ก.เกษตรฯ เตรียมเสนอ ครม.ช่วยชาวสวนยาง

กรุงเทพฯ  10 ก.ย. –   ก.เกษตรฯ สั่ง กยท.เร่งทำรายละเอียดของบฯ จาก ครม. จ่ายเงินช่วยเหลือชาวสวนยางจากปัญหาราคาตกต่ำต่อเนื่อง


นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างให้การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เร่งจัดทำรายละเอียดแผนงานและขออนุมัติงบประมาณจากคณะรัฐมนตรี เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางเป็นเงินช่วยเหลือค่าครองชีพ ซึ่งยังเสร็จไม่ทันเสนอที่ประชุม ครม.วันพรุ่งนี้  

สำหรับแนวทางการช่วยเหลือจะให้ครัวเรือนละไม่เกิน 10  ไร่ ระยะเวลา  3 เดือน ทั้งนี้ เป็นข้อสั่งการของพล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี ที่สั่งการให้กระทรวงเกษตรฯ หามาตรการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางที่ประสบภาวะราคายางตกต่ำต่อเนื่อง โดยเกษตรกรที่จะได้รับเงินช่วยเหลือต้องเป็นเกษตรกรขึ้นทะเบียนชาวสวนยางไว้กับ กยท. ขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือว่าเงินช่วยเหลือจะเป็นจำนวนเท่าใด นโยบายไม่ได้เป็นการหาเสียงของรัฐบาล แต่ต้องการช่วยเหลือชาวสวนยาง ซึ่งไม่ใช่เป็นการจ่ายเงินแบบให้เปล่า แต่เกษตรกรต้องมาฝึกอบรมเพื่อพัฒนาอาชีพด้วย จึงจะได้รับเงินผ่านบัญชีธนาธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) 


นายกฤษฎา กล่าวเพิ่มเติมว่า สิ่งที่ทำควบคู่ คือ การยกระดับราคายางอย่างยั่งยืนด้วยการส่งเสริมให้ใช้ยางพาราในประเทศ สนับสนุนการประกอบอุตสาหกรรมแปรรูปยางเพื่อดูดซับปริมาณยางพาราออกจากตลาด ราคาจะได้ปรับตัวสูงขึ้นและจะไม่ใช้วิธีแทรกแซงราคายางด้วยการซื้อในราคานำตลาด รวมทั้งการรับจำนำยาง เนื่องจากต้องใช้งบประมาณมาก ซึ่งปัญหาที่ตามมา คือ ต้องใช้เงินเช่าสถานที่เก็บรักษา หากขายต่อไม่ได้ก็จะกลายเป็นสตอกยางค้างแล้วเป็นวัฎจักรกดดันราคาเหมือนขณะนี้

ส่วนที่มีข่าวว่ารัฐบาลเร่งขายยางค้างสตอกก่อนปี 2557 ซึ่งรัฐบาลสมัยนั้นมีนโยบายให้ซื้อมาแล้วขายไม่ออก นายกฤษฎา ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง เพราะการนำยางเก่ามาขายตอนนี้จะยิ่งทำให้ราคายางพาราในปัจจุบันซึ่งอยู่ประมาณกิโลกรัมละ 43-45 บาท ถดถอยลงไปอีก โดยราคาที่รัฐบาลตั้งเป้าหมายว่าจะยกระดับไปให้ได้ คือ ไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 60 บาท ซึ่งเป็นราคาที่เกษตรกรชาวสวนยางอยู่ได้

นายอนันต์  สุวรรณรัตน์ อธิบดีกรมการข้าว ในฐานะกรรมการบริหาร กยท. กล่าวว่า  นายกฤษฎา ได้คำนวณงบประมาณที่จะใช้ช่วยเหลือเกษตรกร แบ่งเป็น 2 แนวทาง คือ ช่วยชาวสวนยางทั้งหมดที่ขึ้นทะเบียนไว้ 1.3  ล้านคน ไม่เกิน  10 ไร่ต่อครัวเรือน หรือช่วยเฉพาะรายย่อยที่มีสวนยางไม่เกิน 5-10 ไร่ เบื้องต้นคาดว่างบประมาณที่จะจ่ายเป็นเงินช่วยค่าครองชีพเกษตรกรสวนยางที่ขึ้นทะเบียนกับ กยท. ซึ่งปลูกยางอายุ 7 ปีขึ้นไป อยู่ในช่วงกรีดและที่ผ่านมาราคายางต่ำกว่าทุนประมาณ 800,000-900,000 ราย  จะต้องของบกลางจากรัฐบาลประมาณ  3,000 ล้านบาท เมื่อได้รายละเอีดยครบถ้วนนายกฤษฎา จะนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุมัติ


ในวันนี้จะมีผู้แทนเกษตรกรชาวสวนยางพาราเข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อขอทราบแนวทางการช่วยเหลือเบื้องต้นจากปัญหาราคายางตกต่ำต่อเนื่องมาเกือบ 4 ปี นายเยี่ยม ถาวโรฤทธิ์ รักษาการผู้ว่าการ กยท. ระบุว่ากำลังเร่งจัดทำรายละเอียดเกี่ยวกับการจ่ายเงินค่าครองชีพ การพัฒนาอาชีพและการช่วยเหลือด้านอื่น ๆ เสนอต่อรัฐมนตรีเกษตรฯ ให้เร็วที่สุด 

