กรุงเทพฯ 4 ต.ค.- สตง.ร่วมตรวจสอบ จีพีเอสซีซื้อหุ้นโกลว์ ด้านประธาน กกพ. ระบุมีโอกาสที่จะขยายเวลาพิจารณาการเปลี่ยนใบอนุญาตหลังจากขยายรอบแรกแล้ว 15 วัน
นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท. (PTT) เปิดเผยว่า ปตท.ยังอยู่ระหว่างศึกษาการลงทุนและเลือกพันธมิตรที่จะเข้าลงทุนโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) ซึ่งยังไม่แล้วเสร็จทำให้ยังสามารถนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการปตท.ในเดือนที่ผ่านมาได้ แต่คาดว่าจะสามารถนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการในวันที่ 19 ต.ค.นี้ เพื่อให้คณะกรรมการตัดสินใจว่าจะลงทุนหรือไม่ และหากลงทุนจะเลือกพันธมิตรกลุ่มใดร่วมดำเนินงานต่อไป
ส่วนกรณีบมจ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มจะเข้าซื้อกิจการบมจ.โกลว์ พลังงาน (GLOW) นั้น ก็ยังคงเดินหน้าตามขั้นตอน ซึ่งขณะนี้รอเพียงการอนุมัติจากคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เท่านั้น ซึ่งการที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้ให้ทางกกพ.เข้าไปชี้แจงกรณีดังกล่าว ก็เห็นว่าเป็นหน้าที่ของหน่วยงานแต่ละฝ่ายที่ต้องชี้แจง ซึ่งในส่วนของกลุ่มปตท.ก็พร้อมที่จะชี้แจงในทุกรายละเอียด และนับเป็นสิ่งที่ดีที่แต่ละฝ่ายมีความเห็นที่แตกต่างกัน เพราะแต่ละฝ่ายจะได้มีการข้อมูลมาชี้แจงรายละเอียดให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น
นายชวลิต ทิพพาวนิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC กล่าวว่า ในขณะนี้ การซื้อกิจการจากGLOW ทางบริษัทยังคงรอมติ จากกกพ.ว่าจะเห็นชอบให้เปลี่ยนใบประกอบกิจการไฟฟ้าจาก GLOWเป็น GPSC หรือไม่ อย่างไรก็ตาม ทั้ง สองบริษัทได้ดูทุกด้านก่อนที่จะมีการตกลงกันในด้านการซื้อขายหุ้น โดยเฉพาะแง่ของกฏหมาย บริษัทจึงมั่นใจว่าดำเนินการอย่างถูกต้องมาโดยตลอด เมื่อมีความกังวลจากลูกค้าก็ได้มีการชี้แจง เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นด้านการให้บริการอย่างโปร่งใสเป็นธรรม แต่ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของ กกพ.
นายเสมอใจ ศุขสุเมฆ ประธานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.) เปิดเผยว่า วันนี้(4ต.ค.) คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน( กกพ.) ได้นัดหารือวาระเร่งด่วนหลังจากได้รับหนังสือจากสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เรื่องขอให้กกพ.ชี้แจงข้อเท็จจริงและส่งเอกสารหลักฐาน โดยตั้งข้อสงสัยว่า อาจเข้าข่ายก่อให้เกิดการผูกขาดทางการค้า และอาจขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ โดยการหารือครั้งนี้ จะรวบรวมข้อมูลต่างๆที่เป็นข้อเท็จจริงทั้งหมด เช่น ขั้นตอนที่ GPSC เข้าไปซื้อ GLOW เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่ กำลังผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นจะเข้าขาดผูกขาดทางการค้าหรือไม่ และมีผลกระทบต่อลูกค้าGLOW ในพื้นที่หรือไม่ จากนั้นจะประสานขอนัดเวลาเพื่อนำเอกสารต่างๆเข้าไปชี้แจงต่อผู้ตรวจการแผ่นดินโดยเร็ว
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าตามกฎหมายจะกำหนดให้การพิจารณาออกใบอนุญาตประกอบกิจการไฟฟ้าต้องดำเนินการภายใน 90 วัน และได้ขยายระยะเวลาออกไปแล้วอีก 15 วัน ซึ่งจะครบประมาณกลางเดือน ตุลาคมนี้ หากมีเหตุผลที่ทำให้การพิจารณาข้อมูลต่างๆยังไม่แล้วเสร็จก็ยังสามารถขยายระยะเวลาออกไปได้-สำนักข่าวไทย