เอสซีจี สเตเดียม 17 ก.ย.61- บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ขยับเข้าใกล้การคว้าแชมป์ หลังบุกมาเอาชนะ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด 3-0 ในศึกฟุตบอลไทยลีก
ฟุตบอลไทยลีก 2018 ที่สนามเอสซีจี สเตเดียม “กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 3 เปิดบ้านพบกับ “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทีมจ่าฝูง
นาทีที่ 39 บุรีรัมย์ ได้ประตูขึ้นนำจากการยิงของ กรกช วิริยะอุดมศิริ ที่แปบอลไปแฉลบ วัฒนา พลายนุ่ม เข้าประตูไป จบครึ่งแรก บุรีรัมย์ นำ 1-0
ครึ่งหลังนาทีที่ 70 ปราสาทสายฟ้า ได้ประตูหนีห่างเป็น 2-0 จากจังหวะที่ จักรพันธ์ แก้วพรหม แทงทะลุช่องให้ ออสวัลโด้ หลุดเข้าไปแปด้วยซ้ายเข้าไป
ท้ายเกมนาทีที่ 89 เมืองทองพลาดโอกาสตีไข่แตกจากจังหวะที่ แจ็คสัน โคเอลโญ ปะทะกับ พรรษา เหมวิบูลย์ ล้มลงในกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินดูวีเออาร์แล้วให้จุดโทษ แต่ เฮแบร์ตี้ เฟร์นานเดส ยิงไปติดเซฟ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน อย่างน่าเสียดาย ช่วงทดเวลการแข่งขัน บุรีรัมย์ มาได้ประตูตอกย้ำชัยชนะจากลูกโหม่งของ ยู จุน ซู จบเกมบุรีรัมย์ บุกมาถล่ม เมืองทอง 3-0 มีเพิ่มเป็น 75 คะแนน จาก 30 นัด ขยับเข้าใกล้การคว้าแชมป์ โดยเกมนัดต่อไปจะกลับไปที่เล่นที่สนามช้าง อารีน่า วันที่ 22 กันยายนนี้ หาก บุรีรัมย์ เอาชนะ โปลิศ เทโร เอฟซี จะทำให้พวกเขาคว้าแชมป์ไทยลีกสมัยที่ 6 ทันที
หลังจบเกม โบซิดาร์ บันโดวิช กุนซือบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กล่าวชื่นชมนักเตะทุกคนที่ทุ่มเทช่วยกันเล่น เกมนี้เป็นเหมือนดาร์บี้แมตช์ บุรีรัมย์ สมควรเป็นผู้ชนะ และพร้อมจะฉลองแชมป์ในบ้านในเกมต่อไป
ด้าน ราโดนวาน เคอร์ซิซ กุนซือเอสซีจี เมืองทอง กล่าวว่า ปัญหาเกมนี้คือ ทีมจบสกอร์ไม่ดีพอ พร้อมยอมรับความพ่ายแพ้ แม้สกอร์จะมากไปหน่อย และขอชื่นชมบุรีรัมย์ที่เล่นได้ดี เหมาะสมกับการเป็นแชมป์ฤดูกาลนี้
ส่วนที่สนามชลบุรี สเตเดียม “ฉลามชล” ชลบุรี เอฟซี ทีมอันดับ 9 เปิดบ้าน พบกับ “แข้งเทพ” ทรู แบ็งคอก ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 2 ที่อยู่ในเส้นทางลุ้นแชมป์เช่นกัน นาทีที่ 16 พุทธินันท์ วรรณศรี โหม่งประตูให้ทีมขึ้นนำก่อน 1-0
จากนั้นนาที 45 เอเวอร์ตัน กอนคาลเวส มาทำประตูให้ทีมแบงค็อก นำห่าง 2-0 ก่อน สรรวัชญ์ เดชมิตร จะมาทำประตูให้ทีมขึ้นนำ 3-0 ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก
แต่นาที 51 เนบิญา บายรัม มาทำประตูให้ชลบุรีไล่มา 1-3
นาที 82 แบงค็อก มาได้ประตูนำ 4-1 จาก ร็อบสัน เฟอร์นันเดส
ก่อนชลบุรี จะไล่มา 2-4 จากภานุพงศ์ พลซา นาทีที่ 90 จบเกมแบงค็อก บุกไปชนะชลบุรี เอฟซี 4-2 ทำให้ชนะ 4 เกมติดต่อกันไล่ตาม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 9 คะแนน
ด้านการลุ้นหนีตกชั้นยังสนุก “ราชันมังกร” ราชบุรี มิตรผล เอฟซี อันดับ 13 เปิดมิตรผล สเตเดียม พบ “นกใหญ่” ชัยนาท ฮอร์นบิล อันดับ 14 โดยทั้งคู่มี 35 คะแนน นาที 68 ราชบุรี ขึ้นนำ 1-0 จากเนริจูส วัลสกิส แต่ ชัยนาท ฮึดตีเสมอจาก มาร์โค บัลลินี นาทีที่ 90 อย่างไรก็ตาม ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ราชบุรี มายิงประตูชัยจากการยิงฟรีคิกของ วัลสกิส เจ้าเดิม จบเกม ราชบุรี เปิดบ้านชนะ 2-1 มี 38 คะแนน ขยับขึ้นมาที่ 11 ส่วนชัยนาทอยู่อันดับ 14 แต่ทั้งสองทีมยังต้องลุ้นหนีตกชั้นต่อไป
ขณะที่ผลคู่อื่นๆ
สุพรรณบุรี เอฟซี เสมอ อุบล ยูเอ็มที ยูไนเต็ด 2 – 2
การท่าเรือ เอฟซี ชนะ นครราชสีมา มาสด้า 4 – 0
บางกอกกล๊าส เอฟซี เสมอ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด 0 – 0
โปลิศ เทโร เอฟซี แพ้ แอร์ฟอร์ซ เซ็นทรัล 2 – 3
สุโขทัย เอฟซี ชนะ พัทยา ยูไนเต็ด 4 – 0
ราชนาวี เอฟซี เสมอ พีที ประจวบ เอฟซี 1-1
สรุปตารางคะแนน หลังเตะครบ 30 นัด
อันดับ 1.บุรีรัมย์ มี 75 คะแนน
อันดับ 2.ทรู แบงค็อกฯ มี 66 คะแนน
ส่วนโซนตกชั้น 5 ทีม ประกอบด้วย
อันดับ 14.ชัยนาท
อันดับ 15.โปลิศ เทโรฯ
อันดับ 16.ราชนาวี
อันดับ 17.อุบล ยูเอ็มที ตกชั้นแน่นอนแล้ว
อันดับ 18.แอร์ฟอร์ซ ตกชั้นแน่นอนแล้ว.-สำนักข่าวไทย