กรุงเทพฯ 17 ก.ย. – กรมปศุสัตว์ร่วมกับสาธารณสุขติดตามผู้อยู่ในกลุ่มเสี่ยง หลังสัมผัสและกินเนื้อวัวตายจากการติดเชื้อพิษสุนัขบ้าที่อำเภอพรหมคีรี จังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมแจ้งความเอาผิดเจ้าของวัวตาม พ.ร.บ. ควบคุมการฆ่าสัตว์หลายกระทง
นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวถึงกรณีชาวบ้านอำเภอพรหมคีรี อำเภอเมือง และอำเภอนบพิตำ จังหวัดนครศรีธรรมราชซื้อเนื้อวัวที่ตายจากโรคพิษสุนัขบ้ามาประกอบอาหาร เนื่องจากเจ้าของวัวนำมาชำแหละขาย โดยไม่เชื่อฟังคำแนะนำของทางปศุสัตว์ที่ให้ฝังกลบทำลายซาก ขณะนี้ได้ติดตามนำผู้อยู่ในกลุ่มเสี่ยงเข้ารับวัคซีนครบ124 รายแล้ว
ทั้งนี้ ได้สั่งการให้ปศุสัตว์อำเภอพรหมคีรีเข้าแจ้งความดำเนินคดีเจ้าของวัว ซึ่งชำแหละและนำเนื้อดังไปจำหน่ายแล้วในข้อหาจำหน่ายสัตว์ตายโดยมิได้ถูกฆ่าและไม่ได้ตรวจโรคโดยพนักงานตรวจโรคสัตว์ผิดตามพ.ร.บ.ควบคุมการฆ่าสัตว์ มาตรา 36 37 38 มีโทษตามมาตรา 56 60 62 กล่าวคือ จำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนี้ ยังมีโทษปรับเรียงตามรายตัวสัตว์ วัว หรือกระบือ ตัวละไม่เกิน 50,000 บาท และโทษฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงาน มีโทษจำคุก 1-2 ปี ปรับ 100,000-200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดนครศรีธรรมราชรายงานว่าระดมฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าในเขตควบคุมโรคอย่างต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 โดยได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากผู้นำท้องถิ่นตามมาตรการการเฝ้าระวังทางระบาดวิทยาเชิงรุก โดยอาสาสมัครปศุสัตว์และเครือข่ายอาสาสมัครสาธารณสุขร่วมกันค้นหาผู้ป่วยหรือสงสัยว่าป่วย รวมทั้งสัตว์ด้วย ซึ่งไม่พบทั้งคนและสัตว์ป่วยหรือสงสัยว่าป่วยเพิ่มเติม .-สำนักข่าวไทย
