fbpx

ตร.ฟันธง ไม่มีข่มขืนแหม่มอังกฤษบนเกาะเต่า

กทม.16 ต.ค.-ตร.ยัน หลังบินไปสอบแหม่มอังกฤษ ไม่มีเหตุการณ์ข่มขืนผู้เสียหายบนเกาะเต่า จ.สุราษฎร์ ตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด


พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.นำทีมชุดตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีแหม่มสาวชาวอังกฤษ อ้างถูกข่มขืนบนเกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี เหตุเกิดเมื่อ 25 มิ.ย.ที่ผ่านมา ประกอบด้วย พล.ต.ต.สุรเชษฐ์  หักพาล รรท. ผบช.สตม., พล.ต.ต.ปรีดี พงศ์เศรษฐสันต์ รองผู้บัญชาการสำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ตำรวจ และ พ.ต.ท.ปิยะพงษ์ บุญแก้ว สารวัตรใหญ่ สภ.เกาะเต่า โดยระบุผลการส่งพนักงานสอบสวนหญิงและคณะไปประเทศอังกฤษเพื่อสอบปากคำผู้เสียหายในประเด็นต่างๆที่เกี่ยวข้อง ปรากฎว่า ผู้เสียหายให้การไม่มั่นคงหรือชัดเจนในประเด็นสถานที่เกิดเหตุซึ่งพนักงานสอบสวนได้นำภาพถ่ายจุดเกิดเหตุ บริเวณชายหาด และบริเวณใกล้เคียง ให้ผู้เสียหายดู แต่ไม่สามารถยืนยันจุดที่เกิดเหตุได้, ประเด็นตำหนิ รูปพรรณคนร้าย ให้การได้เพียงคร่าวๆว่าคนร้ายเป็นชาย ไว้หนวดเครา แต่ไม่สามารถระบุรูปร่าง สีผิวและความสูงได้ ส่วทรัพย์สินที่แจ้งหายมีเพียงเงินสด 3,000 บาท ไอโฟน 7 plus  และบัตรเครดิต , ประเด็นพฤติกรรมของคนร้าย ก็ไม่สามารถบอกแผนประทุษกรรมหรือพฤติกรรมในการกระทำความผิดได้ และผู้เสียหาย ได้มอบหลักฐานให้เพียงชิ้นเดียวคือ เสื้อยืดคอกลมสีกรมท่าซึ่งอ้างว่ามีคราบอสุจิติดอยู่ แต่เมื่อนำมาตรวจพิสูจน์ กลับไม่พบคราบอสุจิ พบเพียงดีเอ็นเอผู้ชาย 1 หญิง 1 ซึ่งเป็นดีเอ็นเอจากการสัมผัสเสื้อ จึงไม่มีพยานหลักฐานใหม่ จึงมีความเห็นว่า ข้อมูลมีจำกัด ไม่แน่ชัดและไม่เพียงพอที่จะดำเนินการต่อได้ จึงขอยุติการสอบสวนไว้ก่อน พร้อมยืนยันว่า กรณีนี้ไม่มีเหตุการณ์เกิดขึ้นจริงตามที่กล่าวอ้าง


พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ ยันยันจะไม่แจ้งความเอาผิดแหม่มอังกฤษ ฐานแจ้งความเท็จ เนื่องจากผู้เสียหายยังไม่ได้แจ้งความไว้ในประเทศไทย เป็นเพียงการให้สัมภาษณ์สื่อที่อังกฤษ สตม.ก็จะยังไม่ขึ้นแบล็คลิสต์ และว่า กรณีนี้เป็นเพียงการทำเรื่องจริงให้ปรากฎ ชื่อเสียงของประเทศด้านการท่องเที่ยวที่เสียหายไปแล้ว ทุกฝ่ายต้องช่วยกันกอบกู้กลับคืนมา.-สำนักข่าวไทย  

 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบภัย

“นายกฯ แพทองธาร” ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบอุทกภัย หวัง ศปช.รับมือ-ช่วยเหลือรวดเร็วทันท่วงที รวมถึงการเยียวยาหลังจากนี้

ฟื้นฟูชายแดนแม่สาย-เร่งกู้ตลาดสายลมจอย

เจ้าหน้าที่เร่งฟื้นฟูชุมชนชายแดนแม่สายที่ถูกน้ำท่วมและจมโคลนมานาน 10 วัน รวมทั้งเร่งกู้ตลาดสายลมจอยแหล่งจำหน่ายสินค้าชายแดนที่เสียหายอย่างหนัก

ฆ่ารัดคอขับโบลท์

รวบ “ไอ้แม็ก” ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ พบเคยถูกจับคดีโหด

จับแล้ว “ไอ้แม็ก” เดนคุก ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ ทิ้งร่างอำพราง ริมถนนห้วยพลู จ.นครปฐม ก่อนเอารถไปขาย สอบประวัติ พบเพิ่งพ้นโทษ คดีล่ามโซ่ล่วงละเมิดเด็กวัย 13 ปี นาน 1 สัปดาห์ เมื่อปี 2553