คนพิการอีกกลุ่ม โต้ไม่จริงโกงเงินคนพิการ 1.5 พันล้าน

ดินแดง 24 ก.ย. -คนพิการกว่า 100 คน บุกกระทรวงแรงงานโต้กลับยัน  ไม่มีการโกงเงินคนพิการ 1.5 พันล้านบาทตามที่อ้าง อดีตเพื่อนร่วมงาน “ปรีดา” ท้าเอาความจริงมาคุยกัน อย่าสร้างกระแสหวั่นคนพิการกระทบ


สมาคมคนพิการจากจังหวัดต่างๆ นำทีมคนพิการทางสายตาและวีลแชร์ที่ถูกจ้างงานใน ม.33 และ 35 กว่า 100 คน เข้าร้องเรียนและชี้แจง ต่อนายวิวัฒน์ ตังหงส์ รองปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีโกงเงินคนพิการเพื่อโต้กลับนายปรีดา ลิ้มนนทกุล ประธานเครือข่ายพิทักษ์สิทธิคนพิการ ที่ออกมาเปิดโปงก่อนนี้ว่าสถานประกอบการ คนพิการ และเจ้าหน้าที่รัฐ ร่วมกันทุจริตเงินค่าจ้างคนพิการ โดยการหักค่าหัวคิว สูญเงินกว่า 1.5 พันล้านบาทต่อปีนั้น ว่าเป็นการกล่าวอ้างเกินจริง  เจ้าหน้าที่รัฐไม่เกี่ยวข้อง 


น.ส.นฤชล โสภา อนุกรรมการฝ่ายอาชีพ สมาคมคนพิการแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า หลังจากที่นายปรีดาออกมาเปิดโปงเรื่องทั้งหมด สร้างผลกระทบต่อคนพิการทั่วประเทศ เพราะนอกจากเป็นการกล่าวอ้างที่เกินจริง ยังสร้างความเสียหายให้กับสมาคมคนพิการเพราะการที่ปรีดา ออกมากล่าวอ้างว่าเกิดการทุจริตการจ้างเงินคนพิการ ใน ม.33 และ 35 โดยการหักค่าหัวคิว สร้างความเสียหายให้กับคนพิการที่ถูกจ้างงานในมาตราดังกล่าว เพราะสถานประกอบการอาจจะยกเลิกการจ้างงานคนพิการในมาตรานี้และหันมาส่งเงินเข้ากองทุนพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ตาม ม.34 แทน เพราะเกรงว่าจะถูกจับตาและไม่ต้องการนำเงินมาจ้างคนพิการผ่านคนกลาง เสี่ยงต่อการพัวพันการทุจริต 


น.ส.นฤชล กล่าวต่อไปว่า วันนี้คนพิการจากทั่วประเทศจึงรวมตัวกันเพื่อยืนยันว่าไม่มีการทุจริตค่าจ้างคนพิการตามจำนวนเงินตามที่นายปรีดาร้องเรียนและผู้เสียหายที่นำมากล่าวอ้างเป็นกรณีเดิมที่เคยได้รับการแก้ไข ขณะที่บางส่วนก็ถูกนำมาแอบอ้างสร้างกระแส ทั้งที่ไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างไร  และการจ้างงานใน ม.33 และ 35 ทำให้คุณภาพชีวิตของผู้พิการดีขึ้น มีรายได้ กลับมาดำรงชีวิตในสังคมได้อีกครั้งและให้กำลังใจกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน และกรมพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของชีวิต (พม.) อย่ายกเลิกการจ้างงานคนพิการ และไม่ทราบว่า ทำไมนายปรีดา ถึงออกมากล่าวอ้างเกินจริงเช่นนี้ 

