กทม.10ต.ค.-ศาลฯจำคุก 9 ปี ผู้บริหาร บ.เอวิเอฯ ขาย GT 200 ให้ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เป็นสำนวนที่ 3 ในคดี
ศาลแขวงดอนเมือง ถ.แจ้งวัฒนะ อ่านคำพิพากษาคดีร่วมกันฉ้อโกงเครื่องตรวจจับอาวุธและวัตถุระเบิด และเครื่องตรวจจับยาเสพติดรุ่น GT 200 สำนวนที่ 3 ที่อัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 ยื่นฟ้องบริษัท เอวิเอ แซทคอม จำกัด,นายสุทธิวัฒน์ วัฒนกิจ ผู้บริหาร บริษัทเอวิเอฯ,นางศศกร ปลื้มใจ และ น.ส พันทวีทรัพย์ สุดยาใจ เป็น จำเลย ที่ 1-4 ฐานฉ้อโกงการจัดซื้อฯสืบเนื่องจากพวกจำเลยได้ร่วมกันทุจริตหลอกลวง โดยแสดงข้อความอันเป็นเท็จปกปิดข้อความ ซึ่งเป็นข้อความตามจริง โดยเสนอขายเครื่องตรวจจับอาวุธวัตถุระเบิดและยาเสพติดรุ่น GT 200 แก่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ผู้เสียหาย มูลค่า 6.8 ล้านบาท พร้อมกับอวดอ้างสรรพคุณว่า หน่วยงานต่างๆ ทั่วโลกก็ใช้อุปกรณ์ดังกล่าว จนผู้เสียหายหลงเชื่อ สั่งซื้อ เครื่อง GT 200 รวม 3 ครั้ง 6 เครื่อง ระหว่าง ปี 2550 -2552 แต่เครื่อง GT 200 ที่จำเลยเสนอขายกลับไม่ได้มาตรฐาน จนไม่สามารถใช้งานได้ ทำให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ได้รับความเสียหาย
โจทก์จึงขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตามความผิด ริบของกลาง และคืนเงินจำนวน 6.8 ล้านบาทแก่ผู้เสียหายด้วย จำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธและได้รับการประกันตัว
ศาลพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 และ 2 กระทำผิดตามโจทก์ฟ้องฐานฉ้อโกง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 (เดิม) ให้ลงโทษทุกกรรม โดยปรับบริษัทจำเลยที่ 1 กระทงละ 6,000 บาท รวม 3 กระทง เป็น 18,000 บาท ให้จำคุกจำเลยที่ 2 กระทงละ 3 ปี รวม 3 กระทง เป็น 9 ปี ให้นับโทษจำคุกจำเลยที่ 2 รวมกับคดี GT 200 ที่กองทัพเป็นผู้เสียหายรวม 2 สำนวนที่ศาลได้พิพากษาแล้วก่อนหน้านี้ พร้อมให้จำเลยที่ 1-2 ชดใช้ค่าซื้อเครื่อง GT 200 แก่ผู้เสียหายรวม 6,800,000 บาท ริบของกลาง ส่วนจำเลยที่ 3 และ 4 เป็นเพียงพนักงานบริษัท พยานโจทก์ยังฟังไม่ได้ว่าเป็นตัวการร่วม ให้ยกฟ้อง
นายวรอรรถ สุนทรอภิชาติ ทนายความจำเลย เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้เตรียมหลักทรัพย์ร้อยละ 10 ของมูลค่า 6.8 ล้านบาท ซึ่งถ้าเป็นเงินสดก็ประมาณ 700,000 บาท หากต้องประกันตัวก็มีการเตรียมเงินสดมาพร้อมแล้ว ทั้งนี้ทนายความได้ระบุอีกว่า จำเลยเป็นเพียงตัวแทนจำหน่ายสินค้าให้กับราชการ โดยทางบริษัทไม่เคยได้ใช้สินค้าเองแต่ที่นำมาจำหน่ายเพราะอ้างอิงมาจากหน่วยงานราชการทางทหารที่เคยใช้มาก่อน บริษัทจึงนำมาเสนอจำหน่าย และจากรายงานที่ผ่านมาก็ไม่พบปัญหาใดๆ
หลังทนายความ ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เงินสด 680,000 บาท ขอปล่อยชั่วคราวนายสุทธิวัฒน์ ศาลพิจารณาแล้ว อนุญาตโดยห้ามจำเลยเดินทางออกนอกประเทศ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ศาลแขวงดอนเมือง ได้มีคำพิพากษาศาลชั้นต้นในคดีนี้ไปแล้วรวม 2 สำนวน โดยสำนวนที่ 1 ผู้ฟ้อง กรมสรรพวุธทหารบก ความเสียหาย 600 ล้านบาท สั่งจำคุกนายสุทธิวัฒน์ จำเลยที่ 2 จำคุก 10 ปี และสำนวนที่ 2 ผู้ฟ้อง กรมราชองครักษ์ ความเสียหาย 9,000,000 บาท จำคุกนายสุทธิวัฒน์ จำเลยที่ 2 จำคุก 9 ปี.-สำนักข่าวไทย