บอร์ดกองทุนอนุรักษ์เบรกทบทวนงบกองทุนให้โปร่งใส

กรุงเทพฯ 6 ก.ย. – คณะกรรมการกองทุนอนุรักษ์พลังงาน ยังไม่อนุมัติโครงการงบ 62 และโครงการไทยนิยมยั่งยืนขอให้พิจารณาลบครหาโปร่งใส และช่วยเหลือชาวบ้านให้ กระจายงบ เตรียมเอกสารให้ครบ โดยหากไม่พิจารณาเพิ่มเติมงบจะเหลือถึง 7,000 ล้านบาทจากงบรวมกว่า 1.5 หมื่นล้านบาท 


นายธรรมยศ ศรีช่วย ปลัดกระทรวงพลังงาน และประธานคณะทำงานพิจารณากลั่นกรองโครงการที่ขอรับการสนับสนุนจากกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะกรรมการกองทุนฯซึ่งมี พล.อ.ประจิน  จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในวันนี้ (6 ก.ย.) ยังไม่ได้อนุมัติเงินกองทุนฯ โดยรับทราบการกลั่นกรอง และให้คำแนะนำเพิ่มเติม  ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการชี้แจงข้อสงสัยของสังคมกรณีมีการตั้งข้อสังเกตความโปร่งใสของการพิจารณาการให้เสนอแนะผู้เสนอโครงการเพื่อให้มีความสมบูรณ์และกระจายโอกาสให้เกิดขึ้นกับพื้นที่ต่างๆ มากขึ้น เช่น การขาดเอกสารประกอบรับรองเรื่องบ่อน้ำบาดาลจากกรมทรัพยากรธรณีวิทยา เพื่อให้คำขอสมบูรณ์ โดยให้นำเสนอคณะกรรมการอนุมัติอีกครั้งภายในเดือนกันยายนหรือต้นเดือนตุลาคมนี้


ทั้งนี้ ที่ประชุมได้พิจารณารับทราบหลักการการจัดทำคำของบประมาณจากกองทุนฯประจำปี2561 (เพิ่มเติม) สนับสนุนกลุ่มโครงการไทยนิยมยั่งยืน ในวงเงิน 5,200 ล้านบาท โดยคณะกรรมการกลั่นกรองเห็นชอบ 1,640 ล้านบาท และส่วนงบประมาณกองทุนประจำปี 2562 ในวงเงิน 10,448 ล้านบาท คณะกรรมการกลั่นกรองเห็นชอบ 7,000 ล้านบาท จำนวน 380 โครงการ จากที่มีผู้เสนอโครงการรวมกว่า 33,341 ล้านบาท 995 โครงการ ซึ่งหากรวมงบที่ผ่านกลั่นกรองและหากไม่มีการพิจารณาเพิ่มเติมของ 2 โครงการแล้ว งบส่วนนี้จะเหลือประมาณเกือบ 7 พันล้านบาท 

ส่วนเรื่องการตรวจสอบจากคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการบริหารและการใช้เงินกองทุนอนุรักษ์พลังงาน ที่มี นางเปรมฤทัย สินัยแพทย์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานนั้น ที่ประชุมขอให้ให้ตรวจสอบข้อเท็จและกระทรวงฯจะสรุปผลในวันที่ 21 ก.ย.นี้ 

คณะกรรมการรับทราบ การดำเนินงานของคณะทำงานกลั่นกรองข้อเสนอโครงการที่ขอรับเงินสนับสนุนจากกองทุนอนุรักษ์พลังงานในส่วนของปีงบประมาณ 2561 (เพิ่มเติม)ภายใต้โครงการไทยนิยม ยั่งยืน วงเงิน 5,200 ล้านบาท ประกอบด้วย 3 โครงการ  1. โครงการติดตั้งระบบสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อการเกษตร เป้าหมาย 5,000 ระบบ จำนวนผู้ยื่นข้อเสนอ 2,630 ระบบ วงเงินที่ขอรับการสนับสนุน 2,090 ล้านบาท  


2. โครงการติดตั้งระบบไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์สำหรับโรงเรียนชนบท เป้าหมาย 350 ระบบ จำนวนผู้ยื่นข้อเสนอ 653 ระบบ วงเงินที่ขอรับการสนับสนุน 4,626 ล้านบาท  3. โครงการติดตั้งระบบไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์สำหรับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) เป้าหมาย 170 ระบบ จำนวนผู้ยื่นข้อเสนอ 319 ระบบ วงเงินที่ขอรับการสนับสนุน 1,310 ล้านบาท . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง