นายกฯคุยฟุ้งฐานะการเงินการคลังแข็งแกร่ง นักลงทุนมั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย.-นายกรัฐมตรีโชว์ตัวเลข ฐานะการคลังไทยแข็งแกร่ง หลังทุกภาคส่วนมีภูมิป้องกันจากวิกฤติต้มยำกุ้ง ส่งผลบาทไม่อ่อนค่า เช่นเดียวกับหลายประเทศเกิดใหม่ ประกอบกับรัฐบาลวางแผนกระจายการเติบโตทั้งระดับบน-ล่าง สร้างความเชื่อมั่นนักลงทุน จีดีพีโตต่อเนื่อง  


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน วันที่ 14 ก.ย.61 ว่า ในช่วงที่ผ่านมาหลายประเทศเกิดปัญหาทางเศรษฐกิจ ที่ส่งผลต่อค่าเงิน ราคาหุ้น และราคาสินทรัพย์ต่าง ๆ ในหลายประเทศกำลังพัฒนาที่เป็นตลาดเกิดใหม่ทั่วโลก เช่นเวเนซุเอลาเกิดปัญหาเงินเฟ้อเดือนสิงหาคมสูงขึ้นมาถึง 200,000 เปอร์เซ็นต์ และคาดว่าจะสูงขึ้นได้ถึง 1,000,000 เปอร์เซ็นต์ในสิ้นปีนี้ ต่อมาในช่วงเดือนมิถุนายน ประเทศอาร์เจนติน่าประสบปัญหาเงินทุนไหลออกและค่าเงินอ่อนลงต่อเนื่อง จนต้องปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเป็นร้อยละ 60 และต้องขอรับความช่วยเหลือจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เป็นเงินถึง 50,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และเดือนสิงหาคม ประเทศตุรกีก็ประสบปัญหาเงินไหลออก ค่าเงินอ่อนลงกว่าร้อยละ 40 เมื่อเทียบกับต้นปี เงินเฟ้อก็เพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 18 จนธนาคารกลางต้องประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นราวร้อยละ 17.8 

หลายประเทศที่ประสบปัญหา ก็เกิดจากการมีภาวะการขาดดุลแฝด โดยด้านแรกคือ การขาดดุลการคลังของรัฐบาล  เพราะรัฐบาลมีการใช้จ่ายสูงกว่ารายได้มาก มากเกินไปทำให้ต้องชดเชยโดยการกู้ยืมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมักเป็นผลจากความต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจที่สูงเกินความจำเป็น ส่งผลให้ราคาสินค้าในประเทศปรับสูงขึ้น จึงต้องประสบปัญหาเงินเฟ้อ หรือเงินเสื่อมมูลค่าในอัตราที่สูง อีกด้าน ก็คือการขาดดุลบัญชีเดินสะพัด ซึ่งหมายถึงการที่รายได้สุทธิจากการขายสินค้าและบริการกับต่างประเทศติดลบ เพราะมีมูลค่าการนำเข้าสินค้าสูงกว่าที่ขายสินค้าส่งออก ทำให้ต้องสูญเสียเงินสำรองระหว่างประเทศออกไป การขาดดุลแฝดนี้ ได้บั่นทอนความมั่นคงด้านการคลัง ส่งผลต่อขีดความสามารถของประเทศในการรองรับความเสี่ยง และลดความเชื่อมั่นของนักลงทุน ทำให้มีการนำเงินทุนออกจากประเทศเหล่านี้ และเงินตราของประเทศก็ได้อ่อนค่าลงมากในช่วงที่ผ่านมา


ปรากฏการณ์ดังกล่าวก่อให้เกิดความกังวลว่า ประเทศตลาดเกิดใหม่อื่น ๆ อาจติดโรค หรือประสบปัญหาในรูปแบบที่คล้ายกันนี้ได้ โดยเฉพาะประเทศที่มีฐานะด้านต่างประเทศไม่เข้มแข็งนัก เช่น มีเงินสำรองระหว่างประเทศต่ำหรือลดลงต่อเนื่อง รวมทั้งมีหนี้ต่างประเทศในระดับสูง ส่งผลให้มีนักลงทุนทยอยนำเงินออกนอกประเทศ ที่มีอาการเหล่านี้ เช่น บราซิล อินโดนีเซีย อินเดีย และแอฟริกาใต้ ที่ค่าเงินได้ปรับอ่อนลงอย่างรวดเร็วในช่วงที่ผ่านมา

ท่ามกลางปัญหาทางเศรษฐกิจเหล่านี้ ประเทศไทยยังไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เห็นได้จากค่าเงินที่อ่อนลงไม่มาก และราคาหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ที่ไม่ได้ปรับลดลงมากนัก ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่า ประเทศไทยได้รับบทเรียนจากปี 40 ที่ทุกภาคส่วนของประเทศ ทั้งภาครัฐ เอกชน ธนาคารพาณิชย์ ต่างตั้งอยู่บนความพอเพียง มีความพอประมาณ มีเหตุมีผล มีภูมิคุ้มกัน ส่งผลให้มีความเข้มแข็งในทุกภาคส่วน ที่สำคัญในด้านต่างประเทศ เรามีปริมาณเงินสำรองระหว่างประเทศในระดับสูง

ล่าสุด ณ สิ้นเดือนสิงหาคม เงินสำรองระหว่างประเทศของไทยอยู่ที่เกือบ 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ นับว่าอยู่ในระดับที่สูงมาก เมื่อเทียบกับหนี้ต่างประเทศของไทย มีเงินสำรองระหว่างประเทศสูงกว่าหนี้ระยะสั้น ที่เป็นเงินตราต่างประเทศถึง 3.5 เท่า ซึ่งก็หมายถึงเรามีเงินตราต่างประเทศในระดับเกินพอ หากต้องการที่จะชำระหนี้ที่เป็นเงินตราต่างประเทศในวันนี้ หนี้ต่างประเทศของรัฐบาล ก็ได้ทยอยคืนจนเหลือเพียงร้อยละ 4 ของ GDP รวมทั้งพยายามปรับโครงสร้างให้เป็นการกู้ยืมระยะยาวมากขึ้น เป็นการกู้ภายในประเทศมากขึ้น ฐานะด้านต่างประเทศที่แข็งแกร่งนี้ เป็นผลมาจากการสะสมความมั่งคั่งของประเทศ การส่งออกสินค้าและบริการที่เติบโต สร้างรายได้ที่เป็นเงินตราต่างประเทศให้กับไทยได้อย่างต่อเนื่อง ภาคเอกชนและธนาคารพาณิชย์ที่มีฐานะทางการเงินที่มั่นคง รวมถึงการดำเนินนโยบายภาครัฐอย่างระมัดระวัง มีวินัยทางการเงินการคลัง โดยจะเห็นได้ว่าสัดส่วนหนี้สาธารณะของประเทศ เมื่อเทียบกับขนาดเศรษฐกิจอยู่ที่ประมาณร้อยละ 41 ซึ่งอยู่ในกรอบที่เรากำหนดไว้ และถือเป็นระดับที่ดีกว่าหลักเกณฑ์สากล ที่กำหนดว่าสัดส่วนหนี้สาธารณะไม่ควรสูงเกินร้อยละ 60 ของขนาดเศรษฐกิจของประเทศ 


“ความแข็งแกร่งของฐานะด้านต่างประเทศ และฐานะการคลังของไทย รวมถึง อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจของประเทศ นับว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีอย่างต่อเนื่อง ทำให้เศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม มหภาค หรือ Macro ที่เข้มแข็ง ซึ่งพิสูจน์ให้เราเห็นว่าเป็นผลดี และถือว่าเป็นภูมิคุ้มกันที่ดีให้กับประเทศ จะช่วยให้นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศมีความมั่นใจ เราจึงยังไม่เห็นภาพการไหลออกของเงินทุนอย่างรวดเร็ว ในทางที่กลับกัน เราอาจจะเห็นว่ามีนักลงทุนบางส่วนเคลื่อนย้ายเงินทุนจากประเทศตลาดเกิดใหม่อื่น ๆ เข้ามาในไทยอีกด้วย” นายกรัฐมนตรี ระบุ

นายกรัฐมนตรีกล่าวด้วยว่า ขอเน้นย้ำว่า การขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศนั้นจะต้องดูแลให้ครบทุกมิติทุกระดับ ทั้งภาพเศรษฐกิจมหภาค และจุลภาคที่มีความเชื่อมโยงกัน ซึ่งในปัจจุบัน ระดับมหภาคของประเทศดีขึ้นอย่างชัดเจน อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 0.9 ในปี 2557 โดยล่าสุดมาอยู่ที่ร้อยละ 4.7 ในครึ่งแรกของปีนี้ และสิ่งที่สำคัญก็คือการกระจายการเติบโตในด้านมหภาคมาสู่จุลภาค มาสู่ประชาชน และธุรกิจรายย่อยผู้มีรายได้น้อยให้ได้อย่างทั่วถึงมากขึ้น ซึ่งรัฐบาลไม่เคยนิ่งนอนใจในการจะแสวงหาแนวทางและริเริ่มมาตรการใหม่ ๆ เพื่อนำมาดูแลในเรื่องนี้อย่างต่อเนื่องและจริงจัง เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์ร่วมกันอย่างทั่วถึงให้มากที่สุด. – สำนักข่าวไทย  

 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

ทบ. ตรวจสอบสาเหตุพลทหารเสียชีวิตที่ปราสาทตาเมือนธม

24 ส.ค. – กองทัพบกได้รับรายงานการเสียชีวิตของกำลังพลบริเวณปราสาทตาเมือนธม ปัจจุบันอยู่ระหว่างการตรวจสอบสาเหตุ พร้อมให้การช่วยเหลือเยียวยาตามสิทธิอย่างครบถ้วน กองทัพบกขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของ พลทหาร พิทยุตท์ โสดา กำลังพลสังกัด กองพันทหารราบที่ 21 หน่วยเฉพาะกิจที่ 2 ซึ่งเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2568 เวลา 18.15 น. โดยพบร่างผู้เสียชีวิตภายในห้องสุขา บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ พลทหารพิทยุตท์ โสดา อายุ 20 ปี เป็นทหารกองประจำการ รุ่นปี 1/67 จากการสมัครใจเข้ามารับราชการในโครงการพลทหารออนไลน์ ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่ง พลปืนเล็ก หมู่ปืนเล็กที่ 2 หมวดปืนเล็กที่ 1 สังกัด กองร้อยทหารราบที่ 211 กองพันทหารราบที่ 21 หน่วยเฉพาะกิจที่ 2 จากการตรวจสอบเบื้องต้น ผู้เสียชีวิตไม่มีโรคประจำตัว ไม่มีประวัติเสพยาเสพติด ไม่มีภาวะความเครียด […]

