รมว.พลังงานสั่ง กฟผ.ศึกษานำยางฯ ผลิตไฟฟ้า ย้ำไม่กระทบเอฟที

กรุงเทพฯ 21 ก.ย. – รมว.พลังงานสั่ง กฟผ.ศึกษานำยางพาราสตอกรัฐผลิตไฟฟ้า ย้ำต้องไม่กระทบค่าไฟฟ้าเอฟที ส่วนการประมูล บงกช-เอราวัณ พร้อมชี้แจงและเปิดประมูลตามกรอบเวลาที่กำหนด  


นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า กรณีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประสานให้กระทรวงพลังงานนำยางธรรมชาติในสตอกของรัฐ 100,000 ตัน จากโครงการรักษาเสถียรภาพราคายางมูลค่า 22,000 ล้านบาท ไปเป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้า ว่า ได้สั่งการให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ไปศึกษาความเป็นไปได้ในการนำยางพาราไปเป็นเชื้อเพลิงในโรงไฟฟ้าถ่านหิน ซึ่งต้องรอผลการศึกษาว่าสามารถดำเนินการได้หรือไม่ โดยปกติแล้วโรงไฟฟ้าถ่านหินของ กฟผ.เน้นเรื่องการดูแลผลกระทบสิ่งแวดล้อมใช้ถ่านหินไปบดและเผา ส่วนต้นทุนหากใช้ยางพาราไปผลิตไฟฟ้า ก็ได้หารือในรัฐบาลแล้วว่าจะต้องไม่ให้กระทบค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (เอฟที ) หากต้นทุนเพิ่มขึ้นภาครัฐจะต้องหาเงินส่วนอื่นมาสนับสนุน เพราะหาก กฟผ.ใช้ยางพาราก็ต้องมีการซื้อเหมือนกับการซื้อเชื้อเพลิงทั่วไป 

 รมว.พลังงาน ยังกล่าวด้วยว่า พร้อมชี้แจงทุกภาคส่วนที่ออกมาคัดค้านการเปิดประมูลแหล่งสัมปทานในทะเลอ่าวไทยหมายเลข G1/61(แหล่งเอราวัณ) และ G2/61(แหล่งบงกช) ในรูปแบบสัญญาแบ่งปันผลผลิต (PSC) ซึ่งรูปแบบนี้เป็นรูปแบบสากลและมีการประกาศไว้นานแล้ว โดยทางกระทรวงฯ พร้อมชี้แจงทุกฝ่ายหากเดินทางมาที่กระทรวงฯ โดยขอว่าอย่าไปชุมนุมจนสร้างความเดือดร้อนแก่ผู้อื่น ซึ่งพร้อมชี้แจงทั้งวันที่ 24, 25 และ 26 กันยายนนี้


ส่วนวันที่ 25 กันยายนนี้ ทางกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติจะเปิดให้เอกชนผู้ยื่นประมูลมายื่นข้อเสนอตามกำหนดการที่วางไว้ โดยจะยื่นข้อเสนอด้านเทคนิคและผลประโยชน์ตอบแทนรัฐตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในทีโออาร์ และการพิจารณาคัดเลือกผู้ชนะการประมูลจะพิจารณาเอกสาร หลักฐาน ข้อเสนอด้านเทคนิค และผลประโยชน์ตอบแทนรัฐของผู้เข้าร่วมประมูลตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ ใช้เวลา 2 เดือนและนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติ คาดประกาศผลผู้ชนะการประมูลเดือนธันวาคม 2561 และจะมีการลงนามสัญญากับผู้ชนะการประมูลเดือนกุมภาพันธ์ 2562 

“การลงทุนทั้งบงกชและเอราวัณจะมีเงินลงทุนรวมนับแสนล้านบาท มีเวลาลงทุนนับสิบปี การคัดเลือกจะใช้เวลา 2 เดือน โดยพร้อมชี้แจงและเปิดเผยเหตุผลการคัดเลือก โดยทุกอย่างไปตามมาตรฐานสากล ด้วยความโปร่งใส เป็นธรรม โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ประเทศและประชาชนมีก๊าซธรรมชาติใช้อย่างต่อเนื่องในราคาที่เหมาะสม” รมว.พลังงาน กล่าว

ทั้งนี้ ตามทีโออาร์การเปิดประมูลภายใต้ระบบสัญญาแบ่งปันผลผลิต (Production Sharing Contract : PSC) ทางกระทรวงฯ ได้ให้ความสำคัญเรื่องความมั่นคงและค่าไฟฟ้าต่ำสุด จึงกำหนดข้อเสนอการพิจารณาการให้คะแนนราคาก๊าซฯ ในอัตราที่ไม่สูงกว่าราคาปัจจุบันเป็นสัดส่วนคะแนนร้อยละ 65 และที่เหลือร้อยละ 25 พิจารณาจากข้อเสนอส่วนแบ่งกำไรอีกร้อยละ 10 พิจารณาจากข้อเสนออื่น ๆ ขณะที่ข้อกำหนดด้านความมั่นคงได้กำหนดให้ผู้ผลิตรายใหม่ผลิตก๊าซฯ จาก 2 แหล่งรวมกัน ณ วันที่เริ่มสัญญาในปี 2565-2566 ที่ 1,500 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน เป็นเวลา 10 ปี จากปัจจุบันกำลังผลิตจาก 2 แหล่ง รวมกันอยู่ที่ 2,100  ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน 


ส่วนการแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงพลังงานนั้น ยังไม่มีกำหนดที่ชัดเจนว่าจะเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในช่วงใด เพราะยังต้องรอให้นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงานคนใหม่ ร่วมเป็นผู้พิจารณารายชื่อ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

“ไฮโซกำมะลอ” กระโดดชั้น 3 สน.โคกคราม

“ไฮโซเก๊” โลก 2 ใบ เครียดปีนตึก หลังถูก “คะน้า” ดาราสาว ออกมาแฉกลางรายการดัง จนตำรวจต้องเข้าเกลี้ยกล่อมพาไปโรงพัก แต่ยังวิ่งหนีการควบคุม กระโดดลงมาจากชั้น 3 สน.โครกคราม บาดเจ็บ

วันที่ 11 ปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. ถล่ม

วันที่ 11 ของปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. พังถล่ม เจ้าหน้าที่เดินหน้าใช้เครื่องจักรหนักเข้า เคลียร์ซากต่อเนื่อง โดยเฉพาะโซนบี และซี ที่คาดว่าเป็นจุดที่มีผู้ติดค้างอยู่จำนวนมาก

ชุดค้นหาลงโพรงโซน B, C ลึก 5-6 เมตร ได้กลิ่นแรง ไม่พบผู้สูญหาย

“กู้ภัย” เผยเจาะโพรงพื้นที่โซน B และ C ได้แล้ว พร้อมส่งชุดค้นหาลงโพรงไปตรวจสอบลึก 5-6 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหายเพิ่ม แต่ได้กลิ่นแรง เร่งเดินหน้าเครื่องจักรหนักเคลียร์ซากต่อเนื่อง ยันจะช่วยเหลือจนกว่านำร่างสุดท้ายออกมาครบ