9 เดือนค้าชายแดน-ผ่านแดนเกิน 1 ล้านล้านบาท

นนทบุรี 25 ต.ค. – กรมการค้าต่างประเทศเผยการค้าชายแดนและผ่านแดน 9 เดือนแรกของปี 2561 โตต่อเนื่องกว่า 1.04 ล้านล้านบาท ขยายตัวถึงร้อยละ 6.14 มั่นใจทั้งปีได้แน่ 1.5 ล้านล้านบาท


นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า มูลค่าการค้าชายแดนและผ่านแดนของไทย 9 เดือนแรกของปี 2561 (ม.ค.-ก.ย) ยังคงขยายตัวต่อเนื่อง มูลค่า 1,036,864 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.14 โดยเป็นการส่งออก 584,791 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 0.29 จากปัญหาค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ขณะที่การนำเข้า 452,073 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.80 เกินดุลการค้า 132,718 ล้านบาท แยกเป็นมูลค่าการค้าชายแดน 834,354 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.13 เป็นการส่งออก 485,977 ล้านบาท ลดลงร้อยละ  0.77 นำเข้า 348,377 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.83 เกินดุลการค้า 137,599 ล้านบาท และมูลค่าการค้าผ่านแดน 202,510 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.33 เป็นการส่งออก 98,814 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ  2.16 นำเข้า 103,696 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 31.49 ขาดดุลการค้า 4,882 ล้านบาท 


อย่างไรก็ตาม สถิติการค้าชายแดนแยกเป็นรายประเทศ พบว่า การค้ากับมาเลเซียยังคงนำเป็นอันดับหนึ่ง มูลค่า 426,193 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.36 เป็นการส่งออก 221,410 ล้านบาท ลดลงร้อยละ  6.65 นำเข้า 204,783 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.72 ตามมาด้วย สปป.ลาว มูลค่า 158,730 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.01 เป็นการส่งออก 96,847 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.63 นำเข้า 61,883 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.67 เมียนมา มูลค่า 143,884 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.94 เป็นการส่งออก 79,807 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 3.39 นำเข้ามูลค่า 64,078 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.58 และกัมพูชา มูลค่า 105,547 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.08 เป็นการส่งออก 87,913 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ  19.26 นำเข้า 17,634 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 6.20

ทั้งนี้ ปัจจัยสำคัญที่อาจส่งผลกระทบต่อการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดนในช่วงระยะนี้ คือ การที่ประเทศเมียนมากำลังประสบปัญหาอุทกภัย ทำให้เส้นทางคมนาคมขนส่งไม่สะดวก ประกอบกับค่าเงินจ๊าดอ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้การค้าชะลอตัวลง หากปัจจัยดังกล่าวดีขึ้นคาดว่าจะทำให้ไทยสามารถส่งออกสินค้าอุปโภคบริโภค สินค้ากลุ่มวัสดุก่อสร้าง เพื่อใช้ในการซ่อมแซม ก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐานได้เพิ่มมากขึ้น ส่วนการส่งออกสินค้าทางด้านมาเลเซีย ยังชะลอตัวลงจากปริมาณการส่งออกยางพาราผลิตภัณฑ์ยางที่ลดลง รวมถึงสินค้าเกษตรอื่นของภาคใต้ คือ ปาล์มน้ำมันและมะพร้าว นอกจากนี้ ภาคใต้ เช่น อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ยังได้รับผลกระทบจากการลดลงของนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาพรวมการค้าชายแดนไทย ขณะที่ด้านกัมพูชาเดือนกันยายน ไปได้ดีมีการส่งออกขยายตัวมากถึงร้อยละ  34 เนื่องจากการส่งออกสินค้ากลุ่มเครื่องดื่มฯ ดังนั้น กรมฯ ยังมั่นใจว่าปีนี้จากเป้าหมายตัวเลขที่ตั้งไว้ค้าชายแดนและผ่านแดนจะมีอัตราการเติบโตถึงร้อยละ 15 หรือมีมูลค่าสูงถึง 1.5 ล้านล้านบาทได้แน่นอน


