ธุรกิจรายจิ๋วติดหล่มขาดหลักทรัพย์-ไร้บัญชี

เอสเอ็มอีทาวเวอร์ 28 ก.ย. – ธุรกิจรายจิ๋วติดหล่มขาดหลักทรัพย์-ไร้บัญชี กังวลปี 62 ข้อกำหนดทำบัญชีเดียวฉุดเข้าไม่ถึงสินเชื่อ ด้าน ธพว.พร้อมใช้แพลตฟอร์ม  SME D Bank แก้โจทย์ทำงานเชิงรุก 


นายธนวรรธน์ พลวิชัย รองอธิการบดีอาวุโสวิชาการและงานวิจัย  และผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ  มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย  เผยการสำรวจหัวข้อ “การเข้าถึงสินเชื่อของ SMEsไทย” พบว่า  ในช่วง 3-5 ปีที่ผ่านมามีความต้องการขอสินเชื่อ เพื่อเสริมสภาพคล่องร้อยละ 56.23 ยื่นขอจากธนาคารพาณิชย์ร้อยละ 41.21  ธนาคารของรัฐร้อยละ 30.80  เอสเอ็มอีมองว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวและขยายตัวมากขึ้นปี 2562 ความต้องการสินเชื่อจึงเพิ่มขึ้น จึงต้องปรับตัวทั้งการผลิตและเทคโนโลยี 

นายธนวรรธน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ประกอบการกังวลว่าปี 2562 ถึงกำหนดต้องจัดทำบัญชีเดียว จึงเป็นข้อกังวลของผู้ประกอบการรายเล็ก แต่ในส่วนของเอสเอ็มอีพร้อมพัฒนาปรับบัญชีให้มีมาตรฐาน  การทำบัญชีเดียวซึ่งมีผลต่อการขอสินเชื่อในอนาคตนั้น พบว่าเอสเอ็มอีขนาดเล็กไม่ทำบัญชีถึงร้อยละ 10.95  ขณะที่เอสเอ็มอีที่ไม่ใช่นิติบุคคลไม่ทำบัญชีถึงร้อยละ 12.10  เนื่องจากลืม ไม่มีเวลาทำบัญชี มองว่าไม่ได้เอาไปใช้อะไร เสียเวลาจัดทำ ไม่รู้ว่าทำบัญชีอย่างไร และเอกสารไม่ครบถ้วน เมื่อปี 2562 กระบวนการเข้าถึงสินเชื่อของเอสเอ็มอีจำเป็นต้องใช้บัญชีชุดเดียวประกอบการพิจารณาสินเชื่อและสามารถดูย้อนหลัง 3 ปีเป็นอย่างน้อย หากเป็นการขอสินเชื่อใหม่ ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีร้อยละ 63 พร้อมจัดทำบัญชี  มองว่ามีผลต่อการอนุมัติสินเชื่อรวดเร็ว มีประโยชน์ต่อธุรกิจทั้งปัจจุบันและในอนาคต ซึ่งมาตรการและความช่วยเหลือจากภาครัฐที่เอสเอ็มอีต้องการ คือ การให้ความรู้/สอนทำบัญชีเดียว ลดขั้นตอนการทำบัญชีให้สะดวกมากขึ้น และบริการจัดทำบัญชีเดียวให้โดยไม่ต้องจ้างเอกชน     


สำหรับความต้องการสินเชื่อและการเข้าถึงสินเชื่อนั้น เอสเอ็มอีรายย่อยร้อยละ 24.61 บอกว่าเคยยื่นขอสินเชื่อ ส่วนร้อยละ 75.39 บอกว่าไม่เคยยื่น เนื่องจากส่วนใหญ่ถึงร้อยละ 44.11 คิดว่ายังไงก็ไม่ได้รับการอนุมัติ ส่วนสาเหตุที่สถาบันการเงินในระบบไม่อนุมัติสินเชื่อให้นั้น กลุ่มตัวอย่างบอกเหตุผลหลักเกิดจากหลักทรัพย์ที่ค้ำมีมูลค่าน้อย หรือไม่มีหลักทรัพย์ค้ำ ไม่มีประวัติการชำระเงิน และไม่มีการทำบัญชี เป็นต้น  ส่วนมาตรการหรือความช่วยเหลือจากภาครัฐที่ต้องการได้รับนั้น ได้แก่ ลดขั้นตอนการทำเอกสารที่มีจำนวนค่อนข้างมาก อนุมัติเร็วขึ้นและง่ายขึ้น ลดค่าธรรมเนียมและเงื่อนไขข้อจำกัดต่าง ๆ มีหน่วยงานที่ให้ข้อมูลชัดเจนและเข้าใจ รวมถึงลดดอกเบี้ยการกู้ ขณะที่ข้อเสนอที่ต้องการได้รับจากธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) ได้แก่ อนุมัติสินเชื่อวงเงินสูง ลดดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม และลดข้อจำกัดในการเข้าถึงสินเชื่อ

