ส.ป.ก.สั่งตรวจสอบที่ดินทั่วประเทศ

กรุงเทพฯ  22 ต.ค. – เลขาฯ ส.ป.ก.สั่งตรวจสอบที่ดินทั่วประเทศ พร้อมเร่งตรวจสอบการถือครองที่ดินวังน้ำเขียว หากผิดกฎหมายจะยึดคืน


นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) กล่าวว่า ได้รับรายงานจากปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมาถึงการตรวจพิกัดพื้นที่ ประวัติการถือครองตั้งแต่แรกจนถึงปัจจุบัน รวมทั้งการใช้ประโยชน์ของแปลงในเขตปฏิรูปที่ดิน 2 แปลง ซึ่งใช้ชื่อว่า “ศูนย์เรียนรู้ฟ้าประทาน”และ “ไร่ฟลอร่า พาร์ค” อำเภอวังน้ำเขียว โดยตามรายงานระบุว่าที่ดินบริเวณนี้อยู่ในพื้นที่โครงการป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาภูหลวง (ป่า F) ซึ่ง ส.ป.ก.ได้ออกพระราชกฤษฎีกากำหนดเป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2521 ต่อมาปี 2528 สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมาสำรวจรังวัดเพื่อนำมาจัดรูปที่ดินให้เกษตรกรเข้าใช้ประโยชน์ โดยแปลงไร่ฟลอร่า พาร์ค เนื้อที่รวมปัจจุบัน 103-0-62 ไร่  ออกเอกสารสิทธิ์ ส.ป.ก.4-01 แบ่งเป็นแปลงเลขที่ 1 กลุ่ม 153 เนื้อที่ 24-2-06 ไร่ จัดที่ดินให้นางสาวปนัดดา หงสกุล เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2553 ต่อมานางสาวปนัดดาให้ความยินยอมที่สมาคมพืชสวนแห่งประเทศไทย ซึ่งนายอนันต์ ดาโลดม อดีตอธิบดีกรมวิชาการเกษตร เป็นนายกสมาคมฯ ได้ขอใช้ที่ดินเพื่อปลูกดอกไม้และจัดงาน “วังน้ำเขียวฟลอร่า เฟสติวัล-มหัศจรรย์ดอกไม้ งานศิลป์ ดินแดนแห่งความสุข” โดยขอใช้พื้นที่เป็นเวลา 1 ปี ตั้งแต่สิงหาคม 2553  – สิงหาคม 2554 ทั้งนี้ คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัด (คปจ.) ซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานเห็นชอบให้เข้าใช้พื้นที่ได้ 

ต่อมาวันที่ 29 กันยายน 2553 บริษัท ฟลอร่า พาร์ค  จำกัด ได้ขอใช้ที่ดินอีกครั้ง เพื่อใช้เป็นศูนย์เรียนรู้เกี่ยวกับพืชดอก พืชสวน และพืชทุกชนิด โดยขอเช่าระยะเวลา 3 ปี ซึ่งนางสาวปนัดดา ยินยอมและได้ทำหนังสือสละสิทธิ์ในที่ดินดังกล่าว เมื่อเสนอ คปจ.ให้พิจารณา คปจ. มีมติในการประชุมเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2554 เห็นชอบที่จะให้มีศูนย์เรียนรู้ แต่ให้บริษัทฟลอร่า พาร์คกลับไปทำแผนการใช้ประโยชน์พื้นที่แต่ละปีให้ชัดเจนก่อนนำเสนอ คปจ. อีกครั้ง ซึ่งตั้งแต่นั้นมายังไม่มีการพิจารณาเรื่องดังกล่าวอีกเลย 


ทั้งนี้ จากการตรวจสอบสภาพพื้นที่พบว่าด้านหน้าเป็นลานจอดรถและร้านกาแฟ ด้านหลังเป็นสวนดอกไม้ ส่วนแปลงที่ 2 กลุ่ม 153 เนื้อที่ 30-0-69 ไร่ จัดที่ดินให้นายสุริยน ตู้จินดา ในมติคราวเดียวกัน ซึ่งต่อมานายสุริยน ได้อนุญาตให้สมาคมพืชสวนฯ จัดงาน จากนั้นให้บริษัท ฟลอร่า พาร์คเช่า แล้วยื่นทำหนังสือสละสิทธิ์ที่ดินผืนดังกล่าวแก่ คปจ. เช่นเดียวกัน จากการตรวจสอบพื้นที่ปัจจุบันเป็นสวนดอกไม้ และแปลงเลขที่ 11 กลุ่ม 107 เนื้อที่ 48-1-87 ไร่ จัดที่ดินให้นายสวัสดิ์ สายราช จากมติ คปจ.คราวเดียวกัน และพบการทำประโยชน์ปัจจุบันเป็นลานจอดรถและสวนดอกไม้