ขณะที่นายณัฐพล ลาภเกิน ประธานชมรมส่งเสริมอาชีพคนพิการ จ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า  เคยทำงานกับนายปรีดา ในการเป็นตัวแทนสถานประกอบการในการจัดโครงการการฝึกอบรมคนพิการ  ซึ่งช่วงที่ทำงานด้วยกันนั้น นายปรีดามีพฤติกรรมที่ไม่โปร่งใส เช่น นำคอมพิวเตอร์มือสองมาใช้ในการฝึกอบรม ขณะที่สถานประกอบการให้เงินมาซื้อเครื่องใหม่ และเมื่อสิ้นสุดการอบรมก็นำมาขายให้คนพิการ ทั้งที่เป็นสิทธิของเขาที่จะได้ฟรีเพื่อนำไปประกอบอาชีพ และเอาคนพิการมาอบรมน้อยกว่าที่เขียนโครงการขอกับกรมการจัดหางาน แต่นายปรีดากลับมากล่าวอ้างว่า สถานประกอบการ คนพิการและหน่วยงานรัฐ ทุจริตเงินคนพิการ 1.5 พันล้านบาทต่อปี ซึ่งส่วนตัวคาดว่าสาเหตุที่นายปรีดาออกมาเปิดโปง เพราะบริษัทยักษ์ใหญ่ปฏิเสธไม่ให้นายปรีดาเป็นตัวกลางในการจัดทำโครงการ จากที่เคยได้รับทำงานตลอด เนื่องจากเกิดปัญหาความไม่โปร่งใส ผลสัมฤทธิ์ไม่เป็นไปตามเป้า ทำให้ตอนนี้ไม่มีบริษัทเอกชนแห่งใดมอบหมายให้นายปรีดาเป็นคนดูแลโครงการ จึงทำให้นายปรีดาไม่พอใจ ต้องการล้มกระดาน สร้างกระแสข่าวว่ามีการทุจริตเพื่อให้สถานประกอบการไม่จ้างงานคนพิการผ่านนายหน้าและพยายามสร้างเครดิตให้ตัวเอง เพื่อผลประโยชน์ต่างๆ และยังเปิดรับบริจาคเงินจากคนพิการเดือนละ 800 บาท เป็นเวลา 4 เดือน โดยอ้างจะนำไปจัดตั้งกองทุนปฏิรูปคุณภาพชีวิตคนพิการและผู้สูงอายุ โดยให้เงินเข้าบัญชีในนามของตนเอง แทนในนามสมาคม หรือเครือข่าย และอยากให้นายปรี ออกมาพูดความจริง ผู้พิการคนไหนได้รับความเดือดร้อนให้ออกมาพูดให้ชัดเจน อย่าเหมารวม เพราะทำให้สมาคมคนพิการอีกหลายคนได้รับผลกระทบ ดังนั้นควรมาคุยกันให้ชัดเจนเพื่อหาข้อยุติ อย่าเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน และยืนยัน 2 กรมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริต เพราะเงินจากโครงการเจ้าหน้าที่ไม่ได้จับ ค่าจ้างถูกโอนเข้าบัญชี จึงอยากให้นายปรีดา เข้ามาคุยกัน ว่าการออกมาร้องแบบนี้ ใครมีส่วนได้ส่วนเสีย

นายวิวัฒน์ ตังหงส์ รองปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวภายหลังการหารือว่า ข้อมูลที่ได้รับวันนี้ถือว่าเป็นประโยชน์ในการตรวจสอบการทุจริตค่าจ้างคนพิการ โดยในวันพฤหัสบดีนี้ นายปรีดาจะเข้ายื่นหลักฐานผู้เสียหายจากการทุจริตตามที่กล่าวอ้างเพิ่มเติม ซึ่งขณะนี้ในการตรวจสอบอยู่ระหว่างการลงพื้นที่ที่มีโครงการอบรมคนพิการจำนวนมาก เช่นพื้นที่ กทม. อยุธยา สมุทรสาคร ชลบุรี โดยคาดว่าภายใน 15 วันนี้ก็จะรู้ผลความคืบหน้า หากพบเจ้าหน้าที่กระทรวงเกี่ยวข้องกับการทุจริตจะไล่ออกทันที และหากประชาชน ผู้พิการคนใดพบการทุจริตสามารถร้องเรียนมาที่กระทรวงแรงงานได้ .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โฆษก ทบ. ยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลัง-กลบคูเลต ลดตึงเครียด

8 มิ.ย. – โฆษก ทบ. ยืนยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลังกลับไปอยู่จุดเดิม พร้อมกลบคูเลตให้คืนสู่สภาพเดิม หลังบรรลุข้อตกลงการหารือ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก ลดความตึงเครียด วันนี้ (8 มิ.ย.68)​ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.ท.สรัย ดึก รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ได้เชิญฝ่ายทหารไทย โดย พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เข้าร่วมหารือ เพื่อเจรจาเกี่ยวกับกรณีปัญหาการรุกล้ำดินแดนในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก จากการหารือเบื้องต้น ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงในประเด็นสำคัญ คือ ฝ่ายทหารกัมพูชายินยอมถอนกำลังกลับไปยังจุดที่เคยประจำการอยู่เดิม ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุปะทะ หรือแนวต้นพญาสัตบรรณ ลึกเข้าไปในเขตแดนของประเทศกัมพูชา จุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายกัมพูชาเคยใช้เป็นแนววางกำลังฐานมาโดยตลอดในอดีต นอกจากนี้ ฝ่ายกัมพูชายังแสดงความยินยอมที่จะดำเนินการกลบคูเลตให้กลับคืนสู่สภาพธรรมชาติตามเดิม ตามข้อเสนอของฝ่ายไทย เพื่อเป็นการลดความตึงเครียด และสร้างบรรยากาศแห่งความร่วมมือ ภายหลังจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันที่จะใช้กลไกระดับคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น เป็นช่องทางในการหารือแนวทางบริหารจัดการพื้นที่อย่างเหมาะสมและยั่งยืนต่อไป.-313-สำนักข่าวไทย

