นนทบุรี 4 ส.ค. – รมช.พาณิชย์ เผยเดินหน้า 4 มาตรการหลัก ดูแลผลกระทบด้านสินค้าอุปโภคบริโภคและการค้าชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมเสริมมาตรการรองรับการเจรจาการค้าสหรัฐ ภาษีนำเข้า 19%
นายฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงมาตรการช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเน้น 4 มาตรการเร่งด่วน ได้แก่ 1.ควบคุมราคาสินค้าจำเป็น ภายใต้แนวทาง “ห้ามขาด ห้ามแพง” เพื่อป้องกันการฉวยโอกาสขึ้นราคา และติดตามสถานการณ์รายวัน 2.ช่วยระบายสินค้าคงคลัง โดยประสานกับเครือข่ายห้างร้านและจุดกระจายสินค้า 3.แก้ปัญหาด้านโลจิสติกส์ ร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาทางออกด้านการขนส่ง 4.สนับสนุนการหาตลาดใหม่ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อเพิ่มโอกาสการค้าและกระจายความเสี่ยงของผู้ประกอบการ สิ่งสำคัญคือ การทำงานเชิงรุก เพื่อบรรเทาผลกระทบในพื้นที่ชายแดน และสร้างโอกาสทางการค้าใหม่ๆ ให้ผู้ประกอบการสามารถยืนหยัดได้ในสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง
ส่วนประเด็นข้อตกลงการค้าระหว่างประเทศไทยกับสหรัฐฯ นายฉันทวิชญ์ ชี้แจงว่า การที่สหรัฐ เห็นชอบให้อัตราภาษีนำเข้าสินค้าไทยอยู่ที่ 19% ถือเป็นขั้นแรกในการรักษาความสามารถในการแข่งขันของไทย ขณะเดียวกันไทยยังต้องดำเนินมาตรการรองรับและปรับตัวเชิงโครงสร้าง เพื่อให้ผู้ประกอบการได้รับประโยชน์สูงสุด โดยเฉพาะการผลักดันประเด็นกฎถิ่นกำเนิดสินค้า (Rules of Origin) และมาตรการ Regional Value Content (RVC) ที่เกี่ยวข้องกับการใช้วัตถุดิบและสัดส่วนการผลิตภายในประเทศ
กระทรวงพาณิชย์กำลังปรับปรุงกฎระเบียบให้สอดคล้องกับมาตรการของสหรัฐ พร้อมสนับสนุนผู้ประกอบการให้ปรับตัวและหาตลาดใหม่ (diversification) เพื่อเพิ่มโอกาสการส่งออก โดยไม่ละทิ้งตลาดหลักอย่างสหรัฐ
พร้อมย้ำว่าการเยียวยาผลกระทบและมาตรการรองรับเชิงนโยบายด้านการค้าระหว่างประเทศ ต้องดำเนินควบคู่กัน เพื่อรักษาผลประโยชน์ของผู้ประกอบการและความสามารถในการแข่งขันของไทยในระยะยาว. -512-สำนักข่าวไทย