fbpx

ประวิตรเร่งแก้ปัญหาจราจรระยะเร่งด่วนเห็นผลใน1เดือน

กรุงเทพฯ 14 ก.ย.- พล.อ.ประวิตร เร่งแก้ไขปัญหาจราจรระยะเร่งด่วนให้เห็นผลภายใน 1 เดือน เน้นเข้มบังคับใช้กฎหมาย


พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมบูรณาการขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาการจราจรในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ว่าวันนี้ได้จัดตั้งคณะอนุกรรมการบูรณาการแก้ไขปัญหการจราจร แบ่งการดำเนินการเป็น 3 ระยะ คือระยะเร่งด่วนภายใน 1เดือน, ระยะกลางภายใน 3ปี, และระยะยาว โดยระยะเร่งด่วนนั้นจะเร่งดำเนินการใน 21 ถนนสายหลักในกรุงเทพ โดยเฉพาะถนนที่มีการสร้างรถไฟฟ้าซึ่งมีช่องทางการจราจรน้อยกว่าปกติ จะต้องเร่งหาทางแก้ไขปัญหา แต่เบื้องต้นทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาไปหลายส่วนแล้ว เช่นนำกำลังเจ้าหน้าที่ลงไปอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในช่วงเวลาเร่งด่วน ซึ่งตนก็เห็นว่าการจราจรติดขัดลดลงบ้างแล้ว

รองนายกรัฐมนตรี มองว่า การแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดไม่สามารถทำได้ในทันที แต่จะสามารถบรรเทาให้ปัญหาเบาบางลง ใช้เวลาการเดินทางลดลง เช่น ถนนรัชดาภิเษกในช่วงเช้า ใช้เวลาเดินทางลดลง 20 นาที ช่วงเย็นใช้เวลาลดลง 1 ชั่วโมง พร้อมกันนี้มีแนวคิดที่จะนำข้อมูลใบสั่งไปบูรณาการร่วมกับกรมการขนส่งทางบก หากไม่ชำระค่าปรับจะไม่สามารถต่อ พ.ร.บ.รถยนต์ได้ หรืออาจพิจารณาโทษในการเสียค่าปรับเพิ่มทวีคูณหากไม่ยอมชำระค่าปรับตามเวลาที่กำหนด


ส่วนการพิจารณาจำกัดอายุของรถที่จะอนุญาตให้วิ่งบนท้องถนนนั้น เป็นเรื่องของกรมการขนส่งทางบกที่จะดำเนินการเป็นการแก้ไขปัญหาในระยะยาว

ส่วนกรณีข้อเสนอให้รถทะเบียนคู่วิ่งในวันคู่ และรถทะเบียนคี่วิ่งในวันเลขคี่นั้นยังไม่มีการหารือในที่ประชุมวันนี้ ขณะที่ตนไม่ขอตอบว่าเห็นด้วยกับข้อเสนอนี้หรือไม่ แต่เชื่อว่าคนส่วนใหญ่เองก็คงไม่เห็นด้วย

สำหรับกลุ่มรถจักรยานยนต์ที่ออกมาชุมนุมปิดถนนคัดค้านการห้ามขึ้นสะพานและลงอุโมงค์นั้น รองนายกรัฐมนตรี มองว่าสิ่งที่ออกมาเรียกร้องไม่สามารถทำได้ เนื่องจากเป็นประโยชน์ส่วนบุคคล ซึ่งเจ้าหน้าที่นำข้อบังคับดังกล่าวมาใช้เพื่อความปลอดภัยของประชาชนส่วนรวม เนื่องจากมีรถจักรยานยนต์บางแห่งวิ่งย้อนศรขึ้นบนสะพานต่างระดับ อาจนำไปสู่อุบัติเหตุร้ายแรงได้ นอกจากนี้ยังมีผลการสำรวจที่ระบุไว้ชัดเจนว่าอุบัติเหตุส่วนใหญ่ในช่วงเทศกาลเป็นอุบัติเหตุจากรถจักรยานยนต์.-สำนักข่าวไทย


 

 

 

 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

ขอบคุณสมาคมธนาคารไทย ปรับลดดอกเบี้ย MRR

นายกฯ ขอบคุณสมาคมธนาคารไทย หั่นดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) ลง 0.25% เป็นเวลา 6 เดือน เพื่อลดภาระดอกเบี้ยให้กลุ่มเปราะบาง ทั้งลูกค้าบุคคล และ SME

“บิ๊กโจ๊ก” ร้อง ตร.ขอความเป็นธรรม ปมโดนให้ออกจากราชการ

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล บุกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หอบหลักฐานยื่นคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมตำรวจ ขอให้เพิกถอนคำสั่งให้ออกจากราชการ

เร่งตรวจสอบเหตุสารเคมีรั่วไหลโรงงานย่านพระราม 2

เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบเหตุสารเคมีรั่วไหลในโรงงานย่านพระราม 2 ควันสีขาวลอยโขมง เบื้องต้นพบเป็นสารไทโอยูเรีย

อุตุฯ เผยไทยตอนบนร้อนจัด แนะเลี่ยงทำงานในที่โล่งแจ้งเป็นเวลานาน

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด แนะหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานาน ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนจัดบางแห่ง