รัฐเดินหน้าแก้ปัญหาประมงผิดกฎหมาย

ทำเนียบฯ 12 ก.ย.- ที่ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน คณะที่ 5 เร่งเดินหน้าแก้ปัญหาประมงผิดกฎหมาย ทำข้อตกลงร่วมกับเมียนมา ส่งแรงงานมาไทย แก้ปัญหาขาดแคลนแรงงานประมง  พร้อมเดินหน้าพัฒนาบัตรแมงมุม ใช้ในการโดยสารขนส่งสาธารณะในทุกระบบ 


พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงผลการประขุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน คณะที่ 5 ครั้งที่ 8/2561 ที่มีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน  ว่า พล.อ.ประวิตรได้ย้ำถึงการทำงานในการแก้ปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย พร้อมให้กำลังใจทุกหน่วยงานที่พยายามขับเคลื่อนแก้ปัญหาเรื่องนี้มาโดยตลอด ซึ่งเชื่อว่าการทำงานที่ผ่านมาไทยมีพัฒนาการที่ดีขึ้น แต่ทั้งนี้ทุกฝ่าย โดยเฉพาะภาคการประมงต้องปรับตัวจากความเคยชินเดิม ๆ สู่กฎกติกาสากลให้เป็นที่ยอมรับต่อประชาคมโลก 

โฆษกกระทรวงกลาโหม  กล่าวว่า ความคืบหน้าในการจัดระเบียบเรือประมงขณะนี้ มีเรือประมงที่ขึ้นทะเบียนเรือที่ถูกต้องตามกฎหมาย จำนวน 10,771 ลำ จากทั้งหมดเกือบ 20,000 ลำ ที่เหลือเป็นเรือประมงที่เป็นปัญหา ทั้งเรือชำรุด เรือจมหรือเรือที่เปลี่ยนประเภทไปแล้ว นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังเร่งติดตามเรือที่ไม่ทราบสถานะ หรือเรือเถื่อนอีกประมาณ 200 ลำ และหากไม่พบจะถือว่าเป็นเรือที่สูญหายถาวร แต่หากพบเรือดังกล่าวจะถูกปรับและจำคุก เนื่องจากเป็นการสำแดงเท็จและถูกงดอนุญาตทำประมง 10 ปี 


พล.ท.คงชีพ กล่าวว่า ต้องเข้มงวดเรื่องการทำประมงผิดกฎหมาย ที่ต้องควบคุมการเข้าออกจากท่าเรือ การกำหนดตำแหน่งเรือที่หาปลาในน่านน้ำ การตรวจสอบย้อนกลับในสินค้าประมงที่จับได้ ทั้งจำนวนชนิด น้ำหนักปลา การขนถ่ายปลา ซึ่งเป็นเรื่องที่สหภาพยุโรปให้ความสำคัญ  นอกจากนี้ต้องเร่งบังคับใช้กฎหมายเพื่อดำเนินคดีทางกฎหมายให้มีความคืบหน้า ขณะนี้มีคดีอาญาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2558 ทั้งหมด 4,600 คดี คดีถึงที่สุดแล้วร้อยละ 93 ซึ่งถือว่ามีความคืบหน้าไปมาก แสดงให้เห็นถึงความเอาจริงเอาจัง

โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า สำหรับการขาดแคลนแรงงานประมง กว่า 42,000 คน กระทรวงแรงงานอนุญาตให้ต่อายุแรงงานต่างด้าวที่เคยได้รับอนุญาตให้ทำงานประมงออกไปอีก 2 ปี จากเดิมหมดอายุในวันที่ 30 กันยายน 2561 ขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานของไทยและเมียนมา บรรลุข้อตกลงร่วมกันในการจัดหาแรงงานประมงให้ไทย จะนำแรงงานชุดแรกเข้ามาในเดือนกันยายนนี้ 

ร.ท.หญิงพรชนก อ่ำพันธ์ ผู้ช่วยโฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาตลาดนัดจตุจักร ระหว่าง 3 ฝ่าย คือ การรถไฟแห่งประเทศไทย กทม. และผู้ค้าตลาดนัด โดยได้ข้อยุติว่าให้ กทม.กลับมาบริหารจัดการตลาดนัดจตุจักรดังเดิม ทั้งเริ่องของการบริหารจัดการภาพรวม การเก็บขยะ และการเก็บค่าเช่า เนื่องจากเป็นองค์กรท้องถิ่นที่มีความเชี่ยวชาญการจัดการตลาดนัด โดยการรถไฟฯ จะยังได้รับประโยชน์ค่าที่ดินจาก กทม. และยังได้พนักงานกลับไปปฏิบัติงานตามเดิม ซึ่งสามารถแก้ไขปัญหาพนักงานขาดแคลนได้. ทั้งนี้ผู้ค้าจะได้รับประโยชน์เรื่องค่าเช่าจากเดิมที่จ่ายให้การรถไฟฯ 3,157 บาท แต่ถ้า กทม.เข้ามาบริหารจัดการค่าเช่าจะลดลงเหลือ 1,800 บาท อย่างไรก็ตามพลเอกประวิตร ได้สั่งการให้ช่วยกันเจรจาตกลงว่า ค่าเช่าจะสามารถลดลงได้อีกหรือไม่ โดยให้ตกลงเท่าที่จะทำได้และทุกฝ่ายยังได้ผลประโยชน์ 


ผู้ช่วยโฆษกกระทรวงกลาโหม  กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินการบัตรแมงมุม หรือบัตรเติมเงิน การโดยสารในระบบขนส่งสาธารณะ ทั้งระบบราง รถโดยสารทั่วไป ระบบขนส่งทางเรือ  ซึ่งในอนาคต จะมีการทำให้เป็นบัตรแมงมุมรูปแบบ 4.0 บนมาตรฐาน แบบไร้สัมผัส เช่น บัตรวีซ่า มาสเตอร์การ์ดฯ  ที่จะควบรวมเป็นระบบเดียวกันทั้งหมด  ซึ่งพลเอกประวิตร ได้กำชับว่าจะต้องดำเนินการให้ใช้ได้ทั้งระบบราง เรือโดยสาร และแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ภายในธันวาคม 2561

ร.ท.หญิงพรชนก กล่าวว่า ปัจจุบันบัตรแมงมุมมีหลายรูปแบบ โดยหนึ่งในนั้น เป็นบัตรรูปแบบ 2.0 คือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ของกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง โดยประชาชนที่มีอยู่แล้ว สามารถใช้ขึ้นรถโดยสารประจำทางได้  ส่วนบัตรแมงมุม ประเภท 2.5 เป็นระบบตั๋วร่วมที่รถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยเป็นผู้ออก  ซึ่งสามารถใช้ได้กับ MRT สายสีม่วงและสายสีน้ำเงิน ที่ประชาชนใช้อยู่ในปัจจุบันนั้น จะให้ประชาชนที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ แบบ2.0 สามารถนำบัตรมาปรับปรุงข้อมูล เพื่อใช้ในระบบ MRT สายสีม่วงและสายสีน้ำเงินได้ตั้งแต่วันที่ 6 กรกฎาคม 2561- 30 กันยายน 2561 เพื่อให้ใช้ได้ในรูปแบบเดียวกัน .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ทูน” แจ้งความถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะซื้อของย่านคลองถม

สน.พลับพลาไชย1 11 มิ.ย.- “ทูน หิรัญทรัพย์” อดีตนักแสดงรุ่นใหญ่ แจ้งความ สน.พลับพลาไชย 1 ถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะเดินซื้อของย่านคลองถม อีกฝ่ายอ้างป้องกันตัว นายทูน หิรัญทรัพย์ หรือ นายสพัชญ์นนทน์ อายุ 69 ปี อดีตดารานักแสดงรุ่นใหญ่ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.พลับพลาไชย 1 กรณีถูกวัยรุ่น 2 คน รุมทำร้ายร่างกาย ได้รับบาดเจ็บ ขณะไปเดินซื้อของในซอยข้างคลองถมพลาซ่า เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ที่ผ่านมา นายทูน เล่าเหตุการณ์ว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองและครอบครัวได้ไปเดินหาซื้อไฟในย่านคลองถม ระหว่างนั้นก็มีผู้คนมาทักทายเพราะเห็นว่าตัวเองเป็นดารา แต่มีวัยรุ่นคนหนึ่งพูดจาไม่น่าฟังบอกว่าดาราอะไรเคยไม่รู้จัก จึงตักเตือนในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ ว่า จะพูดจาอะไรก็ต้องให้เกียรติคนอื่นโดยเฉพาะคนที่อาวุโสกว่า จนเกิดมีปากเสียงกัน จากนั้นวัยรุ่นดังกล่าวก็ชกเข้าที่เบ้าตาขวา ซึ่งเป็นตาข้างที่บอดอยู่ จึงไม่เห็นหมัด ก่อนจะมีตำรวจเข้ามาระงับเหตุ แต่วัยรุ่นคู่กรณีก็ยังทำท่าไม่พอใจฮึดฮัดใส่อยู่ ก่อนจะถูกควบคุมตัวไปที่ สน.พลับพลาไชย ซึ่งตัวเองก็ได้เดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีด้วยเช่นกัน นายทูน กล่าวว่า ตลอดชีวิตที่เป็นนักแสดงนั้นเคยแต่เจอผู้คนเข้ามาทักทาย ขอถ่ายรูป ด้วยความมีมิตรไมตรี […]

พายุ “หวู่ติบ” ไม่เข้าไทย แต่เสริมมรสุม ฝนเพิ่ม คลื่นแรง เตือนระวังน้ำหลาก

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย.-ไทยมีฝนตกเพิ่ม โดยพายุ​ “หวู่ติบ” จะส่งอิทธิพลให้ร่องมรสุมพาดผ่านและลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น กรมอุตุฯ เตือนประชาชนเฝ้าระวังภัยน้ำหลากและคลื่นลมแรงอย่างใกล้ชิด นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ช่วงวันที่ 12–13 มิถุนายน 2568 ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งอันดามัน ได้แก่ ระนอง พังงา จันทบุรี และตราด ซึ่งได้รับอิทธิพลจากร่องมรสุมที่พาดผ่านตอนบนของประเทศ และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรง กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศแจ้ง​เตือน​ว่า พายุโซนร้อน “หวู่ติบ” บริเวณทะเลอันดามันตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ห่างจากเกาะไหหลำของจีนไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 160 กิโลเมตร มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เคลื่อนตัวทางตะวันตกเฉียงเหนือ คาดว่า​ จะขึ้นฝั่งประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 13-14 มิ.ย.68 และจะอ่อนกำลังลงตามลำดับ แม้ศูนย์กลางพายุจะไม่เข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง แต่พายุนี้เป็นอีกปัจจัยที่เสริมให้ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้หลายพื้นที่มีฝนตกหนัก คลื่นลมในทะเลอันดามันตอนบนสูง 2–3 เมตร และในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองอาจสูงมากกว่า 3 […]

ผลแล็บพบข้าวมันไก่ติดเชื้อ ทำครู-นร.ท้องเสีย 23 คน

ปราจีนบุรี 12 มิ.ย. – แม่ค้ามือเป็นแผล! ครู-นักเรียน กินข้าวมันไก่ ท้องเสียยกชั้น หามส่ง รพ. แพทย์ชี้ชัดผลแล็บ พบเชื้อสตาฟิโลคอคคัส ออเรียส ต้นเหตุทำอาหารเป็นพิษ จากกรณีที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมือง จ.ปราจีนบุรี ต้องระดมทั้งรถตู้โรงเรียน และรถฉุกเฉิน เร่งนำตัวนักเรียนและคุณครู ส่งโรงพยาบาล จำนวน 23 คน หลังทุกคนกินข้าวมันไก่ในช่วงพักกลางวัน พอตกบ่ายก็มีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ และอาเจียน บางรายเป็นไข้หนาวสั่น คาดสาเหตุมาจากอาหารเป็นพิษ ผู้ป่วยถูกนำตัวส่งรักษาอาการที่ห้องผู้ป่วยฉุกเฉิน รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร รวม 16 คน (นักเรียน 15 คน ครู 1 คน) เบื้องต้น แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วบางส่วนเหลือคุณครูที่ต้องดูอาการเนื่องจากมีอาการช็อก ส่วนนักเรียน ยังคงต้องดูอาการอีก 9 คน ซึ่งคาดว่าแพทย์น่าจะอนุญาตให้กลับบ้านได้ภายในวันนี้ ส่วนที่ รพ.ค่ายจักรพงษ์ มีจำนวน 7 คน (เป็นนักเรียนทั้งหมด) เบื้องต้น […]

หลุดภาพ​ “ชาดา-สันติ-​นายกด๊อยซ์” สะพัดขน 6 สส. ​ซบ ​“ภท.”

กทม. 11​ มิ.ย. – “ชาดา-สันติ-นายกด๊อยซ์” ร่วมวงกินข้าว หลังสะพัดขน “6 สส.มะขามหวาน” เด็กลุงป้อม ย้ายซบ “ภูมิใจไทย” ผู้สื่อข่าวรายงานว่า​ ภายหลัง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) มีคำสั่งเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.68 แต่งตั้ง นางจิตรา หมีทอง ซึ่งเป็นทีมงานนายสันติ พร้อมพัฒน์ แกนนำ 6 สส. เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ เป็นคณะที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (นายอนุทิน ชาญวีรกูล) และ รมว.มหาดไทย ล่าสุดช่วงเย็น วันที่ 11 มิ.ย. ได้ปรากฏภาพนายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี แกนนำพรรคภูมิใจไทย ได้รับประทานอาหารเย็น ร่วมกับ นายสันติ และ นายอัครเดช ทองใจสด นายก อบจ.เพชรบูรณ์ ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง […]

ข่าวแนะนำ

สยบรอยร้าว “พีระพันธุ์” โพสต์ภาพคู่ “เอกนัฏ” ยัน รทสช.ไปต่อ

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย. – “พีระพันธุ์” โพสต์ภาพโชว์ปึก “เอกนัฏ” สยบรอยร้าว ขอบคุณร่วมอดทนต่อสู้ทุนใหญ่ ยัน รทสช.ไปต่อแน่ ป้อง “ทีมสุดซอย” ถูกใส่ร้าย เมื่อเวลา 21.00 น. วันนี้ (12 มิ.ย.68) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ โพสต์ภาพถ่ายคู่กับนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมข้อความระบุว่า “ผูกพันและเชื่อใจ การที่มีคนกล่าวหาขิงว่าจะไปขอให้มาโค่นทำลายผมจากหัวหน้าพรรค ผมได้แต่ขำ ขิงกับผม เราผ่านร้อนผ่านหนาวด้วยกันมามาก คำพูดแบบนี้จึงเป็นเรื่องขำๆ ของคนที่คิดคำแก้ตัวไม่ออก ผมกับท่านเลขาฯ ขิง เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เรารู้จักกันมานาน ตั้งแต่ขิงยังไม่เข้ามาวงการเมือง จนมาทำงานการเมืองร่วมกัน ขิงเป็นคนหนุ่มที่มุ่งมั่นทำงานการเมืองเพื่อประชาชน ไม่ใช่มาเล่นการเมือง เป็นคนซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมา เมื่อผมจะทำพรรคการเมือง คนแรกที่ผมคิดถึงจึงเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก ‘ขิง’ ผมหารือกับขิงว่าอยากชวนเขามาทำพรรคการเมืองตามแนวทางที่เราอยากทำอยากให้เป็น คือเป็นพรรคการเมืองที่ทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองและประชาชน เข้ามาแก้ไขปัญหาทุกอย่างเพื่อประชาชน ไม่ใช่เพื่อจะมีสถานะหรือมีตำแหน่งทางการเมือง […]

จับตานายกฯ ถกหัวหน้าพรรคร่วมบางพรรค ปรับ ครม.

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย. – จับตา “นายกฯ แพทองธาร” ถกหัวหน้าพรรคร่วมบางพรรค ปรับ ครม. หลังเลื่อนประชุม ครม.สัญจร จ.พิษณุโลก 23-24 มิ.ย.นี้ คาดรอ ครม.ใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันพรุ่งนี้ (13 มิ.ย.) ที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แจ้งลาราชการในเวลา 11.30-13.00 น. หลังจบภารกิจเป็นประธานในพิธีปิดการประชุมเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ทั่วโลก ประจำปี 2568 และมีรายงานว่านายกฯ มีภารกิจร่วมประชุมผู้ปกครอง จากนั้นจะกลับมาปฏิบัติงานที่ทำเนียบรัฐบาลในช่วงบ่าย ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายกฯ จะเชิญหัวหน้าพรรคร่วมบางพรรค หารือถึงการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ท่ามกลางกระแสข่าวการต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรีระหว่างพรรคเพื่อไทยและภูมิใจไทย และปัญหาภายในของพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้เกิดความชัดเจน นอกจากนั้นยังมีรายงานว่า สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ได้แจ้งเลื่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร ) ระหว่างวันที่ 23-24 มิ.ย.นี้ ที่ จ.พิษณุโลก ออกไปก่อน […]

เสียงจากช่องบก รอวันสันติภาพ

อุบลราชธานี 12 มิ.ย. – ผ่านมาแล้ว 15 วัน นับตั้งแต่เหตุการณ์ปะทะที่ช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี พื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังคงตึงเครียด แต่ชาวบ้านในพื้นที่ต่างตั้งความหวังว่าการประชุม JBC วันที่ 14 มิ.ย.นี้ จะหาทางออกได้โดยสันติ เพื่อให้ประชาชนทั้งสองประเทศได้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ.-สำนักข่าวไทย

แอร์อินเดียพร้อมผู้โดยสาร 242 คน ตกที่สนามบินอาห์เมดาบัด

นิวเดลี 12 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์ อินเดีย ที่กำลังมุ่งหน้าไปยังกรุงลอนดอน ของอังกฤษ พร้อมด้วยผู้โดยสาร 242 คน เกิดอุบัติเหตุตก หลังจากที่เพิ่งออกเดินทางจากสนามบินเมืองอาห์เมดาบัด ทางตะวันตกของอินเดีย เพียงไม่กี่นาที แอร์อินเดีย กล่าวว่า เครื่องบินลำดังกล่าวมีกำหนดเดินทางไปยังสนามบินแก็ตวิก ในอังกฤษ ขณะที่ตำรวจกล่าวว่า เครื่องบินตกในบริเวณพื้นที่พลเรือนใกล้กับสนามบิน ไฟลท์เรดาร์ 24 ซึ่งติดตามความเคลื่อนไหวทางอากาศ กล่าวว่า เครื่องบินลำนี้เป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลเนอร์ ซึ่งเป็นเครื่องบินโดยสารที่ทันสมัยมาก ๆ ที่ให้บริการอยู่ในขณะนี้ โทรทัศน์ของอินเดีย รายงานว่า อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นในขณะที่เครื่องบินกำลังทะยานขึ้นจากสนามบิน ภาพจากโทรทัศน์ช่องหนึ่ง แสดงให้เห็นภาพเครื่องบินออกจากสนามบินและบินอยู่เหนือพื้นที่ย่านพักอาศัยของประชาชน จากนั้นเครื่องบินก็หายไปจากจอ ก่อนที่จะเห็นควันไฟขนาดใหญ่ลอยจากบ้านเรือนประชาชนขึ้นไปบนท้องฟ้า นอกจากนั้น ยังมีภาพประชาชนถูกเคลื่อนย้ายด้วยเปลไปยังรถพยาบาลที่นำผู้ได้รับบาดเจ็บไปโรงพยาบาล ช้อมูลการควบคุมการจราจรทางอากาศที่สนามบินอาห์เมดาบัด ระบุว่า เครื่องบินออกเดินทางเมื่อเวลา 13.39 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกับ 15.09 น. ตามเวลาในประเทศไทย จากทางวิ่งหมายเลข 23 เครื่องบินส่งสัญญาณฉุกเฉินขอความช่วยเหลือ แต่หลังจากนั้นก็ติดต่อนักบินไม่ได้อีกเลย.-813.-สำนักข่าวไทย