กรุงเทพฯ 2 ต.ค. – จับตาสงครามการค้ายักษ์ใหญ่ กระทบการส่งออกไทย หวังรัฐบาลใหม่โปร่งใสหนุนเอกชนทำธุรกิจง่าย
นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการสภาหอการค้าไทย เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน หรือ กกร.ว่า กกร.ได้ปรับเพิ่มอัตราการขยายตัวเศรษฐกิจไทยในปีนี้ ขยายตัวร้อยละ 4.4-4.8 จากเดิมร้อยละ 4.3-4.8 แม้ว่าเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลังจะเติบโตไม่สูงเท่าครึ่งปีแรก เนื่องจากการส่งออกและท่องเที่ยวเติบโตชะลอลง โดยการส่งออกในช่วง 8 เดือนแรกขยายตัวสูง และคาดว่าช่วงที่เหลือของปี การส่งออกยังขยายตัวได้ดี จากคำสั่งซื้อสินค้าเพื่อรองรับเทศกาลปีใหม่ ทำให้กกร.ปรับการส่งออกขยายตัวร้อยละ 8-10 จากเดิมร้อยละ7-10
ขณะเดียวกัน การที่ไทยจะมีการเลือกตั้งและมีรัฐบาลชุดใหม่ ต้องการรัฐบาลที่มีความโปร่งใส มีนโยบายที่สนับสนุนให้เอกชนเข้าไปมีส่วนร่วมในการวางแผนโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ และให้เอกชนทำธุรกิจได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ปรับปรุงกฎหมายให้มีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งกระจายรายได้ ไปสู่ท้องถิ่น
ส่วนประเด็นที่ต้องติดตามคือข้อพิพาททางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ที่จะกระทบต่อการส่งออกไทย ประมาณร้อยละ 0.6-0.8 ของจีดีพี พร้อมทั้งให้จับตาสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่มีแนวโน้มสูงขึ้น จากสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐและอิหร่านที่จะกระทบต่อราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศ ซึ่งหากภาครัฐจะใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเข้ามาอุดหนุนราคาน้ำมันต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะขณะนี้เงินกองทุนฯลดลงมาก จาก 40,000 ล้านบาท เหลือ 20,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม กกร.เชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจไทยยังมีความแข็งแกร่ง และจะได้รับผลกระทบจากต่างประเทศไม่มาก และคาดว่าจะรับมือผลกระทบความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้ .-สำนักข่าวไทย