คนพิการอีกกลุ่ม โต้ไม่จริงโกงเงินคนพิการ 1.5 พันล้าน

ดินแดง 24 ก.ย. -คนพิการกว่า 100 คน บุกกระทรวงแรงงานโต้กลับยัน  ไม่มีการโกงเงินคนพิการ 1.5 พันล้านบาทตามที่อ้าง อดีตเพื่อนร่วมงาน “ปรีดา” ท้าเอาความจริงมาคุยกัน อย่าสร้างกระแสหวั่นคนพิการกระทบ


สมาคมคนพิการจากจังหวัดต่างๆ นำทีมคนพิการทางสายตาและวีลแชร์ที่ถูกจ้างงานใน ม.33 และ 35 กว่า 100 คน เข้าร้องเรียนและชี้แจง ต่อนายวิวัฒน์ ตังหงส์ รองปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีโกงเงินคนพิการเพื่อโต้กลับนายปรีดา ลิ้มนนทกุล ประธานเครือข่ายพิทักษ์สิทธิคนพิการ ที่ออกมาเปิดโปงก่อนนี้ว่าสถานประกอบการ คนพิการ และเจ้าหน้าที่รัฐ ร่วมกันทุจริตเงินค่าจ้างคนพิการ โดยการหักค่าหัวคิว สูญเงินกว่า 1.5 พันล้านบาทต่อปีนั้น ว่าเป็นการกล่าวอ้างเกินจริง  เจ้าหน้าที่รัฐไม่เกี่ยวข้อง 


น.ส.นฤชล โสภา อนุกรรมการฝ่ายอาชีพ สมาคมคนพิการแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า หลังจากที่นายปรีดาออกมาเปิดโปงเรื่องทั้งหมด สร้างผลกระทบต่อคนพิการทั่วประเทศ เพราะนอกจากเป็นการกล่าวอ้างที่เกินจริง ยังสร้างความเสียหายให้กับสมาคมคนพิการเพราะการที่ปรีดา ออกมากล่าวอ้างว่าเกิดการทุจริตการจ้างเงินคนพิการ ใน ม.33 และ 35 โดยการหักค่าหัวคิว สร้างความเสียหายให้กับคนพิการที่ถูกจ้างงานในมาตราดังกล่าว เพราะสถานประกอบการอาจจะยกเลิกการจ้างงานคนพิการในมาตรานี้และหันมาส่งเงินเข้ากองทุนพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ตาม ม.34 แทน เพราะเกรงว่าจะถูกจับตาและไม่ต้องการนำเงินมาจ้างคนพิการผ่านคนกลาง เสี่ยงต่อการพัวพันการทุจริต 


น.ส.นฤชล กล่าวต่อไปว่า วันนี้คนพิการจากทั่วประเทศจึงรวมตัวกันเพื่อยืนยันว่าไม่มีการทุจริตค่าจ้างคนพิการตามจำนวนเงินตามที่นายปรีดาร้องเรียนและผู้เสียหายที่นำมากล่าวอ้างเป็นกรณีเดิมที่เคยได้รับการแก้ไข ขณะที่บางส่วนก็ถูกนำมาแอบอ้างสร้างกระแส ทั้งที่ไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างไร  และการจ้างงานใน ม.33 และ 35 ทำให้คุณภาพชีวิตของผู้พิการดีขึ้น มีรายได้ กลับมาดำรงชีวิตในสังคมได้อีกครั้งและให้กำลังใจกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน และกรมพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของชีวิต (พม.) อย่ายกเลิกการจ้างงานคนพิการ และไม่ทราบว่า ทำไมนายปรีดา ถึงออกมากล่าวอ้างเกินจริงเช่นนี้ 