Chaos and crowds at Poipet International Border Gate

สื่อกัมพูชาลงภาพคนแออัดที่ด่านปอยเปต

พนมเปญ 8 มิ.ย. – สื่อกัมพูชาเผยแพร่ภาพชาวกัมพูชาและชาวต่างชาติแออัดที่จุดผ่านแดนถาวรปอยเปต ในเช้าวันนี้ เพื่อรอข้ามแดน หลังจากไทยประกาศมาตรการจำกัดการข้ามแดนระหว่าง 2 ประเทศ เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์เผยแพร่ภาพชุดจากเฟรชนิวส์ ซึ่งเป็นสื่อออนไลน์ของกัมพูชา เป็นภาพสถานการณ์ที่จุดผ่านแดนถาวรด้านปอยเปต จังหวัดบันเตียเมียนเจยของกัมพูชาที่ติดกับบ้านคลองลึก จังหวัดสระแก้วของไทย เจ้าหน้าที่กัมพูชารายงานว่า สถานการณ์ช่วงเช้าวันนี้มีคนหนาแน่นมาก หลังจากทางการปรับเวลาเปิดปิดประตูจุดผ่านแดน อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ชายแดนของทั้ง 2 ฝ่ายยังคงพูดคุยกันและอำนวยความสะดวกให้แก่การผ่านแดนระหว่างกัน แขมร์ไทมส์รายงานว่า ไทยตัดสินใจปรับเปลี่ยนเวลาเปิดปิดประตูแต่เพียงฝ่ายเดียว โดยได้ปรับเปลี่ยนเวลาเปิดปิดจุดผ่านแดนถาวรที่เป็นด่านสากลทั้งหมดเป็น 08.00-16.00 น. และปิดประตูที่เป็นด่านทวิภาคี.-814.-สำนักข่าวไทย

Colombian Senator Miguel Uribe

ลอบยิงผู้สมัคร ปธน.โคลอมเบีย เป็นตายเท่ากัน

โบโกตา 8 มิ.ย. – หนึ่งในผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีโคลอมเบียถูกลอบยิงอย่างอุกอาจ ระหว่างปราศรัยหาเสียงต่อหน้าฝูงชนจำนวนมากในกรุงโบโกตา ภรรยาระบุว่า ขณะนี้อาการเป็นตายเท่ากัน คลิปเหตุการณ์ที่มีผู้บันทึกไว้ได้ เผยให้เห็นวินาทีที่นายมิเกล อูริเบ สมาชิกวุฒิสภา วัย 39 ปี หนึ่งในผู้สมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีโคลอมเบียปี 2569 ถูกมือปืนยิงหมายลอบสังหารขณะกำลังยืนปราศรัยหาเสียงต่อหน้าประชาชนจำนวนมากภายในสวนสาธารณะแห่งหนึ่งในกรุงโบโกตาเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ผู้คนในที่เกิดเหตุพากันกรีดร้องตกใจ จากนั้นมีเสียงปืนตามมาอีกหลายนัด คาดว่าเป็นการยิงปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของอูริเบกับมือปืน มีรายงานผู้ถูกยิงบาดเจ็บเพิ่มอีก 1 คน ขณะที่นายอูริเบซึ่งถูกยิงเลือดอาบ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงอย่างเร่งด่วน พรรคศูนย์กลางประชาธิปไตยซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านที่นายอูริเบสังกัดอยู่ออกแถลงการณ์ประณามและเปิดเผยเพียงสั้น ๆ ว่า คนร้ายยิงจากด้านหลัง ขณะที่สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานอ้างเจ้าหน้าที่แพทย์ว่า เขาถูกยิงเข้าที่ศีรษะ 2 นัด และเข้าที่เข่า 1 นัด ภรรยาของเขาโพสต์ในเอ็กซ์ (X) ว่า สามีอาการเป็นตายเท่ากัน รัฐบาลโคลอมเบียแจ้งในเวลาต่อมาว่า ตำรวจจับกุมผู้ต้องสงสัย 1 คน ซึ่งยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่ในที่เกิดเหตุ และกำลังสอบสวนว่ามีผู้เกี่ยวข้องอีกหรือไม่ โดยได้ตั้งเงินรางวัล 730,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 24 ล้านบาท) แก่ผู้แจ้งเบาะแส สื่อท้องถิ่นรายงานว่า […]

