กรุงเทพฯ 4 ก.ย. – กกร.เตรียมปรับประมาณการเศรษฐกิจใหม่ หลังอัตราการขยายตัวครึ่งปีหลังผ่อนแรงลงจากการชะลอลงของตัวเลขการส่งออก
นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทยและประธานคณะกรรมการภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เปิดเผยหลังการประชุมว่า เดือนตุลาคม กกร.จะประเมินภาพรวมเศรษฐกิจใหม่ เนื่องจากมองว่าในช่วงครึ่งปีหลังเศรษฐกิจไทยอาจเติบโตผ่อนแรงลงจากการขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงของการส่งออก ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากการเปรียบเทียบกับฐานที่สูงในปีก่อน รวมทั้งต้องติดตามการเดินหน้านโยบายด้านการค้าของสหรัฐ ซึ่งอาจกระทบต่อสินค้าส่งออกของไทยไปสหรัฐ นอกจากนี้ ยังต้องติดตามผลกระทบจากสถานการณ์น้ำต่อผลผลิตภาคเกษตรด้วย ส่วนการท่องเที่ยวยังคาดว่าจะมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะเมื่อเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น
สำหรับประเด็นความเปราะบางของเศรษฐกิจเกิดใหม่ทั้งตุรกีและเวเนซุเอลานั้น แม้เป็นปัญหาเฉพาะตัวของแต่ละเศรษฐกิจ แต่อาจจะสร้างแรงกระเพื่อมให้เกิดความผันผวนต่อทิศทางค่าเงินบาท โดยรวมจะยังคงมีหลายปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามทั้งในและต่างประเทศ
สำหรับภาพรวมเศรษฐกิจไทยไตรมาส 2 ปี 2561 กกร.เห็นว่าเศรษฐกิจไทยยังมีอัตราการขยายตัวสูงกว่าที่คาด โดยมีแรงขับเคลื่อนหลักมาจากการส่งออก, การท่องเที่ยว, การบริโภคภาคเอกชน และการผลิตภาคเกษตรขยายตัวสูง เมื่อประกอบภาพกับไตรมาสแรก บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจไทยครึ่งปีแรกยังสามารถรักษาแรงส่งการเติบโตที่ดีได้อย่างต่อเนื่อง โดยเติบโตประมาณร้อยละ 4.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม มีการคาดการณ์ว่าไตรมาสต่อไปอาจมีการชะลอตัวจากการส่งออกและการท่องเที่ยว จากข้อมูลล่าสุดเดือนกรกฎาคมสะท้อนว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี แม้บางเครื่องชี้เริ่มชะลอลงอย่างจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ภูเก็ตเฉพาะกรุ๊ปทัวร์ แต่ผู้เดินทางท่องเที่ยวยังคงเดินทางมาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งดัชนีราคาสินค้าเกษตรที่ยังคงหดตัวมากขึ้น จึงจะมีการพิจารณาการประเมินภาพรวมเศรษฐกิจไทยด้านต่าง ๆ ใหม่เดือนหน้า ซึ่งการพิจารณาจะทำทุก ๆ ไตรมาส
สำหรับการประเมินเศรฐษกิจไทยของ กกร.เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจ (GDP) คาดว่าจะโตร้อยละ 4.3-4.8 การส่งออก คาดว่าจะโตร้อยละ 7-10 และอัตราเงินเฟ้อ คาดว่าตลอดปีนี้จะอยู่ในระดับ 0.9-1.5 ต่อปี.-สำนักข่าวไทย