นายมงคล ลีลาธรรม  กรรมการผู้จัดการ  ธพว. กล่าวว่า จากผลสำรวจดังกล่าวชี้ให้เห็นว่าเอสเอ็มอีขนาดเล็กที่มีกว่า 3 ล้านราย โอกาสเข้าถึงสินเชื่อยากกว่าขนาดกลาง รวมถึงยังมีความต้องการให้การเข้าถึงสินเชื่อสะดวกยิ่งขึ้น และธนาคารของรัฐจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนวิธีการทำงาน เพื่อให้เอสเอ็มอีนึกถึงเป็นอันดับแรกเมื่อต้องการกู้เงิน ดังนั้น ธพว.ได้ยกระดับการทำงานเชิงรุกเป็นฝ่ายเดินเข้าไปอำนวยสินเชื่อให้แก่ผู้ประกอบการผ่านแพลตฟอร์ม SME D Bank แอพพลิเคชั่นบริการครบวงจรเพื่อเอสเอ็มอีไทย ทำงานควบคู่กับหน่วยบริการเคลื่อนที่ “รถม้าเติมทุน ส่งเสริม SMEsไทย ฉับไว ไปถึงถิ่น” ทั้งนี้ จะเสนอ ครม.ตั้งกองทุนดูแลคนทำบัญชีปี 2562

หลังจากโหลดแอพฯ SME D Bank ผู้ประกอบการสามารถยื่นขอสินเชื่อได้ทุกที่ทุกเวลา ภายใต้รหัส 24×7 หมายถึง ตลอด 24 ชั่วโมง 7 วัน โดยข้อมูลการยื่นกู้จะส่งไปยังฐานข้อมูล จากนั้นเจ้าหน้าที่ธนาคาร ซึ่งเตรียมพร้อมทำงาน ภายใต้รหัส 8-8-7 (ตั้งแต่ 8 โมงเช้าถึง 2 ทุ่ม ตลอด 7 วัน) จะติดต่อกลับภายใน 3 วัน เพื่อนัดหมายให้หน่วยรถม้าเติมทุนฯ  วิ่งเข้าไปพบ เพื่อดูข้อมูลเชิงประจักษ์การดำเนินธุรกิจจริงสามารถพิจารณาสินเชื่อโดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันรู้ผลใน 7 วัน จึงตอบโจทย์ผู้ประกอบการรายย่อย ลดขั้นตอนการขอสินเชื่อ ช่วยให้เข้าถึงแหล่งทุนสะดวกสบาย และมากยิ่งขึ้น ขจัดข้อจำกัดเรื่องเวลาและสถานที่ไปอย่างหมดสิ้น  


อีกทั้งในแพลตฟอร์ม SME D Bank ยังมีเครื่องมือเสริมแกร่งธุรกิจ (Tools Box)  รวบรวมแอพพลิเคชันและซอฟต์แวร์กว่า 140 รายการ และคลังข้อมูลความรู้สำหรับเอสเอ็มอี (e-Library) นับพันรายการ ช่วยยกระดับความสามารถแก่เอสเอ็มอี โดยเฉพาะด้านการบัญชี  ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการเพิ่มพูนความรู้ เพิ่มโอกาสเข้าถึงแหล่งทุน และพร้อมรับการต้องทำบัญชีเดียวในอนาคตอันใกล้ นับตั้งแต่เปิดตัวแพลตฟอร์ม SME D Bank เมื่อกลางเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา นับว่าประสบความสำเร็จอย่างสูง มียอดดาวน์โหลดมากกว่า 35,000 ดาวน์โหลด  

 นอกจากนี้ ธพว.ได้จัดกิจกรรมเสวนาฟรี  “ยกระดับปรับเปลี่ยน… ก่อนกู้แบงก์” โดยวิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน เพื่อให้ความรู้ และผลักดันผู้ประกอบการรายเล็กเข้าสู่ระบบบัญชีเดียว เปิดโอกาสถึงแหล่งทุน  โดยเริ่มจัดครั้งแรกจังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 26 กันยายนที่ผ่านมา และจะเดินสายจัดในพื้นที่อื่น ๆ ต่อไปทั่วประเทศ เช่น วันที่ 3 ตุลาคม 2561 ณ ห้องสัมมนาเริงภิรมย์ อาคารนาวีภิรมย์ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และวันที่ 8 ตุลาคม 2561 ณ  co-working space ชั้น 1 อาคาร SME Bank Tower .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ตร.ทางหลวงไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าไทย

ระทึก! ตำรวจทางหลวงขับรถไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าว 2 คัน สุดท้ายไม่รอด จนมุมบริเวณ ต.หาดท่าเสา อ.เมือง จ.ชัยนาท ตรวจสอบพบแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก จึงนำตัวทั้งหมด พร้อมกับคนขับรถทั้ง 2 คัน ส่งดำเนินคดีที่ สภ.เมืองชัยนาท

คุมพ่อชาวรัสเซียฝากขัง จับลูกชายวัย 13 โยนลงทะเลเสียชีวิต

ตำรวจคุมตัว “หนุ่มรัสเซีย” ฝากขัง หลังก่อเหตุโยนลูกวัย 13 ปี ออกจากเรือ บริเวณหมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา จนถูกใบพัดเรือบาดเจ็บสาหัส ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา อ้างเสียความทรงจำ ไม่รู้ทำอะไรลงไป

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