สนามบินพร้อมสกัดกลุ่มเทาต่างชาติบินเข้าไทย หลังคุมเข้มเข้า-ออกด่านบก

7 มิ.ย. – ตามที่รัฐบาลมีนโยบายควบคุมการเข้า-ออกด่านชายแดนทางบก และมีคำสั่งจากกองทัพบกให้อำนาจกองทัพภาคที่ 1 และ 2 พิจารณาคัดกรองการเข้าออกด่านชายแดนทางบก โดยเฉพาะ จ.จันทบุรี และสระแก้ว โดยมีผลตั้งแต่ 7 มิ.ย.2568 ในส่วนของการเข้าทางอากาศ โดยเฉพาะทางสนามบินสุวรรณภูมิ และดอนเมือง ซึ่งคาดว่าจะมีกลุ่มต่างชาติที่ใช้เส้นทางเข้าออกไทย-กัมพูชา หันมาเดินทางเข้าแทนช่องทางบกนั้น วันนี้ (7 มิ.ย.2568 ) พล.ต.ต.เชิงรณ ริมผดี ผบก.ตม.2 เปิดเผยว่า ตม.สนามบิน พร้อมขานรับนโยบาย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร ที่มีจุดยืนด้านความมั่นคงชัดเจน โดยเฉพาะ พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. ได้เคยกำชับการสกัดกั้นคนต่างชาติที่มีพฤติกรรมเข้าออกประเทศด้วยฟรีวีซ่าที่ผิดวัตถุประสงค์ และกลุ่มที่เสี่ยงต่อการกระทำผิด โดยเฉพาะแก็งค์คอลเซ็นเตอร์ และการพนันออนไลน์ ซึ่งอาจใช้ไทยเป็นแหล่งทำธุรกิจฟอกเงิน จากการทำธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศเพื่อนบ้าน และการปิดด่านชายแดน อาจมีกลุ่มต่างชาติที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด ใช้เส้นทางเข้าไทยทางเครื่องบินแทนการผ่านแดนทางบก ทาง บก.ตม.2 จึงมีการสั่งการกำชับให้ด่าน ตม.สนามบินในสังกัด โดยเฉพาะสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เพิ่มความเข้มในการเฝ้าสังเกตสกัดกั้นคนต่างชาติลักษณะเสี่ยงดังกล่าว โดยเน้นต่างชาติกลุ่มเฝ้าระวังสัญชาติเพื่อนบ้านที่มีลักษณะการใช้ฟรีวีซ่าเข้าออกผิดประเภท […]

ข่าวแนะนำ

ลอบวางระเบิด 2 จุด กลางตลาดโต้รุ่งเมืองปัตตานี

ปัตตานี 8 มิ.ย. – คนร้ายลอบวางระเบิดกลางตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี รถจักรยานยนต์เสียหาย 2 คัน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต วันที่ 8 มิ.ย.68 เวลา 20.00 น. เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบกลุ่มจำนวน ลอบวางระเบิดแสวงเครื่อง จำนวน 2 ลูก โดยจุดแรก วางระเบิดในถังขยะ หน้าร้านทอง บริเวณตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต รถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหาย จำนวน 2 คัน และจุดที่ 2 วางระเบิดในถังขยะ บริเวณในซอยข้างโรงแรม หลังตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต การก่อเหตุครั้งนี้ คาดว่าเป็นการก่อเหตุเพื่อสร้างสถานการณ์ให้เกิดขึ้นในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ตามข้อมูลข่าวสารที่หน่วย ส.จว.ปัตตานี ได้ออกข่าวแจ้งเตือนไปแล้ว เมื่อวันที่ 26 พ.ค.68 เวลา 15.00 น. ปรากฏข่าวสารว่า นายมะกอเซ็ง หม้าแอ สมาชิก ผกร.ระดับปฏิบัติการ และสมาชิกจำนวน […]

