ก.แรงงาน เตรียมมาตรการรองรับผีน้อยหลังทยอยกลับมาเเล้วกว่าพันคน

กระทรวงแรงงาน 18 ต.ค. – ก.แรงงาน เตรียมมาตรการรองรับผีน้อย  หลังทยอยกลับมาเเล้วกว่าพันคน ก่อนเกาหลีดีเดย์ 1 พ.ย. ด้านสมาคมท่องเที่ยวเผยรับผลกระทบหนัก นักท่องเที่ยวโดนเหมารวมเป็นแรงงาน สกัดไม่ให้เข้าประเทศ 


พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานการประชุมหารือแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาแรงงานไทยถูกหลอกลวง และลักลอบไปทำงานในสาธารณรัฐเกาหลี ครั้งที่ 1/2561   ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเเละกงสุลเกาหลีประจำประเทศไทย เพื่อรับทราบความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ เพื่อประสานความร่วมมือการสกัดกั้นคนหางานที่ลักลอบไปทำงานในสาธารณรัฐเกาหลี 


พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวว่า  หลังพบปัญหาเเรงงานไทยลักลอบเข้าทำงานที่เกาหลีกว่า 120,000 คน จากเเรงงานทั้งหมด 180,000 ซึ่งเป็นเเรงงานที่ถูกต้องตามกฎหมายเพียง 60,000 คน โดยในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ เกาหลีจะดำเนินการอย่างเข้มงวด หลังมีมาตราการผ่อนปรนให้กลับประเทศได้ตั้งเเต่เดือน 1 ตุลาคม 2561- 31 มีนาคม 2562 โดยไม่ขึ้นบัญชีดำหรือเเบล็คลิสต์ เเต่หากหลังจากนี้พบว่าลักลอบ จะไม่สามารถเดินทางเข้าเกาหลีได้เป็นเวลา 10 ปี


กระทรวงเเรงงานเตรียมพร้อมรองรับคนไทยที่จะเดินทางกลับประเทศเกาหลี โดยมีมาตรการขยายตลาดเเรงงานใน 3 ด้าน คือ มาตรการรองรับเเรงงานที่สมัครใจกลับประเทศ โดยจะตั้งศูนย์ช่วยเหลือดูเเลเเรงงานไทยในประเทศเกาหลี อาจจะเป็นสนามบินในประเทศเกาหลี เพื่อดูเเลเเรงงานไทย พร้อมตั้งศูนย์ให้ความช่วยเหลือแก่เเรงงานไทยที่เดินทางกลับจากเกาหลี 2 จุด คือ ด่านตรวจคนหางานสุวรรณภูมิเเละด่านดอนเมือง เเละสั่งสำนักงานจัดหางานเเต่ละจังหวัดดูเเลเเรงงานที่ต้องการกลับไปทำงานในภูมิลำเนา โดยขณะนี้มีตำเเหน่งงานรองรับเเล้วกว่า 1 เเสนอัตรา แบ่งเป็นในประเทศ 62,174 อัตรา ส่วนในต่างประเทศมีกว่า45,000 อัตรา เช่น ไต้หวัน ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ตะวันออกกลาง เเละยุโรป   ขณะเดียวกันจะมีการฝึกอบรมทักษะภาษาเกาหลีหรือทักษะอื่นๆให้กลับเเรงงานที่เดินทางกลับมาด้วย  

มาตราการต่อมา คือ การเพิ่มประสิทธิภาพการส่งเเรงงานไทยเข้าไปทำงานในเกาหลีอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เตรียมขอเพิ่มโควต้าในการจัดส่งเเรงงานไทยเข้าทำงานในเกาหลีภายใต้โครงการ EPS จาก 5,000 อัตรา เป็น 15,000 อัตรา รวมถึงขอขยายเวลาการทำงานจากเดิม 9 ปี 8 เดือน เป็น 14 ปี ขอขยายอายุของเเรงงานไทย เดิม 39 ปี เป็นไม่เกิน 45 ปี ขอเพิ่มสัดส่วนการคัดเลือกเเรงงานหญิงไทยทำงานมากขึ้น 

เเละสุดท้าย คือ การสร้างความเชื่อมั่นในการการลักลอบไปทำงานในเกาหลี ด้วยการตั้งทีมเฝ้าระวังทางโลกออนไลน์ ตรวจสอบบริษัทหรือนายหน้าที่หลอกลวง รวมถึงตั้งชุดเฝ้าระวังที่สนามบินด้วย เเละทำงานร่วมกับปปง.ตรวจสอบ หากจับกุมรายใหญ่ได้ก็จะลดปัญหานี้ได้ เเละเพิ่มการประสานงานอย่างเเน่นเเฟ้นมากยิ่งขึ้นระหว่างรัฐบาลไทยเเละเกาหลี