แจงปมเลขบัตรประชาชน “หลวงพ่ออลงกต” ซ้ำคนตาย

กทม. 24 ส.ค.-กรมการปกครอง แจงปม “เลขประจำตัวประชาชน” หลวงพ่ออลงกต ซ้ำกับคนตาย ส่วนการเปิดพร้อมเพย์ เลขบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ตาย ซึ่งตรงกับบัญชีกองทุนอาทรประชานาถ เป็นการดำเนินการโดยธนาคารพาณิชย์ กรณีมีรายงานว่า หลวงพ่ออลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ซึ่งมีชื่อเดิมว่า นายอลงกต พูลมุข มีชื่อซ้ำกับ นายอลงกต พลมุข ที่มีภูมิลำเนาที่ อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา และได้เสียชีวิตไปแล้วนั้น รวมทั้งวันเดือนเกิดยังตรงกัน ต่างกันเพียงปีเกิด ล่าสุดเฟซบุ๊ก กรมการปกครอง fanpage ได้โพสต์ข้อความถึงประเด็นดังกล่าว โดยระบุว่า “กรมการปกครอง ชี้แจงกรณีเลขบัตรประจำตัวประชาชนของหลวงพ่ออลงกต ตามที่ปรากฏข้อมูลจากสื่อมวลชนว่า ‘หลวงพ่ออลงกต มีเลขประจำตัวประชาชนตรงกับนายอลงกต พลมุข ซึ่งเป็นบุคคลที่เสียชีวิตแล้ว’ นั้น สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง ได้ตรวจสอบฐานข้อมูลทะเบียนราษฎรของกรมการปกครอง พบว่า พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือ หลวงพ่ออลงกต เลขประจำตัวประชาชน x-xxxx-xxx036-50-7 ชื่อจริง อลงกต พูลมุข นามสกุล พูลมุข มีสระอู เกิดปี […]

ผู้ว่าฯ สระแก้ว ขอโทษทำเข้าใจคลาดเคลื่อน ปมเอกสารสิทธิ์ที่ดินบ้านหนองจาน

สระแก้ว 24 ส.ค.-ผู้ว่าฯ สระแก้ว ขอโทษที่ทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน กรณีเอกสารสิทธิ์ที่ดินบ้านหนองจาน ยืนยันพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในราชอาณาจักรไทย ให้ประชาชนผู้มีหลักฐานยื่นคำขอออกโฉนดที่ดินได้ วันที่ 23 ส.ค.68 เพจ สวท.สระแก้ว เผยแพร่สารจากผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ชี้แจงกรณีเอกสารสิทธิ์ชาวบ้านหนองจาน อ.โคกสูง ระบุว่า ผมกราบขอโทษพี่น้องประชาชนทุกท่าน ที่ทำให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนกรณีพื้นที่บริเวณบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง ทั้งนี้ ผมขอยืนยันว่า พื้นที่บริเวณบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง อยู่ในราชอาณาจักรไทย ประชาชนผู้มีหลักฐานแบบแจ้งการครอบครองที่ดิน (ส.ค.1) ใบจอง (ส.ค.2) และหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3) บริเวณบ้านหนองจาน และบริเวณหลักเขตแดนที่ 45-49 สามารถยื่นคำขอออกโฉนดที่ดิน ต่อเจ้าหน้าที่ ณ สำนักงานที่ดินจังหวัดสระแก้ว สาขาอรัญประเทศได้ โดยเจ้าหน้าที่จะดำเนินการออกโฉนดที่ดินให้แก่ประชาชนที่มีสิทธิทุกราย ภายใต้อำนาจหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนด.-สำนักข่าวไทย

พายุ “คาจิกิ” แนวโน้มทวีกำลังแรงขึ้น เตือน 24-27 ส.ค. ฝนหนักหลายพื้นที่

กทม. 24 ส.ค.-กรมอุตุฯ ประกาศฉบับ 7 พายุ “คาจิกิ” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงขึ้น เตือน 24-27 ส.ค.68 ไทยฝนเพิ่มมากขึ้น ตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่กับมีลมแรง บริเวณอีสานตอนบน ภาคเหนือ กลาง ตะวันออก และใต้ฝั่งตะวันตก รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศฉบับที่ 7 เรื่อง พายุ “คาจิกิ” และฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย เมื่อเวลา 04.00 น. ของวันนี้ (24 ส.ค. 68) พายุโซนร้อนกำลังแรง “คาจิกิ” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 570 กิโลเมตร ทางทิศตะวันออกของเมืองดองฮอย ประเทศเวียดนาม หรือที่ละติจูด 17.5 องศาเหนือ ลองจิจูด 112.0 องศาตะวันออก ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 112 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกด้วยความเร็วประมาณ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้น […]