สวนเกษตรอินทรีย์ ตามรอยในหลวงรัชกาลที่ 9

ชลบุรี 11 ต.ค.-เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ และสานต่อแนวพระราชดำริในหลวงรัชกาลที่ 9 วันนี้สำนักข่าวไทยจะพาไปดูการทำเกษตรอินทรีย์ ที่ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติมาบเอื้อง ชลบุรี ซึ่ง “อาจารย์ยักษ์” รมช.เกษตรและสหกรณ์ เป็นผู้ก่อตั้ง โดยทำการเกษตรแบบยั่งยืนไม่พึ่งสารเคมี 


การใช้ฟางห่มดินตรงที่จะนำต้นไม้ลงปลูก ใส่ปุ๋ยแห้งที่ทำจากอินทรีย์วัตถุ เช่น ใบไม้ แกลบ มูลสัตว์ รดด้วยน้ำหมักชีวภาพ คือวิธีการปลูกต้นไม้ของที่ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติมาบเอื้อง ชลบุรี


นอกจากจะช่วยบำรุงดิน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการทำการเกษตรตามแนวพระราชดำริในหลวงรัชกาลที่ 9 แล้ว ยังจะช่วยให้ต้นไม้เจริญเติบโต โดยไม่ต้องพึ่งสารเคมี และประหยัด เพราะหาวัตถุดิบได้ง่ายในพื้นที่

ส่วนการทำน้ำหมักชีวภาพ ที่ใช้ในการเกษตรและปศุสัตว์ จะมีส่วนผสมจากสมุนไพร เรียกว่า สมุนไพร 7 รส อย่างนี่เป็นน้ำหมักชีวภาพรสจืด เพื่อบำรุงดิน มีส่วนผสมจากหน่อกล้วย น้ำตาล และหัวเชื้อน้ำหมัก และยังมีสมุนไพรรสอื่น อย่างรสเมาเบื่อ รสเผ็ดร้อน เป็นสูตรป้องกันแมลง ทดแทนการใช้สารเคมี ต้นทุนไม่เกิน 100 บาท


หลักสูตรการอบรมที่นี่ ยังรวมไปถึงการวางแผนจัดการพื้นที่ทำการเกษตร แบบโคก หนอง นา โมเดล ซึ่งเป็นแนวคิดของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่จะแบ่งพื้นที่เป็นที่อยู่อาศัย แหล่งน้ำ และพื้นที่ทำการเกษตร ให้สอดคล้องกับพื้นที่นั้น โดยให้ธรรมชาติเป็นตัวจัดการ ซึ่งเป็นอีกหัวข้อหลักที่ผู้เข้าอบรมต้องเรียนรู้ แล้วนำกลับไปใช้จริง

อดีตพนักงานบริษัทคนนี้ เพิ่งลาออกจากงาน คิดจะกลับไปทำการเกษตรที่เพชรบูรณ์บ้านเกิด เธอวางแผนพื้นที่ทำการเกษตรลงบนกระดาษ จากความรู้ที่ได้รับ

“อาจารย์ยักษ์” รมช.เกษตรและสหกรณ์ ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งศูนย์กสิกรรมธรรมชาติมาบเอื้อง บอกว่า ที่นี่เป็นเหมือนสถานที่บ่มเพาะด้านเกษตรอินทรีย์ ช่วงแรกผู้เข้าอบรมเป็นเกษตรกรที่ต้องการทำการเกษตรโดยไม่ใช้สารเคมี การสอนทำให้เปลี่ยนวิธีคิด ลงมือทำจริง จนพบว่าการทำเกษตรอินทรีย์มีรายได้มากกว่าพึ่งสารเคมี 3-4 เท่า

ตลอด 20 ปี ที่ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติมาบเอื้อง เผยแพร่แนวคิดการทำเกษตรอินทรีย์ มีผู้สนใจเข้าอบรมอย่างต่อเนื่อง ระยะหลังยังมีผู้ที่ต้องการเปลี่ยนอาชีพไปทำการเกษตรเข้าอบรมมากขึ้น โดยมีศูนย์ฝึก ซึ่งเป็นเครือข่ายของมูลนิธิอยู่กว่า 60 แห่งทั่วประเทศ

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ติดตามผลผู้ที่เปลี่ยนมาทำเกษตรอินทรีย์ พบเกินครึ่งประสบความสำเร็จ มีรายได้เพิ่มและอยู่ในพื้นถิ่น ซึ่งความสำเร็จดังกล่าว มาจากการสานต่อการทำเกษตรอินทรีย์แบบยั่งยืน ตามแนวพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9.-สำนักข่าวไทย

  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”