ด้าน นายสุชาติ พรชัยวิเศษกุล รองอธิบดีกรมจัดหางาน กล่าวว่า แรงงานไทยชอบไปเกาหลี เพราะได้รับค่าตอบเเทนสูง ประมาณ 50,000 บาทต่อเดือน เเละนายจ้างเกาหลีก็ชอบเเรงงานไทยเพราะตั้งใจทำงาน เเต่โควต้าที่มีกำจัด 5,000 อัตรา ทำให้ยอมลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย ส่งผลให้ บางเดือนเกาหลีระงับการเดินทางของคนไทยกว่าร้อยละ 82 รายงานจากข้อมูลของตม.เกาหลี ระบุช่วง  1-14 ต.ค.61เเรงงานไทยเดินทางกลับ แล้ว 940 คน คาดว่าส่วนใหญ่ยังไม่ตัดสินใจ ขณะที่ตั้งเเต่ต้นปี มีเเรงงานถูกสกัดไม่ให้เข้าประเทศเฉลี่ยเดือนละ 800 คน

ด้านสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รระบุ จากข้อมูลพบว่าเเรงงานส่วนใหญ่สมัครใจไป และมีนายหน้า หรือบริษัททัวร์พาไป เเละจัดหางานให้ ส่วนใหญ่ เป็นงานในโรงงานการเกษตร เเละนวดเเผนไทย ซึ่งอาชีพนวดส่วนใหญ่ก็จะถูกหลอกไปขายบริการต่อ โดยการที่นายกน้าไป บางคนไม่คิดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง เเต่จะใช้วิธีการหักเงินเดือนเดือนเเรก หรือหนักสุดก็เบี้ยวค่าเเรงทั้งหมด  พร้อมขอให้สำนักงานป้องกันเเละปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) ตรวจสอบบริษัทนายหน้าที่หลอกเเรงงานด้วย

ขณะที่นายยุทธชัย สุนทรรัตนเวช อุปนายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว กล่าวว่า ขณะนี้นักท่องเที่ยวที่จะไปเที่ยวจะถูกเหมารวมอาจเป็นแรงงานผิดกฎหมายด้วย เเละถูกตีกลับเดือนละกว่า 100 คน เพราะมีบริษัททัวร์ที่เเฝงขายทัวร์ให้เเรงงานลักลอบเข้าทำงาน โดยเอาโปรแกรมท่องเที่ยวบังหน้า ซึ่งมีการประชาสัมพันธ์ในเฟสบุ๊คอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย รวมถึงมีการวางเเผนอย่างดีเพื่อไม่ให้ ตม.เกาหลีจับได้ เช่น การฝึกพูด เตรียมชุดข้อมูล และเสื้อผ้าใหม่  ซึ่งตนเคยเเฝงตัวเข้าไปตรวจสอบเเละเเจ้งกับเจ้าหน้าที่ของ ก.เเรงงาน เเต่พบมีเจ้าหน้าที่ทำงานช่วงกลางคืนเเค่คนเดียว ทั้งที่เป็นช่วงที่สายการบินโลว์คอสจะเดินทางออกนอกประเทศ ซึ่งหากจะตรวจสอบจะพบได้ง่ายกว่าตอนกลางวัน ถือเป็นการสกัดกั้นตั้งเเต่ต้นทาง จึงเสนอให้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ให้มากขึ้น เพื่อสกัดกั้นทันเวลา  พร้อมขอให้เกาหลีสร้างมาตรฐานราคาการท่องเที่ยว อย่าทำเเบบทัวร์ศูนย์เหรียญ เพราะจะยิ่งทำให้เเรงงานถูกนายหน้าบริษัทท่องเที่ยวหลอกได้โดยง่าย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบเจ้าบ่าวลอบขนยาบ้ากว่า 5 ล้านเม็ด

