ทำเนียบฯ 11 ก.ย.-นายกฯ แจงแนวคิดให้อบรมพิเศษ ขรก.ท้องถิ่น และประชาชนก่อนการเลือกตั้ง เพื่อเร่งสร้างความเข้าใจขั้นตอนการเลือกตั้งในพื้นที่ ไม่มีหวังผลทางการเมือง ชี้อนาคตหากคลายล็อค อยากให้เกิดความสงบ การเมืองไม่วุ่นวาย คาดหวังคนออกมาเลือกตั้งเกินร้อยละ 90
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีมีแนวคิดที่จะให้มีหลักสูตรอบรมพิเศษข้าราชการท้องถิ่นและประชาชนก่อนการเลือกตั้ง ว่า สิ่งที่พูดในวันนั้น คือ ต้องการให้มีการสร้างการรับรู้และทำความเข้าใจกับประชาชน ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้ดำเนินการไปบ้างแล้ว แต่สิ่งสำคัญคือการสร้างความเข้าใจให้กับประชาชนในท้องถิ่น ให้รับทราบถึงการบริหารงานให้เกิดธรรมภิบาลต้องทำอย่างไร และประชาชนควรเข้าใจภาพรวมการบริหารงานของส่วนกลางและท้องถิ่น และอยากให้ทำความเข้าใจถึงมาตรการต่าง ๆ ที่ได้ดำเนินการไป โดยเฉพาะมาตรการดูแลผู้มีรายได้น้อย เช่น บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือการค้าขายทางออนไลน์ ซึ่งถือเป็นสิ่งที่สร้างการรับรู้ใหม่ทั้งหมด แม้ที่ผ่านมารัฐบาลจะพูดผ่านสื่อฯ หรือผ่านทางโซเซียลไปแล้ว แต่ยังไม่ทั่วถึง จึงจำเป็นต้องสร้างความเข้าใจ เพราะยังมีหลายคนวิพากษ์วิจารณ์ว่าประชาชนไม่รับรู้ข้อมูลในสิ่งที่รัฐบาลดำเนินการอยู่ ตนจึงนำเรื่องนี้มาทบทวนว่าควรจะเร่งสร้างความเข้าใจอย่างไร ซึ่งได้สั่งการในทุกกระทรวงให้เร่งสรุปผลการทำงานในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา เพื่อประโยชน์ในการบริหารราชการในอนาคต
“การที่ให้ท้องถิ่นสร้างความเข้าใจกับประชาชน ไม่ใช่เป็นการให้ไปสนับสนุนพรรคไหน หรือให้เลือกนักการเมืองคนใด เพราะทุกอย่าง กกต.ควบคุมดูแลอยู่ ดังนั้นอย่ามองทุกอย่างเป็นเรื่องของการเมืองทั้งหมด เพราะรัฐบาลต้องวางตัวเป็นกลาง และรัฐบาลต้องทำทุกอย่างให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นไปอย่างโปร่งใส” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ผู้นำท้องถิ่นก็ต้องมาจากการเลือกตั้ง จึงจำเป็นต้องสร้างหลักคิดในการเลือกผู้นำท้องถิ่น โดยให้มองถึงความรู้ ความสามารถ มีประสิทธิภาพในการทำงาน รวมถึงการบริหารใช้จ่ายงบประมาณที่ต้องเป็นธรรม ที่สำคัญยังต้องสร้างการรับรู้เรื่องประชาธิปไตยตามแนวทางที่ถูกต้องว่าควรเป็นอย่างไร เพราะการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นมีหลายอย่างที่เปลี่ยนแปลง ทั้งการแบ่งเขต การใช้บัตรเดียวในการเลือกตั้ง เป็นต้น จึงจำเป็นต้องเร่งสร้างความเข้าใจ เพื่อให้การเลือกตั้งครั้งนี้มีคุณภาพ ได้นักการเมืองที่ดี และส่วนตัวอยากให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิ์ให้มากกว่าทุกครั้ง หรือเกินร้อยละ 90 เพราะการเลือกตั้งเป็นหน้าที่ของทุกคน และขอยืนยันว่ารัฐบาลพยายามจัดระเบียบบ้านเมือง ด้วยการสร้างการรับรู้ที่จะร่วมมือกันใช้จ่ายงบประมาณอย่างคุ้มค่า ซึ่งสิ่งที่ดำเนินการไปทั้งหมด ไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้ใคร
“ผมยังไม่ได้ตัดสินใจสังกัดพรรคไหน และไม่อยากให้ประชาชนกังวลในเรื่องนี้ หรือฟังข้อมูลจากนักการเมืองฝ่ายเดียว ทั้งนี้สิ่งที่ผมกังวล คือ เมื่อถึงช่วงที่ คสช.คลายล็อคพรรคการเมืองให้สามารถทำกิจกรรมได้ จะเกิดความวุ่นวายหรือไม่ จึงอยากให้ประชาชนช่วยกันลดความขัดแย้ง เพราะไม่เช่นนั้นบ้านเมืองจะเกิดความเสียหาย ส่งผลต่อเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว การลงทุน สุดท้ายก็จะได้รัฐบาลเดิม ๆ เข้ามา” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ส่วนกรณีที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. ออกมาแนะให้ทุกพรรคถอดหัวโขน ร่วมมือกันสร้างกติกา แล้วไปพูดคุยกับ คสช. เพื่อร่วมทำสัญญาประชาคม ยอมรับผลการเลือกตั้ง พรรคที่ได้เสียงข้างมากต้องจัดตั้งรัฐบาล นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การที่แนะนำให้ถอดหัวโขนนั้น ให้ไปถอดหัวตัวเองก่อนดีกว่า ส่วนตัวไม่อยากทะเลาะด้วย และขอให้ลดการวิจารณ์ไปบ้าง
“เขาบอกว่าให้ถอดหัวโขน ผมว่าถอดหัวตัวเองออกไปก่อนคนที่พูด ไปขยายความให้เขาทำไม น่าเชื่อถือหรือไม่ แล้วมีส่วนร่วมในความขัดแย้งที่ผ่านมาหรือไม่ ทุกคนก็รู้ในข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ผมไม่ไปทะเลาะด้วย ให้เขาเงียบ ๆ ไปบ้าง ถอดหัวตัวเองออกไปบ้าง อยู่เฉย ๆ ดีที่สุด เตรียมสู้คดี มีเยอะแยะไป” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย