ไทยมุ่งสู่สังคมไร้เงินสด ยอดการใช้พร้อมเพย์พุ่ง 6 เท่า

ธปท . 20 ก.ย.- ยอดโอนพร้อมเพย์พุ่ง 6 เท่า หลังแบงก์ฟรีค่าธรรมเนียมโอนออนไลน์ พบมนุษย์เงินเดือนใช้พร้อมเพย์แทนเงินสด เฉลี่ย 4,600 บาทต่อรายการ


นางสาว อณิยา ฉิมน้อย ผู้วิเคราะห์ ฝ่ายนโยบายระบบการชำระเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดเผยผลการศึกษา “บริการการพร้อมเพย์ ตอบโจทย์จริงหรือไม่ และช่วยส่งเสริมการโอนเงินและชำระเงินผ่านช่องทาง “ ของสถาบันป๋วย อึ๊งภากรณ์ ว่า หลังจากเปิดให้บริการพร้อมเพย์มาเป็นเวลา 1ปีกว่า ประชาชนมีการลงทะเบียนใช้บริการพร้อมเพย์  44.5 ล้านเลขหมาย  เติบโตร้อยละ 6  ณ เดือนสิงหาคม 2561 โดยประชาชนนิยมโอนพร้อมเพย์มากขึ้น เติบโตเฉลี่ยร้อยละ 35 ต่อเดือน โดยเฉพาะในไตรมาส 2/61 ธุรกรรมโอนเงินผ่านพร้อมเพย์เพิ่มขึ้นกว่าปกติ 6 เท่า เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/61 เนื่องจากธนาคารพาณิชย์ยกเว้นค่าธรรมเนียมการโอนข้ามธนาคารผ่านช่องทางออนไลน์  โดยยังพบว่าไตรมาส 2 /61 ธุรกรรมการโอนข้ามธนาคาร เติบโตกว่าร้อยละ 239 และมีการเปิดบัญบัญชี Mobile Banking สูงถึง 38 ล้านบัญชี เพิ่มขึ้นร้อยละ 44 เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/60 


สำหรับปริมาณธุรกรรมพร้อมเพย์สะสม ณ วันที่ 13 กันยายน 2561  มีปริมาณธุรกรรม 631 ล้านรายการ รวมมูลค่า 3.1 ล้านล้านบาท และพบมูลค่าการโอนเฉลี่ยต่อรายการลดลง จาก 7,000 บาทต่อรายการ เหลือ 4,600 บาทต่อรายการ สะท้อนคนใช้พร้อมเพย์ชำระเงินแทนการใช้เงินสดมากขึ้น โดยเฉพาะมนุษย์เงินเดือน นิยมโอนเงินในช่วงสิ้นเดือน วันทำงาน ช่วงพักเที่ยงและหลังเลิกงาน  และโอนพร้อมเพย์ผ่านMobile Banking ประมาณร้อยละ 81 ของมูลค่าธุรกรรมทั้งหมด และมีอัตราการเติบโตสูงขึ้นถึงร้อยละ 31 ต่อเดือน 

นายอรรถเวช อาภาศรีกุล ผู้วิเคราะห์อาวุโส  ฝ่ายนโยบายระบบการชำระเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ประชาชนที่ลงทะเบียนใช้บริการพร้อมเพย์ กว่า 44.5 ล้านเลขหมาย  แบ่งเป็นใช้เลขประจำตัวประชาชน 28.2 ล้านเลขหมาย หรือร้อยละ 43 ของประชากรทั้งประเทศ เพื่อรับคืนเงินภาษีและเงินสวัสดิการภาครัฐ   ลงทะเบียนด้วยหมายเลขโทรศัพท์มือถือ 15.8 ล้านหมายเลข คิดเป็นร้อยละ 42 ของผู้มีทะเบียน Mobile Banking และ ลงทะเบียนด้วยหมายเลขอ้างอิงอื่นๆ เช่น หมายเลขทะเบียนนิติบุคคล หมายเลขผู้ออกใบแจ้งหนี้ และหมายเลขกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ จำนวน 150,000 หมายเลข.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร