สนามบินอู่ตะเภาพัฒนาคู่แฝดสนามบินเจิ้งโจว

กรุงเทพฯ 31 ส.ค. – อีอีซีจับมือสนามบินเจิ้งโจวของจีนพัฒนาให้เป็นสนามบินคู่แฝดกับสนามบินอู่ตะเภา ด้านนักลงทุน 300 คน สนใจเข้าร่วม Market Sounding  สนามบินอู่ตะเภา รอบที่ 2 แน่น


นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการ คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก กล่าวว่า โครงการเมืองการบินภาคตะวันออก (ท่าอากาศยานอู่ตะเภา) ล่าสุดได้ตกลงความร่วมมือที่จะพัฒนาให้เป็นท่าอากาศคู่แฝดสนามบินเมืองเจิ้งโจว มลฑลเหอหนาน ของจีน เพิ่มเติมจากที่ก่อนหน้านี้จะมีความร่วมมือจากอังกฤษ ฝรั่งเศสและญี่ปุ่น เป็นต้น สำหรับทีโออาร์โครงการท่าอากาศยานอู่ตะเภามีกำหนดออกภายในเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งจะมีโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินออกมาด้วย ซึ่งจะช่วยพัฒนาสนามบินด้วย และการพัฒนาท่าอากาศยานอู่ตะเภา ไม่เพียงพัฒนาท่าอากาศยานเท่านั้น แต่สำนักงานอีอีซี ตั้งใจพัฒนาให้เป็นเมืองการบินภาคตะวันออก ที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีได้เดินทางไปดูงานและแสวงหาความร่วมมือกับอังกฤษ ฝรั่งเศส มีการไปแสวงหาความร่วมมือที่ญี่ปุ่น 


นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวยืนยันกับภาคเอกชนที่เข้าร่วมงาน Market Sounding ครั้งที่ 2 โครงการเมืองการบินภาคตะวันออก ว่า การประมูลโครงการนี้จะสามารถได้ผู้ชนะประมูลก่อนเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า และลงนามเสร็จก่อนที่จะมีการเลือกตั้งปีหน้า เพื่อให้มั่นใจว่าโครงการนี้เริ่มต้นได้เลยโดยไม่ต้องรอรัฐบาลใหม่ รัฐบาลนี้มีความตั้งใจให้โครงการเมืองการบินที่มีการพัฒนาท่าอากาศยานอู่ตะเภาเป็น game changer หรือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องการเป็นศูนย์กลางทางการบิน และยังเชื่อมโยงถึงการเป็นศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานที่มีความสำคัญที่สุดในเอเชีย และสำนักงานอีอีซี ยังเจรจากับบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนอากาศยาน เพื่อเข้ามาลงทุนเพื่อเสริมเมืองการบินด้วย 

ขณะที่สายการบินมั่นใจได้ว่าจะมีลูกค้าใช้บริการมาก โดยลูกค้ากลุ่มนักท่องเที่ยวที่ปัจจุบันมีถึง 40 ล้านคนและในอนาคตจะเพิ่มขึ้นเป็น 50-60 ล้านคน หนึ่งในนักท่องเที่ยวเป้าหมาย คือ นักท่องเที่ยวพัทยามีประมาณ 10 ล้านคน ซึ่งในอนาคตจะเพิ่มเป็น 20 ล้านคน การสร้างเมืองใหม่ขึ้นมาในพื้นที่อีอีซี รวมถึงการเป็นศูนย์กลางของการผลิตที่สำคัญของภูมิภาคของบริษัทต่าง ๆ ตลอดจนการลงทุนโครงการ Digital Park Thailand เป็นต้น และช่วง 5 ปีข้างหน้าก่อนที่โครงการพัฒนาท่าอากาศยานอู่ตะเภาจะเสร็จรัฐบาลไทยจะส่งเสริมให้มีผู้มาใช้บริการท่าอากาศยานอู่ตะเภาเพิ่มขึ้นมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เมื่อโครงการเสร็จจะได้มีลูกค้าจำนวนมาก


พลเอกชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวขณะเป็นประธานเปิดงานสัมมนารับฟังความคิดเห็นจากภาคเอกชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (Market Sounding) ครั้งที่ 2 โครงการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการเขตส่งเสริมระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก : เมืองการบินภาคตะวันออก (ท่าอากาศยานอู่ตะเภา) โดยมีภาคเอกชน 300 คน จาก 150 บริษัทสนใจลงทุนเข้าร่วมงาน 

พลเอกชัยชาญ กล่าวว่า โครงการพัฒนาท่าอากาศยานอู่ตะเภาเป็นหนึ่งในโครงการสำคัญในอีอีซี ที่รัฐบาลเร่งผลักดันให้สำเร็จเป็นรูปธรรมด้วยความได้เปรียบทางด้านภูมิศาสตร์ ซึ่งทำเลที่ตั้งของโครงการจะช่วยผลักดันให้ภาคตะวันออกของไทยเป็นประตูสู่กลุ่มประเทศ CLMV ยกระดับให้ท่าอากาศยานอู่ตะเภาเป็นศูนย์กลางทางการบินของภูมิภาคและช่วยขับเคลื่อนโครงการลงทุนในอีอีซีให้สำเร็จ