สำหรับศูนย์เรียนรู้ฟ้าประทาน เนื้อที่ปัจจุบัตน 279-2-12 ไร่ แบ่งเป็นแปลงใหญ่ ได้แก่ แปลงเลขที่ 2 กลุ่มที่ 235 เนื้อที่ 142-2-31 ไร่ สถานะที่ดิน ไม่ระบุชื่อผู้ถือครอง เดิมระบุชื่อผู้ขอรังวัด คือ  นายชนะพงศ์ นะวิโรจน์ ปัจจุบันทำประโยชน์ปลูกพุทรา มะม่วง และยางพารา แปลงเลขที่ 3 กลุ่มที่ 2292 เนื้อที่ 38-3-14 ไร่ สถานะที่ดิน ผู้ถือครอง คือ นายจรูญ จั่วจันทึก การทำประโยชน์ปัจจุบันปลูกไม้ดอก ไม้ประดับ องุ่น และอ้อย แปลงเลขที่ 3 กลุ่ม 236 เนื้อที่ 42-0-39 ไร่ สถานที่ดินอยู่ระหว่างสำรวจรังวัด ไม่ระบุชื่อผู้ถือครอง แปลงเลขที่ 4 กลุ่ม 236 เนื้อที่ 55-3-88 ไร่ เดิมระบุชื่อนายชนะพงศ์ นะวิโรจน์ ปัจจุบันเป็นแปลงที่ดินแปลงเลขที่ 5 กลุ่มระวางที่ 5337 IV 94 เนื้อที่ 40-0-30 ไร่ ที่ดินตั้งอยู่หมู่ที่ 7 ตำบลวังน้ำเขียว อำเภอวังน้ำเขียว มีชื่อ นายมนินภัทร์ นะวิโรจน์ ถือครองโดยย้ายจากกลุ่ม 336 แปลงเลขที่ 4 ปัจจุบันปลูกองุ่น และแปลงที่- กลุ่มที่- เนื้อที่ 15-3-58 ไร่ ยังไม่ได้สำรวจรังวัด ซึ่งเลขาธิการ สปก.จะนำเสนอนายวิวัฒน์ ศัลยกำธร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนายธีระ วงษ์เจริญ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ ต่อไป


เลขาธิการ ส.ป.ก. กล่าวว่า ได้สั่งการให้ตรวจสอบรายละเอียดของกรณีนี้อย่างละเอียดอีกครั้ง โดยจะให้กองกฎหมายจาก ส.ป.ก. ส่วนกลางลงไปเข้าร่วมตรวจสอบกับ ส.ป.ก. จังหวัดกำหนดให้นำเสนอข้อมูลรวมทั้งข้อกฎหมายมาให้พิจารณาไม่เกินวันที่ 26 ตุลาคมนี้ โดยได้กำชับให้ตรวจสอบย้อนกลับไปถึงต้นทางว่าแปลงศูนย์เรียนรู้ฟ้าประทานนั้น ผู้ที่ยื่นขอรังวัดไม่ได้เป็นเกษตรกรจริงหรือไม่ เพราะหากไม่เป็นเกษตรกร การขอเข้าใช้ประโยชน์ในที่ดิน ส.ป.ก. และการครอบครองที่ดินอาจไม่ถูกต้อง หากเป็นเช่นนั้น ส.ป.ก. จะต้องยึดคืนแน่นอน โดยจะไม่มีการละเว้นแก่ผู้ใดทั้งสิ้น 

สำหรับหลักฐานเดิมของการใช้พื้นที่ศูนย์เรียนรู้ฟ้าประทานและไร่ฟลอร่า พาร์ค ทางสมาคมพืชสวนฯ ได้ขอจัดงาน “วังน้ำเขียวฟลอร่า เฟสติวัล” ปี 2553 ซึ่ง คปจ.อนุญาต แต่หลังจากนั้นบริษัท ฟลอร่า พาร์คได้ขอเช่าพื้นที่ ซึ่งจะต้องตรวจสอบว่าการดำเนินงานในพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในลักษณะใด เป็นสมาคม หรือบริษัท หรือเป็นเกษตรกร 

ส่วนห้างเดอะมอลล์ ต้องตรวจสอบว่าเป็นผู้ดำเนินธุรกิจหรือเป็นผู้มารับซื้อผลผลิตเท่านั้น ซึ่งจะต้องหาหลักฐานให้ชัดเจน เนื่องจากทั้ง 2 แปลงก่อตั้งเป็นศูนย์เรียนรู้ จึงต้องไปดูว่าเป็นการทำประโยชน์เพื่อสังคมหรือธุรกิจ หากทำไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ส.ป.ก.จะต้องจากพื้นที่ไป รวมทั้ง ส.ป.ก.จะฟ้องร้องให้ดำเนินการให้พื้นที่กลับคืนสู่สภาพเดิม 

ทั้งนี้ ได้สั่งการไปยังปฏิรูปที่ดินทุกจังหวัดให้ตรวจสอบพื้นที่ ส.ป.ก.ใหม่ทั้งหมดและรายงานภายใน 30 วัน หากพบการครอบครองไม่ถูกต้องจะยึดคืน เพื่อนำที่ดินมาจัดสรรให้เกษตรกรและผู้ยากไร้ที่รออยู่จำนวนมากตามนโยบายคณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

โฆษก ทบ.ลั่น หยุดยิงไม่ได้ “กัมพูชา” เปิดฉากยิงทหารไทยแต่เช้าตรู่

กทม. 27 ก.ค.-โฆษก ทบ.ลั่น หยุดยิงไม่ได้ กัมพูชาโจมตีทหารไทยแต่เช้าตรู่ หลัง “ทรัมป์” ขอให้หยุดยิง พบบ้านเรือนประชาชนเสียหายจากจรวดBM-21 เมื่อวันที่ 27 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณี โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ หารือ นายกฯ กัมพูชา และนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกฯ หากไม่หยุดยิงจะไม่เจรจาเรื่องภาษีสหรัฐนั้น ว่า กัมพูชายังไม่หยุดยิง และยังตอบโต้มาอยู่ตั้งแต่เช้าตรู่ของวันนี้ มีจรวดตกนอกเขตปฏิบัติการทางทหารในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ เมื่อเวลา 04.30 น. ทหารกัมพูชาได้เปิดฉากยิงทหารไทย ด้วยเครื่องยิงจรวดบีเอ็ม-21 แต่ด้วยเป้าหมายของทางกัมพูชาไม่ใช่พื้นที่ทางทหาร แต่เป็นบ้านเรือนประชาชน รวมถึงสถานพยาบาล และชุมชน โดยเมื่อ เวลา 06.30 น. กระสุนปืนใหญ่ (ไม่ทราบชนิด) ตกบริเวณพื้นที่ บ้านตาโสร์ ม.10 ต.บ้านพลวง อ.ปราสาท จ.สรินทร์ […]

“ภูมิธรรม” เผยเห็นชอบข้อเสนอ “ทรัมป์” แต่กัมพูชาต้องจริงใจหยุดยิง

กรุงเทพฯ 27 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เผยคุย “ทรัมป์” เห็นชอบข้อเสนอหยุดยิง แต่ต้องการเห็นความตั้งใจจริงของกัมพูชาและเร่งหารือทวิภาคี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านfacebook Phumtham Wechayachai เมื่อคืนวานนี้ (27 ก.ค.) ว่า ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้เสนอให้ประเทศไทยและกัมพูชาดำเนินการหยุดยิงโดยทันที เพื่อยุติความขัดแย้งที่กำลังเกิดขึ้นบริเวณชายแดน ฝ่ายไทยได้แสดงความขอบคุณต่อความห่วงใยและความปรารถนาดีจากสหรัฐฯ พร้อมยืนยันว่า “ในหลักการ ฝ่ายไทยเห็นชอบต่อการหยุดยิง” อย่างไรก็ดี ไทยยังต้องการเห็น “ความตั้งใจจริงของฝ่ายกัมพูชาในเรื่องดังกล่าว” ไทยจึงได้ขอให้สหรัฐฯ ช่วยถ่ายทอดจุดยืนนี้ไปยังกัมพูชา โดยเสนอให้มีการหารือแบบทวิภาคีโดยเร็วที่สุด และให้กัมพูชาแสดงความจริงจังและจริงใจ เพื่อกำหนดมาตรการและกระบวนการที่ชัดเจนในการหยุดยิง ซึ่งจะนำไปสู่การยุติข้อพิพาทอย่างสันติและยั่งยืนในระยะยาว การเจรจาดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางความพยายามของนานาชาติในการไกล่เกลี่ยความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนทั้งสองประเทศอย่างรุนแรงในช่วงที่ผ่านมา สำหรับข้อความที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Phumtham Wechayachai ระบุว่า “เมื่อครู่ที่ผ่านมา ผมได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้เสนอให้ประเทศไทยและกัมพูชาดำเนินการหยุดยิงโดยทันที ผมได้กล่าวขอบคุณต่อความห่วงใยและความปรารถนาดีของฝ่ายสหรัฐฯ และยืนยันว่า […]

ไทยตอนบน ยังมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ-อีสาน

กทม. 27 ก.ค.-กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบน ยังมีฝนตกหนักบางแห่ง และฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือและอีสาน ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง และมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร และนครพนม ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน และอ่าวตังเกี๋ย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบน และอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06:00 น. วันนี้ ถึง 06:00 น. […]

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย