กรุงเทพฯ 26 ก.ย.- ส.อ.ท.เชื่อเลือกตั้งช่วยให้เศรษฐกิจไทยโดยเฉพาะไตรมาสแรกปีหน้าดีขึ้น พร้อมขอให้รัฐบาลใหม่ที่มาจากระบอบประชาธิปไตยสานต่อโครงการที่ดีหลายๆ โครงการของรัฐบาล คสช.
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ตามที่ประเทศไทยจะมีการเลือกตั้งในปีหน้า เชื่อมั่นว่าจะส่งผลให้ภาพรวมเศรษฐกิจไทยปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสแรก และยังส่งผลต่อความเชื่อมั่นในสายตาของนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศดีขึ้น เพราะการเลือกตั้งเป็นสิ่งที่ดี จึงได้รับการยอมรับมากขึ้นจากนักลงทุน และเมื่อเป็นการปกครองในระบอบประชาธิปไตยยิ่งส่งผลดีต่อประเทศ แต่ที่สำคัญที่ภาคเอกชนต้องการก็คือ การเมืองภายในประเทศต้องนิ่ง ต้องยอมรับผลการเลือกตั้ง ผู้ที่ชนะต้องได้รับการยอมรับและให้เข้ามามีโอกาสทำงานช่วยพัฒนาประเทศชาติอย่างเต็มที่ ผู้ที่ไม่ชนะก็ทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ทำหน้าที่ดูแลผลประโยชน์ประเทศชาติอย่างเต็มที่เช่นเดียวกัน และขอให้รัฐบาลใหม่ที่จะเข้ามา มีนโยบายที่ชัดเจน พร้อมทำงานร่วมกับภาคเอกชนอย่างเต็มที่ เพื่อช่วยกันพัฒนาประเทศชาติให้ก้าวหน้าไปได้ แต่ถ้าหากมีการไม่ยอมรับกติกาผลการเลือกตั้งเกิดขึ้น ก็จะทำให้เกิดเดดล็อกขึ้นมาอีก ทำให้บ้านเมืองไม่สงบ
“สิ่งที่ภาคเอกชนคาดหวังหลังจากได้รัฐบาลใหม่เข้ามาบริหารประเทศภายหลังการเลือกตั้ง คือ ขอให้มีการเคารพกติกา และรัฐบาลใหม่ที่จะเข้ามาบริหารประเทศ ขอให้สานต่อโครงการต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติต่อเนื่องไป ซึ่งรัฐบาล คสช.มีหลายโครงการที่ถือได้ว่าเป็นผลงานที่ดี เช่น โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) โครงการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ในด้านต่างๆเป็นต้น” นายสุพันธุ์ กล่าว
นายสุพันธุ์ กล่าวในการเปิดงาน TFIC Furniture Outlet 2018 ปีที่ 14 ซึ่งปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิดงานเฟอร์นิเจอร์ระดับโลก ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 26-30 กันยายนนี้ ว่า ปีนี้กลุ่มอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ คาดว่าจะส่งออกในภาพรวมได้ไม่ต่ำกว่า 1,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 40,000 ล้านบาท โดยมีตลาดส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ สหรัฐ ญี่ปุ่น จีน และออสเตรเลีย และในอนาคตอันใกล้นี้จะขยายตลาดไปยังกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านให้มากยิ่งขึ้น ได้แก่ กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และเวียดนาม โดยจะเน้นการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่น่าสนใจ ขณะเดียวกัน การออกแบบเฟอร์นิเจอร์ก็ปรับให้เหมาะสมกับคนรุ่นใหม่ตามยุคสมัย รวมถึงออกแบบให้มีขนาดเหมาะสมกับรูปร่างของคนในแต่ละภูมิภาคมากยิ่งขึ้น พร้อมกับนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้ามาเสริมในตัวสินค้า สอดคล้องกับการที่ประเทศไทยกำลังก้าวสู่ประเทศไทย 4.0 ตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจไปสู่เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม-สำนักข่าวไทย