สำหรับปี 2562 กรมฯ ยังเดินหน้าจัดกิจกรรมกระตุ้นการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดน เช่น 1.โครงการ YEN-D ต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 ซึ่งจะขยายจากเดิมที่สร้างเครือข่ายผู้ประกอบการรุ่นใหม่ของไทย โดยจับคู่ระหว่างไทยกับ CLMV เป็น YEN-D Plus ขยายไปสู่อินโดนีเซียและมาเลเซีย รวมทั้งจะเพิ่มการสร้างเครือข่ายภายใต้ระเบียงเศรษฐกิจ LIMEC (หลวงพระบาง–อินโดจีน-เมาะลำไย) เพื่อเชื่อมโยงจังหวัดภาคเหนือตอนล่างของไทย ประกอบด้วย อุตรดิตถ์ ตาก เพชรบูรณ์ สุโขทัย และพิษณุโลก กับแขวงไซยะบุรี และแขวงหลวงพระบางของ สปป.ลาว รัฐกระเหรี่ยงและรัฐมอญของเมียนมา 2.งานมหกรรมการค้าชายแดน 4 ภูมิภาค โดยเริ่มที่จังหวัดสระแก้วช่วงปลายปี ต่อด้วยเชียงราย นราธิวาส และมุกดาหาร ซึ่งจะเน้นให้นำสินค้าต่างภาคมาออกร้าน เช่น งานมหกรรมที่จังหวัดนราธิวาส ซึ่งเป็น 1 ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ที่รัฐบาลต้องการเสริมสร้างความมั่นคงในพื้นที่ กรมฯ จะนำสินค้าจากภาคเหนือลงสู่ใต้ในขณะที่งานมหกรรมการค้าที่จังหวัดเชียงรายจะนำสินค้าจากใต้ขึ้นเหนือ เป็นต้น โดยกรมฯ หวังว่าโครงการดังกล่าวจะสามารถขับเคลื่อนการค้าชายแดนปี 2562 ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบร่างพลทหารรัวยิงชาวบ้านแล้ว คาดจบชีวิตตัวเองในป่า

15 ส.ค.- พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมา เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร ซึ่งเป็นป่าติดกับคลองส่งน้ำ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมาส่งพิสูจน์ทราบต่อไป ด้านครอบครัวที่มาเฝ้ารอ ต่างเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น – สำนักข่าวไทย

ทบ.แจงเหตุทหารรัวยิงชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ยังคุมตัวไม่ได้

15 ส.ค.- กองทัพบกแจงเหตุทหารหนีออกจากหน่วยพร้อมอาวุธปืน รัวยิงกลางดึก ชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ราย จนท.เร่งล่า ยังไม่พบตัว หากประชาชนพบเห็นรีบแจ้งทันที กองทัพบกชี้แจงเหตุการณ์ใช้อาวุธปืนในพื้นที่อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2568 เวลา 00.45 น. กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ยินเสียงปืนดังเป็นชุด จำนวน 10 นัด บริเวณถนนข้างวัดบ้านเขื่อนแก้ว อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ต่อมาเวลา 00.54 น. ได้ยินเสียงปืนเพิ่มอีก 2 นัด จากการตรวจสอบกำลังพลและอาวุธประจำกาย พบว่า พลทหารรัฐภูมิ เทพศิริ สังกัดกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ออกจากที่ตั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมอาวุธปืนเล็กยาวและกระสุนจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ได้แก่ ผู้บาดเจ็บทั้งสองรายได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและส่งโรงพยาบาลกาบเชิง ก่อนส่งต่อรักษาตามความเหมาะสม โดยขณะนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจร่วมกับกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ตรวจสอบพื้นที่และสอบถามพยาน เบื้องต้นคาดว่าพลทหารดังกล่าวอาจเป็นผู้ก่อเหตุ […]

แจ้งจับ “ภูมิธรรม” ปล่อยกัมพูชารุกราน ทำไทยเสียเปรียบ

ขอนแก่น 15 ส.ค. – องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น แจ้งความเอาผิด “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ ไม่ทำหน้าที่ตัวเอง ปล่อยกัมพูชารุกรานไทย องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน เพื่อเอาผิด นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในข้อหาหรือฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.119, ม.120, ม.124 ม.157 และมาตราอื่นที่เกี่ยวข้อง นายตุลย์ ประเสริฐศิลป์ ประธานองค์กรต่อต้านคอรัปชั่นภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การมาร้องทุกข์กล่าวโทษครั้งนี้ ด้วยเรื่องเอกราชและอธิปไตยของชาติเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด แต่รักษาการนายกฯ ไม่ได้ทำหน้าที่ตัวเอง โดยปล่อยปละละเลยทำให้ต่างชาติรุกรานประเทศไทย ต้องปกป้องรักษาเอกราชและอธิปไตยของชาติให้มั่นคง แต่ที่ทหารขาขาด บาดเจ็บ ประชาชนล้มตายทรัพย์สินเสียหาย คือ ความร้ายแรงของของผู้รักษาการนายกรัฐมนตรีต้องทำและต้องปกป้องให้ได้ แต่ไม่มี มีแต่ไปเข้าข้างศัตรูโดยเฉพาะกัมพูชา เป็นโทษร้ายแรงมาก.-สำนักข่าวไทย