ปราจีนบุรี 17 พ.ค. – ตำรวจสกัดจับพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ พร้อมของกลางยาบ้ากว่า 5 ล้านเม็ด อาวุธปืนขนาด 9 มม. 1 กระบอก กระสุนปืน 10 นัด รถกระบะ 1 คัน นาทีเจ้าหน้าที่สกัดจับนายธนธรรม หรือ เม่น เจ้าบ่าวซึ่งเพิ่งผ่านพิธีแต่งงานไปไม่นาน และเป็นหนึ่งในแก๊งค้ายาเสพติดรายใหญ่ โดยจับกุมได้บริเวณถนนบ้านหนองหอย อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พร้อมของกลางยาบ้ากว่า 5 ล้านเม็ด, อาวุธปืนขนาด 9 มม. 1 กระบอก, กระสุนปืน 10 นัด และรถกระบะ 1 คัน ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เผยขบวนการนี้ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากริมแม่น้ำโขง จ.อำนาจเจริญ มาซุกซ่อนไว้ที่บ้านในปราจีนบุรี เพื่อเตรียมกระจายไปยังพื้นที่ปทุมธานี เจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวจนพบว่าจะมีการเดินทางไปยัง จ.อุบลราชธานี เพื่อรับยาเสพติด กระทั่งกลุ่มผู้ต้องหารู้ตัวว่าถูกสะกดรอย จึงเร่งความเร็วรถหลบหนี ก่อนพุ่งชนรถเจ้าหน้าที่ และถูกสกัดจับไว้ได้ ขณะที่รถยนต์ 2 […]

ไรเดอร์ชกเบ้าตาแตก ฉุนเมาปักหมุดมั่วแถมลวนลาม

พัทยา 17 พ.ค.- ไรเดอร์ฉุน ชกนักท่องเที่ยวชาวอินเดียจนเบ้าตาแตก พยานบอกผู้ก่อเหตุฉุนปักหมุดผิดทำขี่วนหลายรอบ แถมถูกลวนลามจึงทนไม่ไหว นักท่องเที่ยวชาวอินเดีย อายุประมาณ 35-40 ปี นอนบาดเจ็บ คิ้วซ้ายและเบ้าตาซ้ายแตกเลือดอาบหน้าอยู่ในอาการมึนเมา เหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงประมาณตี 1 วันนี้ ในซอยเทพประสิทธิ์ 17 เมืองพัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ส่วนผู้ก่อเหตุหลบหนีไปก่อนเจ้าหน้าที่จะมาถึง แต่พลเมืองดีบันทึกภาพไว้ได้ จึงมอบให้ตำรวจเป็นหลักฐาน สอบถามพนักงานรักษาความปลอดภัยของคอนโดฯ แห่งหนึ่งใกล้จุดเกิดเหตุ ให้ข้อมูลว่าผู้ก่อเหตุเป็นไรเดอร์ส่งผู้โดยสาร และเล่าให้ตนฟังว่านักท่องเที่ยวคนนี้มึนเมาอย่างหนัก แถมปักหมุดสถานที่ส่งผิดที่ ผู้ก่อเหตุก็พยายามวนหาอยู่หลายครั้ง เท่านั้นยังไม่พอ ผู้บาดเจ็บได้ลวนลามผู้ก่อเหตุ จนผู้ก่อเหตุโมโหและจอดรถชกหน้าทันที ทั้งนี้ ผู้บาดเจ็บจะเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองพัทยา หลังรักษาอาการบาดเจ็บแล้ว .-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” นำค้นวัดไร่ขิง 3 จุด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด

นครปฐม 16 พ.ค.-“บิ๊กเต่า” นำกำลังตำรวจกองปราบบุกค้นวัดไร่ขิง 3 จุด หาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เอี่ยวคดียักยอกเงินวัด 300 ล้าน พร้อมนำหมายค้นบ้านประชาชน 1 จุด ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่วัด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด เวลา 07.00 น. พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ป.ป.ช. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. ตรวจค้นภายในวัดไร่ขิงพระอารามหลวง มีทั้งหมด 3 จุด และบริเวณโดยรอบอีก 1 จุด ซึ่งจุดแรกในวัดไร่ขิงคือกุฏิของพระธรรมวชิรานุวัตร หรือเจ้าคุณแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงและเจ้าคณะภาค 14 โดยมีผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงเป็นผู้ที่นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นภายในกุฎิ พร้อมสังเกตการณ์ ทันทีที่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการถึงบริเวณหน้ากุฎิเจ้าอาวาส ได้ให้ตำรวจอ่านหมายค้น เพื่อเข้าตรวจสอบและยึดสิ่งของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในการกระทำความผิด ทั้งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือและเอกสารที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปใช้ประกอบหลักฐานการสอบสวนไต่สวนมูลฟ้องในการพิจารณาความผิด ขณะที่พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากการอ่านหมายค้น ว่า วันนี้เป็นการตรวจค้นเกี่ยวกับเส้นเงินที่ไหลไปตามบัญชีต่างๆ มีใครเกี่ยวข้องบ้าง ต้องมีการเรียกสอบรายบุคคลพร้อมกับการตรวจค้น โดยหลักๆ ส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับเส้นเงินที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ โดยมุ่งเน้นไปยังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ […]

2 ผู้ต้องหามอบตัว คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์ม

ตรัง 16 พ.ค. – หัวหน้าแก๊ง พร้อมลูกน้องอีก 1 คน ก่อเหตุเผานั่งยาง 3 ศพในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ติดต่อขอมอบตัว หวั่นถูกวิสามัญ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังไล่ล่า เช้านี้ ตำรวจ สภ.โคกนา เจ้าของพื้นที่คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ได้รับการประสานจากอดีตสมาชิกสภาจังหวัด ในพื้นที่อำเภอสิเกาว่า จะนำตัว 2 ผู้ต้องหาเข้ามอบตัว คือ นายศุภกรณ์ หรือบิน อายุ 37 ปี ชาวตำบลกะลาเส อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊ง และนายจรณชัย หรือแต้ม อายุ 32 ปี ชาวหมู่ 7 ตำบลน้ำผุด อำเภอเมือง จังหวัดตรัง เนื่องจากผู้ต้องหาทั้งสองคน กังวลเรื่องความปลอดภัย หากหลบหนีต่อไป เกรงถูกวิสามัญฆาตกรรม หลังเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน ระดมปิดล้อมบ้านเขาหลัก […]

ข่าวแนะนำ

ระทึก! ตำรวจไล่ล่า-ยิงยางสกัดกระบะซิ่ง พบไอซ์ซุกในรถ

17 พ.ค. – ระทึก! ตำรวจสายตรวจขี่รถจักรยานยนต์ไล่ล่ากระบะซิ่งหนีชนดะ ต้องยิงยางสกัดจึงสิ้นฤทธิ์ ตรวจค้นพบไอซ์จำนวนหนึ่งซุกซ่อนในรถ เพจเฟสบุ๊กชื่อ วัชรพล สายไหม เพิ่มสิน สุขาภิบาล 5 โพสต์ข้อความระบุว่า “เลี่ยงทางถนนเทพารักษ์ วัชรพล” พร้อมกับคลิปเหตุการณ์ที่มีรถกระบะแต่งซิ่งคันหนึ่งขับเร่งเครื่องจนควันดำเต็มถนน เหมือนพยายามหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยในคลิปจะเห็นว่าด้านหน้ารถกระบะคันดังกล่าวมีรถกระบะจอดขวางทางอยู่ 1 คัน และด้านซ้ายของคลิปจะเห็นรถจักรยานยนต์ตำรวจสายตรวจล้มอยู่ อีกทั้งยังได้ยิงเสียงปืน และในจังหวะที่รถกระบะกำลังถอยเพื่อกลับลำหนี มีรถกระบะคันหนึ่งวิ่งเข้ามาชนท้ายอย่างจัง เพื่อปิดทางหนีของรถกระบะคันดังกล่าว และในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทุบกระจกรถกระบะ พร้อมนำตัวผู้ก่อเหตุออกมาจากรถได้ จากการตรวจสอบพบว่าเป็นรถกระบะอีซูซุโหลดเตี้ยแต่งซิ่ง ทะเบียนกรุงเทพมหานคร มีรอยเฉี่ยวชนรอบคัน ล้อด้านซ้ายแตกทั้งล้อหน้า ล้อหลัง และยางล้อหน้าด้านซ้ายมีเศษหัวกระสุนติดอยู่ ส่วนคนขับรถกระบะทราบชื่อคือ นายชัยชนะ อายุ 41 ปี ถูกจับกุมพร้อมของกลางไอซ์จำนวนหนึ่งซุกซ่อนในรถกระบะ ด้านพลเมืองที่ช่วยตำรวจสกัดคนร้ายไม่ให้หลบหนี คือนายประหยัด เจ้าของรถกระบะวีโก้สีดำ ได้รับความเสียหายบริเวณตัวรถด้านซ้ายจนถึงท้ายรถ ซึ่งจอดขวางหน้ารถกระบะคันก่อเหตุ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุขณะตนเองขับรถอยู่ในซอยพหลโยธิน 50 เห็นรถสายตรวจจักรยานยนต์ขี่ไล่รถกระบะคันเกิดเหตุมาจนมาถึงซอยเทพรักษ์ 23 รถคนร้ายเฉี่ยวชนรถของตนเองเลยขับตามมา ตอนนั้นไม่รู้ว่าเขาไล่จับอะไรกัน แต่ได้ยินสายตรวจบอกให้ช่วยไล่ จึงช่วยเพราะก็ถูกชนแล้วหนีเหมือนกัน จนมาช่วยสกัดได้ตรงนี้ […]

