กรุงเทพฯ 18 ต.ค. – ก.เกษตรฯ ประสานผู้ว่าฯ 33 จังหวัด จัดทีมเชิญชวนเกษตรกรร่วมโครงการปลูกข้าวโพดหลังนา ขณะที่ผู้ว่าฯ ตั้งวอร์รูมส่งเสริมปลูกข้าวโพด ชี้เป็นต้นแบบปฏิรูปภาคเกษตร เดินหน้าสร้างรายได้ให้เกษตรกรอย่างมั่นคง
นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ได้ส่งหนังสือด่วนที่สุดขอความร่วมมือผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอเร่งรัดเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมกับให้สำนักงานเกษตรจังหวัดในฐานะเลขาอนุกรรมการพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์ระดับจังหวัด (อ.พ.ก.) ที่มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน พร้อมจัดคณะทำงานจาก 5 หน่วยงาน ลงพื้นที่เชิญชวนเกษตรกรเข้าร่วมโครงการสานพลังประชารัฐ เพื่อสนับสนุนการปลูกข้าวโพดหลังฤดูทำนาปี ซึ่งจะเริ่มดำเนินการเดือนพฤศจิกายน 2561 ให้เป็นไปตามเป้าหมายทั้งจำนวนเกษตรกรและพื้นที่เป้าหมายของโครงการ ซึ่งกำหนดไว้ 2 ล้านไร่ และให้เห็นผลเป็นรูปธรรม
สำหรับพื้นที่เป้าหมาย 33 จังหวัด ได้แก่ กำแพงเพชร เชียงราย ตาก น่าน พะเยา พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ แพร่ สุโขทัย อุตรดิตถ์ นครสวรรค์ อุทัยธานี ลำพูน ลำปาง บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี กาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยภูมิ หนองบัวลำภู หนองคาย นครราชสีมา ปราจีนบุรี ชัยนาท สระบุรี นครพนม สกลนคร มหาสารคาม ร้อยเอ็ด สุรินทร์ และอุดรธานี
นายกฤษฎา กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่เป้าหมายให้ความสำคัญโครงการนี้อย่างมาก โดยจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการประจำโครงการขึ้นที่จังหวัดด้วย (War Room) เพื่อติดตามงานให้บรรลุเป้าหมายของโครงการ ก็ขอขอบคุณ มา ณ โอกาสนี้ ซึ่งเป็นรูปแบบ (Model) การปฏิรูปภาคเกษตรให้ผลผลิตสมดุลกับตลาด ยกระดับรายได้เกษตรกรได้จริง ก่อนตัดสินใจลงมือทำเกษตรมีข้อมูลเรื่องราคาซื้อขาย รู้ปริมาณความต้องการของตลาด โดยรัฐจัดหาเอกชนเข้าซื้อในราคาเป็นธรรม มีประกันภัยผลผลิต 1, 500 บาทต่อไร่ ลดความเสี่ยงในอาชีพ พร้อมมีมาตรการช่วยปัจจัยการผลิต ให้เงินทุนดอกเบี้ยต่ำร้อยละ 0.01 รายละ 15 ไร่ ไร่ละ 2, 000 บาท แต่เกษตรกรสามารถปลูกข้าวโพดกี่ไร่ก็ได้ตามความต้องการและนำเข้าร่วมโครงการได้ทั้งหมด เมื่อรูปแบบโครงการนี้สำเร็จพร้อมจะนำไปเป็นต้นแบบบริหารจัดการผลผลิตทางเกษตรทั้งระบบ
นายกฤษฎา กล่าวว่า ให้ทุกพื้นที่จัดตั้งศูนย์อำนวยการโครงการประจำและจัดเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการประจำพื้นที่ จาก 5 หน่วยงาน ลงพื้นที่ชี้แจงเกษตรกรให้เข้าใจถึงประโยชน์ที่ได้รับ พร้อมประสานกับเอกชน ตั้งจุดรับซื้อผลผลิต ราคารับซื้อ ทำสัญญาซื้อขายข้าวโพดล่วงหน้า ทั้งนี้ ปลัดกระทรวงเกษตรและอธิบดีให้ประสานงานโดยตรงกับปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) และส่วนราชการต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด รวมทั้งให้ผู้ตรวจราชการทุกเขตลงไปตรวจติดตามความก้าวหน้าในการดำเนินงานตามโครงการทุกระยะและให้รับฟังปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ แล้วรายงานเข้ามายังส่วนกลาง เพื่อแก้ไขปัญหาและอุปสรรคโดยเร็วที่สุด.-สำนักข่าวไทย