สุราษฎร์ธานี 16 ก.ย.- ตำรวจ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ตั้งรางวัล 10,000 บาท นำจับ 2 คนร้ายรุมแทงช่างผสมสีในปั้มน้ำมันใกล้สี่แยกบางใหญ่ เขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี
จากกรณีผู้ที่ใช้ชื่อ เสือ กิตติภัทร ได้โพสต์คลิป นายทนงเดช ฉิมวารี หรือหรั่ง อายุ 32 ปี หนุ่มช่างผสมสีประจำอู่ชื่อดังเมืองสุราษฎร์ธานี ซึ่งญาติผู้น้องถูกวัยรุ่น จำนวน 2 คน ขับรถจักยานยนต์ตามมารุมแทงได้รับบาดเจ็บสาหัสถึง 6 แผล แพทย์ต้องเย็บบาดแผลถึง 34 เข็ม โดยเหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 18.00 น. วันที่ 4ก.ย.59 ภายในปั้ม ปตท.ใกล้สี่แยกบางใหญ่ เขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี แต่คดียังไม่คืบจึงได้นำคลิปมาลงในเฟสบุ๊ก (สุราษฎร์ธานีประชาชนเมืองคนดี) เมื่อวันที่ 12 ก.ย.59
ล่าสุด เสือ กิตติภัทร ได้โพสต์คลิปอีกครั้งพร้อมข้อความว่า ตนเองได้รับผลกระทบ และโพสต์ลงเฟสอีกครั้งมาตอนนี้เรื่องจะย้อนเข้าตัวผมแล้วคับ เพราะ 2 วัยรุ่นในคลิปกำลังตามหาคนโพสต์คลิปนี้อยู่ สรุปวัยรุ่น 2 คนนี้ เป็นใครกันแน่ถึงไม่เกรงกลัวกฎหมาย กล้าทำความผิดต่อหน้าสาธารณะ ชนโชว์กล้องหน้าเซเว่นขนาดนี้ ช่วยเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยตามจับให้ได้โดยเร็ว
เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ (16 ก.ย.59) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่เพื่อสอบถาม นายทนงเดช ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่ามีความเป็นมาอย่างไร ซึ่งนายทนงเดช เปิดเผยว่าในวันเวลาดังกล่าว ตนเองขับรถจักรยานยนต์ออกมาจากภูธร 8 มุ่งหน้าผ่านสี่แยกตาปานมาทางสี่แยกบางใหญ่ขณะขับมาถึงโค้งสนามหญ้าตนเองได้ขับรถแซงรถจักยานยนต์คู่กรณีขึ้นมาตามปกติ เมื่อมาถึงสี่แยกบางใหญ่ก็ติดไฟแดงและไม่เห็นรถคู่กรณี เมื่อไฟเขียวตนเองได้ขับรถเข้าปั้มเพื่อรับแฟนที่รออยู่ หลังจากจอดรถคู่กรณีก็ขับรถตามเข้ามาแล้วถามตนเองว่าขับรถปาดหน้าเขา แล้วทั้งคู่ก็ชักมีดแทงตนเองจนได้รับบาดเจ็บตามภาพกล้องวงจรปิดที่บันทึกไว้ได้
นายทนงเดช ยืนยันว่าตนเองไม่เคยรู้จักกับคู่กรณีมาก่อนและไม่เคยมีเรื่องกัน ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นการเข้าใจผิดว่าตนเองขับรถปาดหน้าหาเรื่อง พร้อมระบุว่าขณะคดียังไม่มีความคืบหน้าเจ้าหน้าที่ยังจับคนร้ายไม่ได้ ตนเองก็มีความเป็นอยู่อย่างไม่ปลอดภัย จะไปทำงานก็ไม่กล้าไป จะขับรถออกไปไหนมาไหนก็ต้องคอยระวัง ส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจและความเป็นอยู่ ญาติผู้พี่ที่นำคลิบไปลงเฟสบุ๊กก็ถูกคุกคาม จึงวอนเจ้าหน้าเร่งติดตามผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีโดยเร็ว
ด้าน พ.ต.ท.โชติ เพชรหนองชุม รักษาราชการแทนรองผู้กำกับการสืบสวน สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้ติดตามสืบสวนสอบคลี่คลายคดีมาตั้งแต่วันที่เกิดเหตุแล้ว โดยร่วมกับผู้เสียหายมาตั้งแต่ต้น เพื่อจะคลี่คลายให้ได้ว่าเป็นใคร จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่บันทึกไว้ได้เป็นชาย 2 คนใส่เสื้อสีชมพูกับใส่เสื้อสีเขียวสะท้อนแสง เจ้าหน้าที่ได้จัดชุดสอบสวนเป็น 2 ทีมโดยแบ่งการติดตามชายที่สวมใส่เสื้อที่มีสัญลักษณ์ของบริษัทแห่งหนึ่ง และติดตามรถจักยานยนต์ป้ายแดง ในพื้นที่ในตัวเมืองบริเวณพื้นที่ใกล้เคียง การสืบสวนก็มีความคืบหน้าไประดับหนึ่งแต่ยังไม่พบเบาะแสว่าเป็นผู้ใด แต่เชื่อว่าผู้ก่อเหตุทั้งคู่ยังอยู่ในพื้นที่ และเชื่อว่าเหตุที่เกิดขึ้นเป็นเหตุเฉพาะหน้าในการขับรถปาดหน้ากัน ไม่ใช่เรื่องความโกรธแค้นหรือเคยมีเรื่องกันมาก่อนหน้านี้ ส่วนการที่มีการข่มขู่ทางเฟสบุ๊กทางตำรวจยังไม่ได้รับแจ้งจากผู้เสียหาย
นอกจากนี้ พ.ต.ท.โชติ ระบุว่าทางผู้บังคับบัญชาได้ตั้งรางวัล 10,000 บาท ให้แก่ผู้ชี้เบาะแสว่าผู้ลงมือก่อเหตุ 2 คน เป็นใครจนไปถึงขั้นออกหมายจับ โดยทางเจ้าหน้าที่จะปกปิดผู้ให้ข้อมูลเป็นความลับสูงสุด ซึ่งตนเองยอมรับว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมันเป็นเรื่องที่เลวร้ายมากสำหรับผู้ได้รับบาดเจ็บ ทั้งที่เรื่องไม่มีความรุนแรงถึงขั้นที่จะเอาชีวิตกัน.-สำนักข่าวไทย