อนุสาวรีย์ชัย 18 ก.ย.-มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค แนะเลือกประกันชีวิตบริษัทที่ให้ ผลประโยชน์มากที่สุด จากการคำนวณหาค่าผลตอบแทน (IRR) ซึ่งต้องได้ดอกเบี้ยมากกว่าเงินฝากธนาคาร พร้อมศึกษาเงื่อนไขรายละเอียดก่อนซื้อประกัน
มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เปิดเผยข้อมูลเปรียบเทียบแพคเกจ “ประกันชีวิต-ประกันสุขภาพ” เจ้าไหนให้ผลประโยชน์มากกว่ากัน โดยเก็บข้อมูลจากตัวแทนบริษัทประกันชีวิต 11 แห่ง เมื่อช่วงเดือนมิถุนายน 2561 ซึ่งบริษัท 11 แห่งนี้ มีสัดส่วนครองทางการตลาดรวมสูงถึงร้อยละ 94.30 การสำรวจในครั้งนี้ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคเลือกศึกษาเฉพาะประกันชีวิตแบบออมทรัพย์ หรือสะสมทรัพย์ และประกันสุขภาพเท่านั้น
น.ส.สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า การสำรวจในครั้งนี้ ยกตัวอย่างผู้ซื้อเป็นเพศชาย อายุ 35 ปี มีความสนใจเลือกซื้อประกันชีวิต แบบสะสมทรัพย์ เอาทุนประกันชีวิต(สัญญาหลัก) จำนวน 200,000 บาท มีระยะเวลาคุ้มครองชีวิต 20-25 ปี พบว่า 3 อันดับแรก ที่ให้ผลตอบแทนจากการลงทุน หรือค่า IRR (ไอ-อาร์-อาร์) มากที่สุด คือ อาคเนย์ / เมืองไทยประกันชีวิต และไทยพาณิชย์
เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวอีกว่า ดังนั้นผู้บริโภคที่ต้องการซื้อประกัน ควรตั้งคำถามถึงผลตอบแทนที่จะได้ในแต่ละปี ผู้ซื้อควรได้ผลตอบแทนได้มากกว่าดอกเบี้ยเงินฝากกับธนาคาร ที่สำคัญผู้ซื้อควรศึกษาข้อมูลรายละเอียดของประกัน และจรรยาบรรณของตัวแทน ที่ต้องอธิบายส่วนได้-ส่วนเสีย หรือ เงื่อนไขที่ผู้บริโภคจะได้รับอย่างละเอียด
นอกจากนี้ปัญหาประกันชีวิตที่พบในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา พบมีผู้บริโภคร้องเรียนเกี่ยวกับการขายประกันผ่านทางโทรศัพท์เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผู้บริโภคสามารถปฏิเสธได้ทันที หรือ ผู้บริโภคสามารถบอกเลิกสัญญาประกันชีวิตได้ภายใน 30 วัน หลังจากได้รับกรมธรรม์ .-สำนักข่าวไทย