ยอดการค้าชายแดน 7 เดือนโตต่อเนื่อง

นนทบุรี 31 ส.ค. – พาณิชย์เผยการค้าชายแดนและผ่านแดน 7 เดือนแรกปี 61 มีมูลค่า 8 แสนล้านบาท ขยายตัวถึงร้อยละ 7.14 มาเลเซียยังคงนำโด่ง มั่นใจทั้งปีโตได้แน่ร้อยละ 15 


นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า มูลค่าการค้าชายแดนและผ่านแดนของไทย 7 เดือนแรกปี 2561 (ม.ค.-ก.ค.) มีมูลค่า 800,427 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.14 โดยเป็นการส่งออก 456,437 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.72 และการนำเข้า 343,990 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.03 แต่ยังเกินดุลการค้า 112,446 ล้านบาท  แยกเป็นมูลค่าการค้าชายแดน 647,097 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.69 เป็นการส่งออก 379,576 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 0.44 นำเข้า 267,521 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.93 เกินดุลการค้า 112,055 ล้านบาท และมูลค่าการค้าผ่านแดน 153,330 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 18.89 เป็นการส่งออก 76,860 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.87 นำเข้า 76,470 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 34.03 เกินดุลการค้า 391 ล้านบาท 

ทั้งนี้ ค่าเงินบาทแข็งขึ้นในช่วงต้นปี 2561 การค้าชายแดนแยกเป็นรายประเทศ พบว่าการค้ากับมาเลเซียยังคงนำเป็นอันดับหนึ่ง มูลค่า 330,006 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.07 เป็นการส่งออก 173,364 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 5.40 ตามมาด้วย สปป.ลาว มูลค่า 124,417 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.96 เป็นการส่งออก 76,267 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.90 นำเข้า 48,151 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.10 เมียนมา มูลค่า 111,860 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.38 เป็นการส่งออก 63,665 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 2.12 นำเข้ามูลค่า 48,195.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 23.15 และกัมพูชา มูลค่า 80,814.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.37 เป็นการส่งออก 66,281 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.58  นำเข้า 14,533 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 8.46


อย่างไรก็ตาม ช่วงเดือนที่ผ่านมาปัจจัยสำคัญที่กระทบต่อการค้าชายแดนและผ่านแดน ทำให้การค้าชะลอตัวลง ได้แก่ สปป.ลาวประสบปัญหาน้ำท่วมจากกรณีเขื่อนแตกในเมืองสนามไซ แขวงอัตะปือ ทำให้น้ำท่วมบ้านเรือนหลายพื้นที่ ประกอบกับปัญหาลมมรสุมมีกำลังแรง ส่งผลทำให้มีฝนตกตลอดเวลา ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำโขงและแม่น้ำสาขาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่เมียนมา สถานการณ์น้ำท่วมทางตะวันออกเฉียงเหนือยังไม่คลี่คลาย แม้ระดับน้ำท่วมเริ่มลดลงบ้างบางพื้นที่ แต่ยังมีการอพยพประชาชนไปอาศัยในศูนย์พักพิงชั่วคราว มาเลเซีย ยังคงมีปัจจัยเรื่องราคายางพาราที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเป็นช่วงที่มีฝนตกชุกในพื้นที่เพาะปลูกยาง ทำให้มีปริมาณยางออกสู่ตลาดน้อยลงและกัมพูชา โดยกระทรวงพาณิชย์ยังมั่นใจการค้าชายแดนและผ่านแดนปีนี้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ว่าเติบโตถึงร้อยละ 15 หรือมีมูลค่ากว่า 1.5 ล้านล้านบาทได้ แม้จะมีปัจจัยเสี่ยงไม่ว่าจะเป็นสงครามการค้า ความผันผวนอัตราแลกเปลี่ยนและสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่อยู่ในช่วงขาขึ้นและไม่เป็นอุปสรรคต่อการขยายการค้าชายแดนและผ่านแดนแต่อย่างใด. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง