คลังหนุนเพื่อนบ้านใช้พร้อมเพย์ หวังเชื่อมตลาดทุนกับ CLMV

กระทรวงการคลัง 1 ต.ค. –  คลังหนุนประเทศเพื่อนบ้านใช้ระบบพร้อมเพย์ รองรับต่างด้าวโอนเงินกลับบ้าน  หวังเชื่อมตลาดทุนกับ CLMV หนุนประกันภัยต่อตั้งฐานในประเทศไทย 


นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุมคณะกรรมการพัฒนาความเชื่อมโยงด้านตลาดเงินตลาดทุนของไทยกับกลุ่มประเทศในภูมิภาค เพื่อนำเสนอที่ประชุม ครม.พิจารณาขั้นต่อไป  ประกอบด้วย แผนส่งเสริมการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินของภูมิภาค โดยใช้ไทยเป็นตัวกลางการระดมทุนผ่านตราสารหนี้  ตราสารทุน เช่น การออก Infrastructure Trust  การระดมทุนรูปแบบ Cross Iisting  ของ สปป.ลาว การส่งเสริมออกตราสารทุนในกัมพูชา เมียนมา เวียดนาม เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยและต่างชาติใช้ตลาดทุนไทยเป็นฐานให้เติบโตแบบก้าวกระโดดในกลุ่ม CLMV  

นายสมคิด กล่าวว่า การระดมทุนของไทยด้วยตราสารหนี้ค่อนข้างจำกัด เพราะมีระดับเพดานหนี้สูง  รวมทั้งเพื่อหาทางร่วมกันลดอุปสรรคในการเชื่อมโยงตลาดทุน การส่งเสริมให้บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมของไทยร่วมลงทุนกับ บลจ.ประเทศเพื่อนบ้าน  การส่งเสริมให้เกิดการลงทุนด้านประกันภัย เพื่อให้ไทยเป็นฐานทำธุรกิจ Reinsurance เพื่อต้องการส่งเสริมให้บริษัทรับประกันภัยต่อระดับโลกมาตั้งสาขาในประเทศไทย และขณะนี้ไทยมีแผนลงทุนโครงการขนาดใหญ่หลายโครงการ ซึ่งจำเป็นต้องทำประกันภัยแทบทุกโครงการ  แผนการพัฒนาดังกล่าวจะเริ่มตั้งแต่ปี 2561-2564 เนื่องจากไทยเป็นประธานอาเซียนปี 2562  


นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมต้องการส่งเสริมให้นำระบบพร้อมเพย์ขยายออกไปให้บริการตามประเทศเพื่อนบ้าน CLMV เพียงแค่โอนเงินผ่านมือถือจะส่งโอนเงินกลับบัญชีให้ญาติของประเทศตนเองได้ เพราะค่าบริการต่ำมากหรือไม่ต้องเสียค่าโอน นอกจากนี้ ยังใช้  QR Code Standard ที่เป็นมาตรฐานกลางนำมาใช้โอนเงินได้ ขณะนี้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กำลังหารือกับธนาคารกลางของประเทศเพื่อนบ้าน เพื่ออำนวยความสะดวการโอนเงินกลับบ้านของแรงงานต่างด้าวจำนวนมากที่เข้าทำงานในประเทศไทย เพราะขณะนี้การส่งเงินกลับบ้านมีต้นทุนสูงถึงร้อยละ 10 เช่น หากโอนเงิน 1,000  ต้องเสียค่าธรรมเนียมนับ 100 บาท ต้นทุนการโอนเงินยังค่อนข้างสูง การโอนเงินนอกระบบและการถือเงินสดผ่านชายแดนค่อนข้างสูง เพราะการโอนเงินออกนอกประเทศ ต้องยึดระเบียงธนาคารกลาง และใช้เวลานานในอนุญาต