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

ผ่านฉลุย สภาฯ ไฟเขียวงบ 69 เห็นชอบ 257 : 230

รัฐสภา 15 ส.ค.- ผ่านฉลุย สภาฯ ไฟเขียวงบ 69 เห็นชอบ 257 ต่อ 230 ด้าน ‘พิชัย’ ขอบคุณสภาฯ ยันจะใช้งบให้ตรงตามวัตถุประสงค์โปร่งใส-เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 เป็นประธานการประชุม วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญฯ พิจารณาเสร็จแล้ว โดยมีการตั้งวงเงินงบประมาณ จำนวน 3.78 ล้านล้านบาท ซึ่งที่ประชุมสภาฯ ใช้เวลาอภิปรายตลอด 3 วัน ระหว่างวันที่ 13-15 สิงหาคม และลงมติเมื่อเวลา 22.50 น. ผลปรากฏว่า จากจำนวนสมาชิก 487 เสียง เห็นด้วย 257 เสียง ไม่เห็นด้วย 230 เสียง งดออกเสียง 1 […]

พลทหารยิงชาวบ้านเจ็บ 2 ก่อนหนีเข้าป่า จบชีวิตตัวเอง

สุรินทร์ 15 ส.ค. – ตื่นตระหนก เหตุพลทหารที่ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ชายแดน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ควงปืนอาวุธประจำกาย ออกมายิงชาวบ้าน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ก่อนจะหลบหนี และสุดท้ายปลิดชีพตนเอง ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนหาสาเหตุ ติดตามได้จากรายงานของศูนย์ข่าวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ.-สำนักข่าวไทย

ไล่ล่าโจรชิงทอง 123 บาท กลางห้างย่านบางบ่อ

สมุทรปราการ 15 ส.ค. – ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ เรียกประชุมตำรวจที่เกี่ยวข้อง แกะรอยหาเบาะแส ไล่ล่าโจรชิงทองห้างย่านบางบ่อ ยืนยันจำนวนทอง 123 บาท มูลค่ากว่า 6 ล้าน ขณะที่พนักงานยังผวาทุกครั้งที่เห็นคนใส่ชุดไรเดอร์เดินเข้าห้าง จากเหตุการณ์คนร้ายแต่งกายด้วยชุดไรเดอร์ สวมกางกางยีนขายาวสีดำ รองเท้าผ้าใบสีขาว เดินเท้าบุกเดี่ยวมาที่ร้านทอง แล้วชักอาวุธปืนพกแบบออโตเมติก สีบอร์นซ์ ขู่บังคับให้พนักงานขายทองซึ่งเป็นหญิง 3 คน หยิบทองรูปพรรณส่งให้คนร้าย แต่พนักงานขายทองไม่หยิบส่งให้ และหมอบลงกับพื้น คนร้ายจึงกระโดดข้ามตู้ทองด้านหน้าร้าน ไปเลื่อนกระจกตู้ทองด้านหลัง หยิบเอาทองคำรูปพรรณ มีสร้อยข้อมือ หนัก 5 บาท 5 เส้น น้ำหนัก 25 บาท น้ำหนัก 3 บาท 30 เส้น น้ำหนักรวม 90 บาท, หนัก 2 บาท 24 เส้น รวม 48 บาท […]

ย้าย “ลุงพล” มาคุมขังต่อที่เรือนจำกลางนครพนม

15 ส.ค. – เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ย้ายตัว “ลุงพล” จำเลยคดีน้องชมพู่ ไปควบคุมต่อที่เรือนจำกลางนครพนม ด้าน “ป้าแต๋น” ตามมาเยี่ยมให้กำลังใจสามี บอกเอาหัวใจมาฝาก ยืนยันลุงพลสู้ต่อถึงฎีกา หลังเมื่อวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาแก้เพิ่มโทษ นายไชย์พล วิภา หรือ “ลุงพล” จำเลยที่ 1 จาก 20 ปี เป็น 26 ปี และยกฟ้อง นางสมพร หลาบโพธิ์ หรือ “ป้าแต๋น” ในคดีฆ่า เด็กหญิงอรวรรณ หรือน้องชมพู่ อายุ 3 ขวบ หลังหายตัวจากบ้านพัก ขณะนั่งเล่นกับพี่สาวที่บ้าน กกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร เหตุเกิดช่วงเช้าวันที่ 11 พ.ค.2563 ต่อมาจำเลย ได้ยื่นหลักทรัพย์ขอปล่อยตัวชั่วคราว และวานนี้ ศาลฎีกาไม่อนุญาตให้ประกันตัว […]