 ด้านนายอุทัย สอนหลักทรัพย์ ประธานสภาเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางแห่งประเทศไทย(สยยท.) กล่าวถึงกรณีที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรหณ์ รมว.เกษตรฯ จะเสนอ ครม.ของบกลางมาจ่ายเป็นเงินเข้าบัญชีเกษตรกรสวนยางโดยตรงช่วยค่าครองชีพ เพื่อเยียวยาความเดือดร้อนจากราคายางตกต่ำต่อเนื่องมา 3-4 ปีแล้ว โดยกล่าวว่า รัฐบาลช่วยเหลือเฉพาะเกษตรกรชาวสวนยางที่ขึ้นทะเบียนกับ กยท. (บัตรเขียว) เพียง 1.3 ล้านรายเท่านั้น ส่วนเกษตรกรที่ทำสวนยางในที่ที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ที่ขึ้นทะเบียนใว้ซึ่งเป็นเกษตรกรรายย่อย (บัตรชมพู) ประมาณ 7 ล้านราย ซึ่งจ่ายค่าธรรมเนียมส่งออกยาง (Cess) ให้ กยท. เหมือนกันก็สมควรได้รับความช่วยเหลือด้วย

นายอุทัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ปี  2558 สมัยที่นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา เป็น รมว.เกษตรฯ และ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล เป็นรองนายกฯ เคยเสนอโครงการสร้างความเข็มแข็งให้เกษตรกรสวนยางครัวเรือนละ 1 สิทธิ์ ไม่เกิน  15 ไร่ อัตราไร่ละ  1,500  บาท แบ่งเป็นเจ้าของสวน 900 บาทและคนกรีดยางที่ขึ้นทะเบียนคนกรีดยางกับ กยท.  600 บาทต่อไร แต่เป็นการช่วยเหลือที่ไม่ยั่งยืน ซึ่งไม่กี่วันเงินก็หมด จึงเห็นว่าควรให้เกษตรกรรวมกลุ่มทำอาชีพเสริม โดยรัฐสนับสนุนเป็นเงินกู้ปลอดดอกเบี้ย ให้ความรู้ หาตลาดให้โดยเฉพาะอุตสาหกรรมแปรรูปผลิตภัณฑ์ยาง เพี่อให้ใช้ยางในอุตสาหกรรมเพิ่มปริมาณยางใช้ในประเทศมากขี้น สร้างเสถียรภาพราคายาง เกษตรกรก็มีความหวังมีอาชีพเสริมแล้ว ซึ่งในอนาคตก็ทำเป็นอาชีพที่มั่นคงพึ่งตนเอง ถ้าแจกเงิน 2-3 เดือนก็ไม่เหลือ ปีต่อไปจึงขอใหม่ อีกทั้งเกษตรกรที่ปลูกพืชอื่นก็จะขอด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เครื่องบินภูเก็ตมุ่งหน้ามอสโก ขอลงจอดฉุกเฉินที่สุวรรณภูมิ

เที่ยวบิน 777-300ER สายการบิน Aeroflot ขึ้นจากภูเก็ตไปมอสโก เตรียมลงสุวรรณภูมิ หลังบินวนกลางทะเลอันดามันหลายชั่วโมง จากปัญหาระบบลงจอดขัดข้อง

ไข้หวัดใหญ่ระบาด

ไข้หวัดใหญ่ระบาดในสหรัฐ-เสียชีวิตแล้ว 13,000 ราย

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ หรือซีดีซี รายงานว่า พบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ในฤดูกาลนี้อย่างน้อย 24 ล้านคนแล้วทั่วสหรัฐ

ตัดไฟเมียนมา

มาตรการตัดไฟเมียนมาได้ผล กลุ่มเว็บพนันปลดพนักงานแล้วกว่าร้อยคน

มาตรการตัดไฟเมียนมาได้ผล กลุ่มเว็บพนันออนไลน์และกลุ่มสแกมเมอร์ที่จังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ปลดพนักงานแล้วกว่า 100 คน เนื่องจากขาดแคลนกระแสไฟฟ้า ทำให้พนักงานทยอยเดินทางออกจากท่าขี้เหล็ก กลับมาทางด่าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย อย่างต่อเนื่อง

ข่าวแนะนำ

เข้มทางบก แก๊งลักลอบเข้าเมือง หนีไปทางน้ำ

หลังมาตรการ Seal Stop Safe ชายแดนของรัฐบาล ซึ่งเริ่มตั้งแต่ 30 มกราคม เพื่อเข้มงวด ตั้งจุดตรวจ จุดสกัดตามเส้นทางต่างๆ พบขบวนการลักลอบเข้าเมืองด้านชายแดนกาญจนบุรี ซึ่งฝั่งตรงข้ามคือ เมืองพญาตองซู ของเมียนมา เลี่ยงไปใช้เส้นทางน้ำแทน

ทองไทยใกล้เป้าหมายบาทละ 5 หมื่น

ทองไทยเข้าภาวะกระทิง เปลี่ยนแปลงคึกคักวันนี้ (11 ก.พ.) ปรับเปลี่ยน 27 รอบ เข้าใกล้ 48,000 บาทต่อบาททองคำ มองเป้าหมายถัดไปที่ 50,000 บาทต่อบาททองคำ ด้านสภาทองคำโลก ชี้การซื้อทองเป็นการลงทุนมากกว่าการใช้เป็นเครื่องประดับ ประเทศไทยก้าวขึ้นเป็นตลาดทองคำที่แข็งแกร่งในปี 67 สูงเป็นอันดับ 7 ของโลก