ขณะที่นายณัฐพล ลาภเกิน ประธานชมรมส่งเสริมอาชีพคนพิการ จ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า  เคยทำงานกับนายปรีดา ในการเป็นตัวแทนสถานประกอบการในการจัดโครงการการฝึกอบรมคนพิการ  ซึ่งช่วงที่ทำงานด้วยกันนั้น นายปรีดามีพฤติกรรมที่ไม่โปร่งใส เช่น นำคอมพิวเตอร์มือสองมาใช้ในการฝึกอบรม ขณะที่สถานประกอบการให้เงินมาซื้อเครื่องใหม่ และเมื่อสิ้นสุดการอบรมก็นำมาขายให้คนพิการ ทั้งที่เป็นสิทธิของเขาที่จะได้ฟรีเพื่อนำไปประกอบอาชีพ และเอาคนพิการมาอบรมน้อยกว่าที่เขียนโครงการขอกับกรมการจัดหางาน แต่นายปรีดากลับมากล่าวอ้างว่า สถานประกอบการ คนพิการและหน่วยงานรัฐ ทุจริตเงินคนพิการ 1.5 พันล้านบาทต่อปี ซึ่งส่วนตัวคาดว่าสาเหตุที่นายปรีดาออกมาเปิดโปง เพราะบริษัทยักษ์ใหญ่ปฏิเสธไม่ให้นายปรีดาเป็นตัวกลางในการจัดทำโครงการ จากที่เคยได้รับทำงานตลอด เนื่องจากเกิดปัญหาความไม่โปร่งใส ผลสัมฤทธิ์ไม่เป็นไปตามเป้า ทำให้ตอนนี้ไม่มีบริษัทเอกชนแห่งใดมอบหมายให้นายปรีดาเป็นคนดูแลโครงการ จึงทำให้นายปรีดาไม่พอใจ ต้องการล้มกระดาน สร้างกระแสข่าวว่ามีการทุจริตเพื่อให้สถานประกอบการไม่จ้างงานคนพิการผ่านนายหน้าและพยายามสร้างเครดิตให้ตัวเอง เพื่อผลประโยชน์ต่างๆ และยังเปิดรับบริจาคเงินจากคนพิการเดือนละ 800 บาท เป็นเวลา 4 เดือน โดยอ้างจะนำไปจัดตั้งกองทุนปฏิรูปคุณภาพชีวิตคนพิการและผู้สูงอายุ โดยให้เงินเข้าบัญชีในนามของตนเอง แทนในนามสมาคม หรือเครือข่าย และอยากให้นายปรี ออกมาพูดความจริง ผู้พิการคนไหนได้รับความเดือดร้อนให้ออกมาพูดให้ชัดเจน อย่าเหมารวม เพราะทำให้สมาคมคนพิการอีกหลายคนได้รับผลกระทบ ดังนั้นควรมาคุยกันให้ชัดเจนเพื่อหาข้อยุติ อย่าเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน และยืนยัน 2 กรมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริต เพราะเงินจากโครงการเจ้าหน้าที่ไม่ได้จับ ค่าจ้างถูกโอนเข้าบัญชี จึงอยากให้นายปรีดา เข้ามาคุยกัน ว่าการออกมาร้องแบบนี้ ใครมีส่วนได้ส่วนเสีย

นายวิวัฒน์ ตังหงส์ รองปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวภายหลังการหารือว่า ข้อมูลที่ได้รับวันนี้ถือว่าเป็นประโยชน์ในการตรวจสอบการทุจริตค่าจ้างคนพิการ โดยในวันพฤหัสบดีนี้ นายปรีดาจะเข้ายื่นหลักฐานผู้เสียหายจากการทุจริตตามที่กล่าวอ้างเพิ่มเติม ซึ่งขณะนี้ในการตรวจสอบอยู่ระหว่างการลงพื้นที่ที่มีโครงการอบรมคนพิการจำนวนมาก เช่นพื้นที่ กทม. อยุธยา สมุทรสาคร ชลบุรี โดยคาดว่าภายใน 15 วันนี้ก็จะรู้ผลความคืบหน้า หากพบเจ้าหน้าที่กระทรวงเกี่ยวข้องกับการทุจริตจะไล่ออกทันที และหากประชาชน ผู้พิการคนใดพบการทุจริตสามารถร้องเรียนมาที่กระทรวงแรงงานได้ .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือน 9 จังหวัดรับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 20 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือน 9 จังหวัดรับมือฝนตกหนัก เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่งโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก พิษณุโลก เพชรบูรณ์ เลย ชัยภูมิ นครนายก ปราจีนบุรี จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันประเทศไทยและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุโซนร้อน “มิแทก” บริเวณทะเลมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันแล้ว คาดว่าจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำและสลายตัวอย่างรวดเร็ว ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางไว้ด้วย -สำนักข่าวไทย

สึกแล้ว “ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง” ปมร้องเรียนทุจริตเงินวัด-พัวพัน 3 สีกา

19 ก.ย. – สึกแล้ว “ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง” และเดินทางออกจากวัดทันที หลังก่อนหน้านี้มีการร้องเรียนเกี่ยวกับทุจริตเงินวัด และพัวพัน 3 สีกา เป็นภาพเอกสารที่พระธรรมสุธี เจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง ส่งไปยังเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร เพื่อชี้แจงกรณีของผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง พร้อมแนบภาพถ่ายการลาสิกขาของผู้ช่วยเจ้าอาวาส เอกสารระบุข้อความว่า “ตามที่มีประเด็นปรากฏในสื่อออนไลน์ และสื่อต่างๆ เกี่ยวข้องกับผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง ทางวัดหัวลำโพง ขอชี้แจงตามประเด็นดังต่อไปนี้ 1.กรณีพฤติกรรมชู้สาวของพระครูปริยัติวัฒนกิจ ทางวัดยังไม่พบหรือปรากฏหลักฐาน เนื่องจากเป็นเรื่องส่วนบุคคล2.กรณียักยอกงินวัดนั้น ทางวัดขอชี้แจงว่า ยังไม่พบหรือปรากฏหลักฐาน เนื่องจากหน้าที่ของพระครูปริยัติวัฒนกิจ เป็นเพียงเจ้าหน้าที่ฌาปนสถานวัดหัวลำโพง มีหน้าที่ประสานงานกับเจ้าภาพที่มาติดต่อเกี่ยวกับการจองศาลาบำเพ็ญกุศล อีกทั้งฌาปนสถานวัดหัวลำโพง ประกอบด้วยกรรมการบริหารจำนวน 5 รูป โดยมีเจ้าอาวาสเป็นประธาน และมีการทำบัญชีรายรับรายจ่ายในส่วนฌาปนสถานของวัดมาโดยตลอด 3.กรณีลาสิกขา ทางพระครูปริยัติวัฒนกิจ แจ้งความประสงค์ลาสิกขาด้วยความสมัครใจ เพื่อมิให้กระทบกระเทือนต่อภาพลักษณ์ของวัด และศรัทธาของสาธุชน โดยลาสิกขา 18 ก.ย. 2568 เวลา 19.10 น. และเดินทางออกจากวัดทันที ย้อนดูคำชี้แจง “อดีตพระครูปริยัติวัฒนกิจ”ย้อนดูคำชี้แจงจากปากของอดีตพระครูปริยัติวัฒนกิจ ก่อนหน้านี้ที่ทีมข่าวได้พูดคุยผ่านทางโทรศัพท์ สำหรับเรื่องทุจริตเงินวัด อดีตพระครูปริยัติวัฒนกิจ บอกว่าเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง ปกติหน้าที่เกี่ยวข้องกับเงินของตนเอง […]

เบื้องหลังละครกัมพูชา

สระแก้ว 19 ก.ย. – ชาวกัมพูชาที่บ้านหนองหญ้าแก้ว ยังไม่รามือ หลังพบความพยายามรวบรวมฝูงชนจากพื้นที่อื่น เข้ามาสร้างสถานการณ์ยึดดินแดนไทย อาจมีเบื้องหลังเป็นข้าราชการกัมพูชา-นายทุนต่างชาติ.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูเชิญถกอาเซียน ยันไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยได้

พรรคภูมิใจไทย 19 ก.ย.- “อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูหาเชิญร่วมประชุมอาเซียน ยันไม่มีใครเคลียร์-แทรกแซงรัฐบาลได้ หลัง “ฮุน มาเนต” ขอมาเลเซียเป็นตัวกลาง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ออกมาเปิดเผยว่าได้โทรศัพท์พูดคุยเป็นการส่วนตัว โดยนายอนุทิน ยอมรับว่า เมื่อวานนายอันวาร์ได้โทรมาหา พูดคุยถึงการเชื้อเชิญว่า ถ้าหากตนได้รับตำแหน่งเรียบร้อยแล้วคงจะได้พบกันโดยเร็วที่สุด ซึ่งจะเป็นการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในช่วงเดือนหน้า ส่วนการพูดคุยถึงสถานการณ์ชายแดนจังหวัดสระแก้ว นายอนุทิน ระบุว่า ไม่ได้มีการพูดคุยในรายละเอียด อีกทั้งตนยังไม่สามารถพูดอะไรได้มาก เนื่องจากยังไม่ได้เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งขณะนี้ก็ยังคงมีรัฐบาลรักษาการ เราให้เกียรติกัน “ผมรับตำแหน่งได้ ก็ต่อเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อน ส่วนเรื่องนโยบาย ข้อสั่งการ ต้องรอการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งขณะนี้เราก็ยังรวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์ไว้ให้มากที่สุด” นายอนุทิน กล่าว ส่วนกรณีที่นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ร้องขอไปยังนายอันวาร์ เพื่อให้เข้ามาแทรกแซงการเจรจานั้น นายอนุทิน ยืนยันว่า ไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยและอธิปไตยของไทยได้ ส่วนเรื่องการพูดคุย นายอนุทิน ย้ำว่า เราสามารถทำได้ เพราะเป็นคนที่คุ้นเคยรู้จักกัน […]