ขยายเวลาปฏิบัติการฝนหลวงช่วยภัยแล้ง

กรุงเทพฯ 19 ต.ค. – กรมฝนหลวงฯ ขยายเวลาปฏิบัติการช่วยภัยแล้ง เน้นพื้นที่การเกษตร ลุ่มรับน้ำและอ่างเก็บน้ำที่มีความต้องการ 


นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์พื้นที่การเกษตรในหลายภูมิภาคของประเทศ พบว่าเกษตรกรเริ่มประสบปัญหาภัยแล้ง  ทำให้พื้นที่การเกษตรยังคงมีความต้องการน้ำเพื่อหล่อเลี้ยงพืชอีกหลายชนิดที่อยู่ระหว่างการเจริญเติบโต เช่น ข้าว ข้าวโพด อ้อยและมันสำปะหลัง พบว่าพื้นที่เก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวส่วนใหญ่เป็นพื้นที่นอกเขตชลประทาน โดยเก็บเกี่ยวช่วงเดือนพฤศจิกายน 2561 ถึงเดือนมกราคม 2562 ซึ่งขณะนี้เกษตรกรและอาสาสมัครฝนหลวงได้ขอรับบริการฝนหลวงมาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับในส่วนของเขื่อนและอ่างเก็บน้ำต่าง ๆ ยังมีความต้องการปริมาณน้ำเก็บกักมากขึ้น

นายสุรสีห์ กล่าวว่า  กรมฝนหลวงฯ ต้องเร่งเพิ่มปริมาณน้ำให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อให้สอดรับกับโครงการสานพลังประชารัฐ เพื่อสนับสนุนการปลูกข้าวโพดหลังฤดูทำนา ในการช่วยเหลือเกษตรกรหลังฤดูการทำนา ซึ่งเป็นรูปแบบการปฏิรูปภาคเกษตรให้ผลผลิตสมดุลกับตลาดสามารถยกระดับรายได้เกษตรกรได้จริง โดยกรมฝนหลวงฯ ได้ปรับแผนการปฏิบัติการฝนหลวงขยายเวลาปฏิบัติการฝนหลวง จากที่กำหนดปิดหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงทั่วประเทศในวันที่ 31 ตุลาคม ให้ขยายเวลาไปจนถึงกลางเดือนพฤศจิกายนนี้ หรืออาจขยายการปฏิบัติการต่อเนื่องไปจนกว่าสภาพอากาศจะไม่เอื้ออำนวยต่อการปฏิบัติการ โดยกรมฝนหลวงฯ จะติดตามสถานการณ์สภาพอากาศจากสถานีเรดาร์ตลอด 24 ชม ถ้าพบว่าสภาพอากาศเหมาะสมก็จะขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวงทันที ซึ่งขณะนี้ได้สั่งการให้หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงที่ไม่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งให้ระดมกำลังไปปฏิบัติการในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบนี้แล้ว


นายสุรสีห์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ผลรวมการปฏิบัติการฝนหลวงตั้งแต่เริ่มตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง เมื่อวันที่ 1 มีนาคม – 18 ตุลาคม 2561 มีการขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวง 218 วัน มีวันฝนตกจากการปฏิบัติการฝนหลวงคิดเป็นร้อยละ 95.15 ขึ้นบินปฏิบัติงาน 4,162 เที่ยวบิน ปริมาณการใช้สารฝนหลวง 3502.63 ตัน พลุซิลเวอร์ไอโอไดด์สำหรับภารกิจปฏิบัติการฝนหลวง 1,809 นัด พลุแคลเซียมคลอไรด์สำหรับภารกิจปฏิบัติการฝนหลวง 84 นัด จังหวัดที่มีรายงานฝนตกรวม 58 จังหวัด และตามแผนการคาดการณ์ปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนและอ่างเก็บน้ำในภูมิภาคต่าง ๆ ระหว่างวันที่ 20 กันยายน  – 31 ตุลาคม 2561 สามารถปฏิบัติการฝนหลวงเพิ่มปริมาณน้ำเก็บกักได้ตามเป้าหมาย ได้แก่ ภาคเหนือที่เขื่อนแม่กวงอุดมธารา จังหวัดเชียงใหม่ มีปริมาณน้ำไหลเข้า จำนวน 8.030 ล้าน ลบ.ม.จากแผนคาดการณ์ 10 ล้าน ลบ.ม. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่เขื่อนลำแชะ จังหวัดนครราชสีมา มีปริมาณน้ำไหลเข้า  4.630 ล้าน ลบ.ม.จากแผนคาดการณ์ 5 ล้าน ลบ.ม. ภาคกลางที่อ่างเก็บน้ำทับเสลา จังหวัดอุทัยธานี มีปริมาณน้ำไหลเข้า 10.550 ล้าน ลบ.ม.จากแผนคาดการณ์ 5 ล้าน ลบ.ม. และภาคตะวันออกที่อ่างห้วยยาง จังหวัดสระแก้ว มีปริมาณน้ำไหลเข้า  3.12 ล้าน ลบ.ม.จากแผนคาดการณ์ 12 ล้าน ลบ.ม. สำหรับอ่างเก็บน้ำและเขื่อนอื่น ๆ จะเร่งปฏิบัติการอย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยเพิ่มปริมาณน้ำเก็บกักให้รองรับความต้องการของเกษตรกรได้อย่างเพียงพอ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

ก.อุตฯ บุกตรวจโกดังเก็บพลาสติกไฟไหม้สมุทรสาคร

“ทีมสุดซอย” ขยายผลตรวจโรงงานรีไซเคิลพลาสติกเถื่อนสมุทรสาคร ที่เกิดเหตุไฟไหม้ พบเปลือกหุ้มสายไฟหลอมเป็นเม็ดพลาสติก มูลค่ากว่า 170 ล้านบาท อุตสาหกรรมจังหวัดฯ สั่งหยุดกิจการทันที พร้อมยึดใบอนุญาต ฟันข้อหาตั้ง-ประกอบกิจการโดยไม่ได้รับอนุญาต

สนาม อบจ.ภูเก็ต แข่งขันเดือด คนทยอยใช้สิทธิ

ชาวภูเก็ตทยอยเข้าคูหาเลือกตั้ง อบจ. หลายฝ่ายจับตามองเป็นพิเศษ เพราะการแข่งขันดุเดือด ขณะที่ กกต. ตั้งเป้าผู้ใช้สิทธิไม่น้อยกว่าร้อยละ 65