ชุมพร 19 ก.ย.-เปิดหลักฐานเด็ดวินาทีผู้โดยสารรถทัวร์ถูกยิง ตำรวจตามยึดรถกระบะก่อเหตุขับซิ่งแข่งกัน เจอรถทัวร์คู่กรณีไม่หลีกทางให้ ตามไล่ยิงสนั่นกระสุนถูกผู้โดยสารบาดเจ็บ
ความคืบหน้า กรณีรถรถยนต์กระบะติดกรงเหล็ก (รถรั้ว) ขับแข่งแซงปาดหน้ากันไปมาบนถนนเพชรเกษม เจอรถทัวร์สองชั้นกรุงเทพฯ-หาดใหญ่-ด่านนอก ยี่ห้อสแกนเนีย สีน้ำเงิน ทะเบียน 14-1155 กรุงเทพมหานคร ของบริษัท รุ่งเรืองทัวร์ จำกัด วิ่งเลนขวาไม่หลบทางให้โมโหไล่ยิง 5 นัด กระสุนถูกผู้โดยสารบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดเมื่อเวลา 00.15 น. วันที่ 19 ก.ย.61 ที่ผ่านมานั้น
ตำรวจ สภ.ท่าแซะเจ้าของคดี นายสัมฤทธิ์ ศรีเดชะ ขนส่งจังหวัดชุมพร ไปเยี่ยมและสอบปากคำเพิ่มเติม นายอากร พรรณคง อายุ 34 ปี ชาวพัทลุง ผู้บาดเจ็บที่ถูกคนขับกระบะติดกรงเหล็ก ยิงที่ต้นขาซ้าย กระสุนทะลุไม่สามารถเดินได้ยังนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ เบื้องต้นอาการปลอดภัย นายอากรเล่าเหตุการณ์ระทึกช่วงเกิดขึ้นว่า ตนนั่งโดยสารอยู่บนชั้นสองของรถทัวร์ช่วงเกิดเหตุเป็นเวลาดึกแล้วตนได้ตื่นลุกเดินลงมาที่บันไดรถใกล้ประตูทางขึ้นเพื่อยืดเส้นยึดสาย และได้เห็นรถกระบะ 2 คัน ติดกรงเหล็กหรือที่เรียกกันว่า “รถรั้ว” ขับแข่งแซงปาดหน้าซ้ายขวากันไปมาจนกระทั่งช่วงหนึ่งรถกระบะได้แซงรถทัวร์ซึ่งขับอยู่เลนขวาขึ้นไปอยู่ด้านหน้ารถทัวร์ สักพักรถทัวร์ก็ขับเบี่ยงเข้าเลนซ้ายแซงรถคู่กรณีขึ้นไปอยู่เลนขวา ทำให้รถกระบะคันดังกล่าวไม่พอใจ เปิดกระจกรถและชักอาวุธปืนขึ้นมาโชว์เหมือนข่มขู่ ตนเห็นท่าไม่ดีจึงเอาโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายคลิปซึ่งเป็นจังหวะที่รถคู่กรณีขับแซงซ้ายขึ้นไปข้างหน้าแล้วกระหน่ำยิงรัวขึ้นฟ้าได้ยิงดัง 4-5 นัด แล้วนัดสุดท้ายยิงใส่ที่ข้างรถกระสุนพุ่งทะลุเข้าต้นขาซ้ายตนจนโทรศัพท์หล่นลงจากมือ
เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบภาพคลิปวิดีโอวิดีจากมือถือของนายอากรผู้บาดเจ็บส่วนใหญ่ภาพไหวสั่นและมืด แต่มีบางช่วงสามารถบันทึกรูปพรรณรถและเห็นแผ่นเลขทะเบียนท้ายอย่างชัดเจน กระทั่งและได้ยินเสียงปืนดังรัวขึ้นราว 4-5 นัด กระสุนไปถูกขาของนายอากรที่กำลังถ่ายคลิปจนโทรศัพท์หล่นลงและได้ยินเสียงพูดคุยกันระหว่างเด็กรถ คนขับ และผู้ถูกยิงอย่างชัดเจน เจ้าหน้าที่จึงขอภาพวิดีโอคลิปไว้เป็นหลักฐาน จนกระทั้งทราบว่ารถคันดังกล่าวเป็นรถกระบะโตโยต้า รีโว่ โฟวีน ตอนเดียว สีขาว ทะเบียน บย 329 ชุมพร จากการตรวจสอบทราบว่าผู้ครองครอบเป็นผู้หญิงบ้านอยู่ในตำบลชุมโค อ.ปะทิว จ.ชุมพร ต่อมาตำรวจชุดสายสืบได้ตามไปตรวจยึดได้ที่บ้านพักในพื้นที่ดังกล่าว แต่ยังไม่ทราบว่าใครเป็นคนขับโดยตรวจยึดนำมาไว้ที่ สภ.ท่าแซะ พร้อมให้ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานมาตรวจเก็บลายนิ้วมือแฝง และเขม่าดินปืน คราบเหงื่อ เส้นผมและอื่นๆ ทั้งนอกตัวรถ ภายในรถทั้งหมดเป็นหลักฐาน.-สำนักข่าวไทย