สธ.12 ก.ย.-สธ.พบคนไทยจำนวนมากมีพฤติกรรมเนือยนิ่ง ส่งผลน้ำหนักเกิน โรคอ้วน ที่สัมพันธ์ต่อการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ทั้งหัวใจหลอดเลือด เบาหวาน มะเร็งบางชนิด ที่คนไทยมีอัตราการเสียชีวิตสูงถึงร้อยละ 71 จับมือภาคีส่งเสริมคนไทยทุกวัย เพิ่มกิจกรรมทางกายในชีวิตประจำวัน
นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า แม้คนส่วนหนึ่งในสังคมไทยจะมีเทรนด์ในการออกกำลังกายแต่ยังพบคนไทยมีอัตราเสียชีวิตจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรังถึงร้อยละ 71 ด้วยสาเหตุการมีกิจกรรมทางกายที่ไม่เพียงพอถึง1ใน 3 ของคนไทยทั้งประเทศ โดยมีตัวเลขที่น่าตกใจพบว่า คนไทยโดยเฉลี่ยมีพฤติกรรมเนือยนิ่ง ที่ไม่รวมถึงการนอนสูงถึง 14 ชั่วโมงต่อวัน เช่น การนั่งเล่นโทรศัพท์มือถือ การใช้คอมพิวเตอร์ การนั่งคุยกับเพื่อนหรือนั่งนอนดูโทรทัศน์และมีแนวโน้มจะเพิ่มมากขึ้นส่งผลให้มีน้ำหนักเกินและโรคอ้วน ซึ่งมีความสัมพันธ์ชัดเจนต่อการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจหลอดเลือด โรคเบาหวาน โรคมะเร็งบางชนิด ดังนั้น หากส่งเสริมให้มีกิจกรรมทางกายอย่างจริงจังจะช่วยลดความสูญเสียจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรังได้ถึง 11,129 รายต่อปี และลดต้นทุนค่ารักษาพยาบาลได้ถึง 5,977ล้านบาท
สำหรับแผนการส่งเสริมกิจกรรมทางกาย พ.ศ.2561-2573 มี3ยุทธศาสตร์
1. การส่งเสริมกิจกรรมทางกายของประชาชนทุกกลุ่มวัย 2. การส่งเสริมสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการมีกิจกรรมทางกาย ครอบคลุม สถานที่ทำงานสถานบริการสุขภาพชุมชน 3.พัฒนาระบบสนับสนุนการส่งเสริมกิจกรรมทางกาย เช่น สร้างองค์ความรู้การวิจัย โดยกิจกรรมทางกายคือการขยับเคลื่อนไหวร่างกายทั้งหมดในชีวิตประจำวันที่ทำให้เกิดการเผาผลาญพลังงานโดยกล้ามเนื้อไม่ว่าจะเป็นการทำงานการเดินทาง กิจกรรมนันทนาการการยืนเดิน ทำงานบ้านเดินเร็วปั่นจักรยาน วิ่ง
ทั้งนี้ การเคลื่อนไหวร่างกายควรทำทุก 1 ชั่วโมงส่วนเด็กเล็กควรจำกัดการใช้คอมพิวเตอร์นั่งดูทีวีหรือเล่นโทรศัพท์ มือถือ
ด้านนายสุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ กล่าวว่า เยาวชนเป็นกลุ่มที่ควรเฝ้าจับตาเพราะมีกิจกรรมทางกายน้อยที่สุด มีเยาวชนที่มีกิจกรรมอย่างน้อย60 นาทีต่อวันเพียงร้อยละ 27 เท่านั้น ขณะที่วัยผู้ใหญ่มีกิจกรรมทางกายเพียงพออยู่ที่ ร้อยละ 71 และผู้สูงอายุอยู่ที่ร้อยละ 70สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้ประสานกระทรวงศึกษาธิการจัด ส่งเสริมกิจกรรมทางกายในชั่วโมงลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้ ส่งเสริมสิ่งแวดล้อมที่ เอื้อต่อการเดิน-ขี่จักรยานมาโรงเรียน
เช่นเดียวกับตัวแทนองค์กรปกครองท้องถิ่นที่พร้อมสนับสนุนสถานที่ออกกำลังกาย สระว่ายน้ำ และจัดกิจกรรมเป็นตัวเชื่อม ร้อยคนทุกวัยในสังคมเข้าด้วยกัน.-สำนักข่าวไทย