กรุงเทพฯ 19 ต.ค. – พาณิชย์เร่งใช้การตลาดนำการผลิต แนะใช้เทคโนโลยีลดต้นทุน เชื่อข้าวไทยยังเป็นที่ต้องการของตลาด
นางสาวชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิดเสวนาโต๊ะกลม “เสียงสะท้อนชาวนาไทยทั้งแผ่นดิน” ภายใต้โครงการพลังประชารัฐพัฒนาข้าวไทย หลังจากได้รับฟังเสียงของเกษตรกรผู้ปลูกข้าวจาก 42 จังหวัดทั่วประเทศ โดยกล่าวว่า ที่ผ่านมาได้เห็นความตั้งใจของทุกภาคส่วนที่จะทำให้ชีวิตชาวนาดีขึ้น ระบบการปลูกข้าวดีขึ้น ซึ่งการปลูกข้าวในอนาคตต้องใช้การตลาดนำการผลิต จะต้องรู้ว่ามีการปลูกข้าวขาว ข้าวหอมมะลิจำนวนเท่าไหร่ จะต้องมีการพยากรณ์ตลาดล่วงหน้า โดยกระทรวงพาณิชย์จะต้องมีการพูดคุยกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์อย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ ถ้าผลิตข้าวได้ดีมีคุณภาพและชะลอการนำข้าวออกมาขายจะทำให้ข้าวมีราคาดีขึ้น โดยส่วนตัวทดลองเป็นผู้จัดการชาวนา ทำให้รับรู้ปัญหาเรื่องข้าวหากชาวนามีปัญหาสามารถโทรไปปรึกษาได้ที่เบอร์ 1569
นางสาวชุติมา ยังได้กล่าวด้วยว่า ผู้ที่จะทำให้ข้าวไทยประสบความสำเร็จขึ้นอยู่กับชาวนาไทยไม่ใช่เจ้าของโรงสี และเชื่อมั่นว่าข้าวไทยมีคุณภาพดีที่สุดในโลก แต่หลังจากนี้ชาวนาไทยจะต้องนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้มากขึ้น เช่น ชาวนาญี่ปุ่นสามารถปลูกข้าวได้เองในครอบครัว โดยใช้แรงงานคนเพียงแค่ 2-3 คน แต่สามารถผลิตข้าวได้จำนวนมาก สำหรับการเสวนาครั้งนี้จะนำผลที่ได้เสนอที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เพื่อผลักดันสู่ยุทธศาสตร์ข้าวของชาติในเดือนธันวาคมนี้ต่อไป
รมช.พาณิชย์ กล่าวถึงสถานการณ์ข้าวไทยว่า ราคาข้าวหอมมะลิขณะนี้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ถือว่าราคายังสูงไม่ต่ำกว่าปีที่ผ่านมา ราคาเฉลี่ยตันละ 12,000 บาท คาดว่าส่วนหนึ่งมาจากการใช้หลักการตลาดนำการผลิตมาควบคุมปรับสมดุลปริมาณและความต้องการ พร้อมยืนยันการค้าข้าวจะต้องเป็นธรรมทุกฝ่าย ขณะที่การส่งออกไม่น่าห่วง แม้จะมีสงครามทางการค้าระหว่างประเทศมหาอำนาจก็ตาม
ร.ต.ท.เจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า การส่งออกข้าวขณะนี้ไม่น่ากังวล แม้จะมีคู่แข่งหลายประเทศ โดยเฉพาะเวียดนามและกัมพูชา เนื่องจากยังมีปริมาณข้าวสำหรับการส่งออกไม่เพียงพอ ดังนั้น เชื่อว่าข้าวไทยยังเป็นที่ต้องการ ส่วนข้าวหอมมะลิไทยขณะนี้มีแนวโน้มดีขึ้น เฉลี่ยอยู่ที่ตันละ 1,100 ดอลลาร์สหรัฐ.-สำนักข่าวไทย