสุมกำลังค่อนข้างแรงพาดผ่านประเทศไทยตอนบนและภาคใต้ตอนบน จังหวัดที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมาก มีดังนี้วันที่ 24 พฤษภาคม 2568ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงราย เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ […]

ศาลพิพากษาคดีแตงโม จบไหม… หรือไปต่อ ?

23 พ.ค. – วันนี้มีความเคลื่อนไหวของคดีที่หลายๆ คนติดตามกัน คือคดีการเสียชีวิตของแตงโม ที่ศาลจังหวัดนนทบุรียกฟ้อง หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรต่อไปอีก จะจบลงแค่นี้หรือไม่ ติดตามจากรายงาน.-สำนักข่าวไทย