นายกฯ เผยหารือกัมพูชา ตกลงปรับกำลังทหารทั้ง 2 ฝ่าย ลดเผชิญหน้า

ทำเนียบรัฐบาล 8 มิ.ย. – นายกฯ เผยหารือกับรัฐบาลกัมพูชา ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงจะร่วมกันปรับกำลังทหาร จุดที่มีการกระทบกระทั่ง เพื่อลดการเผชิญหน้า เดินหน้าใช้กลไก JBC 14 มิ.ย.นี้ นำพาความสัมพันธ์เข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ความพยายามคลี่คลายสถานการณ์ความขัดแย้งตามแนวชายแดน โดยการปฏิบัติงานของทั้งระดับนโยบาย โดยรัฐบาล ฝ่ายความมั่นคง กองทัพ กระทรวงการต่างประเทศ และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีพัฒนาการในทางที่ดีขึ้นเป็นลำดับค่ะ ดิฉันได้หารือกับรัฐบาลกัมพูชา มีข้อสรุปที่ส่งผลดีต่อสถานการณ์ โดยทั้ง 2 ฝ่ายตกลงจะร่วมกันปรับกำลังทหาร ณ จุดที่มีการกระทบกระทั่ง เพื่อลดบรรยากาศการเผชิญหน้า และจะพัฒนาความร่วมมือโดยใช้กลไก JBC ในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ และจะมีการพูดคุยกันในทุกระดับ เพื่อนำพาความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วค่ะ ขอให้พี่น้องประชาชนติดตามสถานการณ์และข้อเท็จจริงจากรัฐบาล พร้อมทั้งเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานจนประสบผลสำเร็จต่อไป สุดท้ายนี้ ขอให้พี่น้องประชาชนได้โปรดคลายความกังวล และมีความมั่นใจในการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลว่า จะไม่มีเหตุกระทบกระทั่งที่รุนแรงเกิดขึ้นแน่นอนค่ะ.-316-สำนักข่าวไทย

โฆษก ทบ. ยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลัง-กลบคูเลต ลดตึงเครียด

8 มิ.ย. – โฆษก ทบ. ยืนยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลังกลับไปอยู่จุดเดิม พร้อมกลบคูเลตให้คืนสู่สภาพเดิม หลังบรรลุข้อตกลงการหารือ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก ลดความตึงเครียด วันนี้ (8 มิ.ย.68)​ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.ท.สรัย ดึก รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ได้เชิญฝ่ายทหารไทย โดย พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เข้าร่วมหารือ เพื่อเจรจาเกี่ยวกับกรณีปัญหาการรุกล้ำดินแดนในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก จากการหารือเบื้องต้น ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงในประเด็นสำคัญ คือ ฝ่ายทหารกัมพูชายินยอมถอนกำลังกลับไปยังจุดที่เคยประจำการอยู่เดิม ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุปะทะ หรือแนวต้นพญาสัตบรรณ ลึกเข้าไปในเขตแดนของประเทศกัมพูชา จุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายกัมพูชาเคยใช้เป็นแนววางกำลังฐานมาโดยตลอดในอดีต นอกจากนี้ ฝ่ายกัมพูชายังแสดงความยินยอมที่จะดำเนินการกลบคูเลตให้กลับคืนสู่สภาพธรรมชาติตามเดิม ตามข้อเสนอของฝ่ายไทย เพื่อเป็นการลดความตึงเครียด และสร้างบรรยากาศแห่งความร่วมมือ ภายหลังจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันที่จะใช้กลไกระดับคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น เป็นช่องทางในการหารือแนวทางบริหารจัดการพื้นที่อย่างเหมาะสมและยั่งยืนต่อไป.-313-สำนักข่าวไทย

ถึงไทยแล้ว “วิว กุลวุฒิ” เผยพยายามรักษาแชมป์ให้นานที่สุด

สนามบินดอนเมือง 8 มิ.ย.- “วิว กุลวุฒิ” นักแบดมินตันชายเดี่ยว มือ 1 ของโลก ถึงไทยแล้ว เผยพยายามรักษาแชมป์ให้นานที่สุด เตรียมลุยเป้าหมาย “ออล อิงแลนด์” “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักกีฬาแบดมินตันประเภทชายเดี่ยวของไทย พร้อม “โค้ชเป้” ภัททพล เงินศรีสุข เดินทางกลับถึงประเทศไทย หลังเข้าร่วมการแข่งขันแบดมินตันรายการใหญ่ อินโดนีเซีย โอเพ่น 2025 รายการระดับเวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 1000 ชิงเงินรางวัลรวม 1,450,000 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อิสโตร่า เสนายัน ในกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ระหว่างวันที่ 3-8 มิถุนายน 2568 โดยรอบรองชนะเลิศ “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ มือ 1 ของโลกและมือ 2 ของรายการ พบกับ โจว เทียนเฉิน มือ 7 ของโลกจากไต้หวัน […]