ตัดทุเรียนโชว์

นายกฯ ลงพื้นที่เมืองจันท์ ตัดทุเรียนโชว์ พบชาวสวนผลไม้ รับฟังปัญหาราคาผลผลิตแกว่ง

จันทบุรี 17 พ.ค.- นายกฯ ลงพื้นที่ จ.จันทบุรี ตัดทุเรียนโชว์ พบชาวสวนผลไม้ รับฟังปัญหาราคาผลผลิตแกว่ง ไม่ได้มาตรฐาน ขอช่วยแก้ลดเวลาสินค้าตกค้าง-แก้ปมแรงงาน ด้าน สส.ประชาชน เสนอปัญหา ด้านนายกฯ ลั่นรัฐบาลเร่งอำนวยความสะดวกเอกสารส่งออก-ลดเวลาตรวจหน้าด่าน น.ส.แพทองธาร​ ชินวัตร​ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนางสาวจิราพร​ สินธุไพร​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ​ ชมกลิ่น​ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์​ นายอิทธิ​ ศิริลัทยากร และนายอัครา​ พรหมเผ่า​ รัฐมนตรีช่วย​ว่าการ​กระทรวง​เกษตรและสหกรณ์​ ลงพื้นที่รับฟังปัญหาเรื่องต้นทุนการผลิตและผลผลิต จากเกษตรกรชาวสวนผลไม้และผู้ประกอบการรับซื้อผลไม้ในพื้นที่ภาคตะวันออก รวมถึงแนวทางการให้ความช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐ ณ สวนรักตะวัน ตำบลสองพี่น้อง อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรียังเข้าร่วมชมการไลฟ์ขายทุเรียนของเกษตรกรรุ่นใหม่ Young Smart Farmer นอกจากนี้ยังมี สส.ในพื้นที่ จ.จันทบุรี และ จ.ตราด ซึ่งเป็น สส. จากพรรคประชาชน เดินทางมารอนายกรัฐมนตรี เพื่อจะร่วมสะท้อนปัญหาของเกษตรกรในพื้นที่ให้กับนายกรัฐมนตรี โดยมีนางสาวญาณธิชา บัวเผื่อน สส.จันทบุรี […]

“ชี้จุด-ทำแผน” ฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพหมกสวนปาล์ม

ตรัง 17 พ.ค.- คุมตัว 4 ผู้ต้องหาคดีฆ่าเผานั่งยาง ชี้จุดเกิดเหตุพร้อมทำแผนฯ ที่สวนปาล์มน้ำมัน หลังเจ้าหน้าที่ใช้เวลาเพียง 6 วันตามรวบยกทีม เจ้าหน้าที่ใช้เวลาเพียง 6 วันสามารถรวบผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดตรัง ครบทั้ง 4 คนในคดีฆ่าฝังและเผานั่งยาง รวม 4 ศพ ล่าสุดช่วงเช้าของวันนี้ เจ้าหน้าที่คุมตัวทั้งหมดไปชี้จุดเกิดเหตุและทำแผนฯ ที่สวนปลามน้ำมัน ผู้ต้องหาทั้ง 4 คนถูกควบคุมตัวไปชี้จุดเกิดเหตุและทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บริเวณสวนปาล์มน้ำมัน บนเนื้อที่ 170 ไร่ ในตำบลกะลาเส อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ประกอบด้วย นายศุภกรณ์ หรือบิน หัวหน้าแก๊ง นายจรณชัย หรือแต้ม นายปิยะศักดิ์ หรือแจ๊ค และนายรพีพันธ์ หรือเถือก ทั้งหมดถูกตั้งหลายข้อหา อาทิ “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน โดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย ร่วมกันซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ เพื่อปิดบังการตายฯ, ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธ เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ฯลฯ”โดย มี พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ […]

ยักยอกเงินวัด

โกงผ่านวัด… อุดช่องโหว่คอร์รัปชัน

17 พ.ค.- อีกประเด็นสำคัญที่ต้องกวาดล้างปราบปรามอย่างจริงจัง คือ การทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งเป็นปัญหาเรื้อรัง เกิดขึ้นแทบทุกวงการ ไม่เว้นวัด หลายปีที่ผ่านมา คดี “เงินทอนวัด” หรือการทุจริตเงินอุดหนุนวัด สะเทือนวงการสงฆ์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ วันนี้ จะไปพูดคุยเรื่องนี้ กับ ดร.มานะ นิมิตรมงคล ประธานองค์กรต่อต้านต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) .-สำนักข่าวไทย