ส่วนภาคธุรกิจ ต้องการส่งเสริมการโอนเงินสกุลท้องถิ่น เพื่อใช้ในการซื้อขายสินค้าเงินบาทกับสกุลเพื่อนบ้านโดยตรง ( Local Currency ) ไม่ต้องผ่านเงินดอลลาร์ เพราะกว่าแปลงจากดอลลาร์สหรัฐเป็นสกุลท้องถิ่นต้นทุนสูงมาก  การบริการโอนเงินระหว่างประเทศ การส่งเสริมการใช้สกุลเงินท้องถิ่น เพื่อให้เศรษฐกิจของ CLMV มีความเติบโตเข้มแข็ง ยอมรับว่ามีปัญหาความนิยมใช้สกุลเงินดอลลาร์ค่อนข้างสูง จึงยังเป็นปัญหาเรื่องการใช้สกุลเงินท้องถิ่น แต่ขณะนี้ไทยเริ่มโค้ทราคาซื้อขายสินค้ากับจีนเป็นบาทกับสกุลเงินหยวนของจีนหลายรายการสินค้า. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เชียงใหม่อากาศแปรปรวน เจอลมหนาว-ฝนตก 3 วันติด

ชาวเชียงใหม่เจอลมหนาวและฝนตกต่อเนื่อง 3 วันติด อุตุฯ ย้ำอากาศแปรปรวน เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน เชียงราย ยังมีฝนตกและลมหนาว แนะรักษาสุขภาพ

“อัจฉริยะ” ยื่นสอบปม “ทนายตั้ม” ปูดข่าวผู้บริหารปลอมเอกสารขยายอายุเกษียณ

“อัจฉริยะ” ยื่นหนังสือตรวจสอบข้าราชการช่วยผู้บริหารรัฐวิสาหกิจปลอมเอกสารขยายอายุเกษียณ คาดอาจมีทนายดังเข้าไปเอี่ยว เสนอตำรวจให้สอบพยานรายสำคัญที่เป็นประโยชน์กับ “มาดามอ้อย”

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊ก บช.ก. สอบปากคำ

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊กสอบสวนกลาง สอบปากคำ นานกว่า 5 ชั่วโมง ขณะที่พนักงานสอบสวนเตรียมเข้าค้น “ษิทรา ลอว์ เฟิร์ม” เช้าพรุ่งนี้ หาหลักฐานเพิ่ม ก่อนฝากขังช่วงบ่าย ค้านประกันตัว

“บิ๊กอ้อ” เผย “ทนายตั้ม-ภรรยา” มีพฤติการณ์หนี-ยุ่งเหยิงพยานฯ

“บิ๊กอ้อ” ชี้ตำรวจต้องออกหมายจับ “ทนายตั้ม” เหตุพบพฤติการณ์เตรียมหลบหนีออกนอกประเทศ และยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน นอกจากนี้ยังมีคดีต่อเนื่อง 3 คดี เตรียมแจ้งข้อหาเพิ่ม

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” อากาศเย็นตอนเช้า-ภาคใต้ฝนหนัก

กรมอุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” อากาศเย็นในตอนเช้า เตือนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง พร้อมอัปเดตเส้นทางพายุ “หยินซิ่ง”

MOU44

MOU 44 ผลประโยชน์ชาติ กับ การเมือง ตอนที่ 1

ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา เรื่องเอ็มโอยู 44 และเส้นแบ่งอาณาเขตทางทะเล หรือเส้นเคลม กลายเป็นปมร้อน ท่ามกลางความกังวลถึงผลประโยชน์ของชาติทางทะเล และสิทธิเหนือเกาะกูด ติดตามความเห็นและมุมมองจากผู้เกี่ยวข้องในรายงาน “ปมร้อน เอ็มโอยู 44 ผลประโยชน์ชาติ กับ การเมือง”

ทนายตั้ม

“ทนายตั้ม” สร้างตัวตนผ่านสื่อ หวังหาผลประโยชน์หรือไม่

หลังจากพนักงานสอบสวนควบคุมตัว “ทนายตั้ม” และภรรยา เข้าเรือนจำไปแล้ว มีคำถามตามมาว่า ทนายคนดังสร้างตัวตนจนโดดเด่นในสังคม เพื่อหาผลประโยชน์จากความน่าเชื่อถือที่สร้างไว้หรือไม่