พลเรือเอกโสภณ วัฒนมงคล ประธานคณะที่ปรึกษากองทัพเรือและประธานกรรมการบริหารโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกของกองทัพเรือ กล่าวว่า รูปแบบการให้เอกชนร่วมลงทุนพัฒนาท่าอากาศยานอู่ตะเภา คือ รูปแบบ PPP Net Cost  เอกชนได้รับสิทธิ์จัดเก็บรายได้และจัดสรรผลตอบแทนบางส่วนให้แก่ภาครัฐตามข้อตกลง โดยหน้าที่ความรับผิดชอบของเอกชน ได้แก่ ออกแบบและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับท่าอากาศยาน การลงทุนพัฒนาองค์ประกอบต่าง ๆ ของโครงการ และดำเนินการและบำรุงรักษาตลอดอายุสัญญา โดยเอกชนมีสิทธิ์ที่จะรับรายได้จากการดำเนินงานของท่าอากาศยานและองค์ประกอบอื่น ๆ ของโครงการตลอดระยะเวลาสัญญา ทั้งนี้ จากผลการศึกษาเบื้องต้นผลตอบแทนการทางการเงิน พบว่าอัตราผลตอบแทนโครงการ (IRR) ได้แก่ ร้อยละ 10.00 -12.00  อัตราผลตอบแทนของผู้ถือหุ้น ได้แก่  ร้อยละ 11.00 – 13.00 แสดงให้เห็นว่าโครงการน่าจะมีผลตอบแทนน่าสนใจต่อการลงทุนของผู้ร่วมลงทุนเอกชน

ทั้งนี้ กองทัพเรือจะรวบรวมความคิดเห็นและข้อเสนอแนะที่ได้รับจากการสัมมนาทั้ง 2 ครั้ง นำไปปรับปรุงร่างเอกสารสัญญาการร่วมลงทุน และร่างข้อกำหนดอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาโครงการ เพื่อส่งเสริมให้เกิดการแข่งขันอย่างเท่าเทียมในการคัดเลือกและเจรจากับภาคเอกชนต่อไป จากนั้นจะประกาศเชิญชวนภาคเอกชนร่วมลงทุนภายในเดือนกันยายน-ตุลาคม 2561 และให้ผู้สนใจยื่นข้อเสนอประมาณเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2562 จากนั้นจะประกาศผลการคัดเลือกประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2562.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือน “อีสาน กลาง ใต้” รับมือฝนถล่ม

6 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคใต้ รับมือฝนถล่ม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออกบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี และตราด ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ทะเลอันดามันตอนล่าง และอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 8 – 9 ก.ย. โดยพายุนี้ไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

อดีตนายกฯ โพสต์พร้อมทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน-ตรวจสอบรัฐบาล

กรุงเทพ 5 ก.ย.- “แพทองธาร” ระบุ จากวันนี้เพื่อไทยทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานรัฐบาล บอก ไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่ พร้อมขอบคุณผู้สนับสนุน จะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ตลอดระยะเวลาการทำงานของพรรคเพื่อไทย เราผ่านสถานการณ์ทุกรูปแบบ ทั้งช่วงเวลาแห่งความสุข และช่วงเวลาที่ต้องแบกรับความยากลำบากร่วมกัน แต่สิ่งที่เราไม่เคยละวาง คือความหวัง โอกาส และอนาคตที่ดีกว่าของประชาชน จากวันนี้ เราจะทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล รักษาระบบรัฐสภาให้เดินหน้าตามวิถีทางประชาธิปไตย เราไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่นี้ แต่เราจะรับผิดชอบต่อพี่น้องประชาชน ด้วยความมุ่งมั่นและจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย ขอบคุณกำลังใจและการสนับสนุนจากทุกท่าน เราทราบดีว่า การเดินทางร่วมกับพรรคเพื่อไทยจนถึงวันนี้ ต้องใช้ความเข้มแข็งและอดทนถึงเพียงไหน เราจะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน .-316 -สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกฯ

รัฐสภา 5 ก.ย.- “อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 เดินทางไปเยี่ยม นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล บิดา ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ภายหลังได้รับการโหวตจากสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ด้วยคะแนน 311 เสียง ทันทีที่ถึงโรงพยาบาล นายอนุทินได้ก้มกราบที่ตักพ่อ พร้อมสวมกอดระหว่างที่พ่อกำลังรับประทานอาหารเย็น ทั้งคู่มีสีหน้ายิ้มแย้ม สดใส ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายอนุทินจะเดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ในเวลา 20.00 น. ของวันนี้.-315 -สำนักข่าวไทย

เริ่มลงตัว! เปิดโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” แบ่งโควตาคนนอก 5 เก้าอี้

กทม.5 ก.ย.- เช็กโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” เริ่มลงตัว “ภูมิใจไทย” 12 เก้าอี้ แบ่งโควตาคนนอกอีก 5 เก้าอี้ มีชื่อ “เศรษฐพุฒิ” อดีตผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ นั่งขุนคลัง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากที่นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล​ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้รับความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี​ จากสภาผู้แทนราษฎร ความเคลื่อนไหวการจัดตั้ง “ครม.อนุทิน 1” ก็ขยับทันที​ โดยมีการจัดสรรโควตาตามจำนวนเสียงที่ประกาศจัดตั้งรัฐบาลเสียง​ข้างน้อย​ ร่วมกัน​ 146 ประกอบด้วย พรรคภูมิใจไทย​ 12 เก้าอี้ เนื่องจากมีโควตาของคนนอก ที่จะไม่นับรวม อีก 5 เก้าอี้​ ส่วนพรรคกล้าธรรม 7 เก้าอี้ แบ่งเป็น 4 รัฐมนตรีว่าการ​ และ 3 รัฐมนตรีช่วยว่าการ ขณะที่​ พรรคพลังประชารัฐ​ 4​ เก้าอี้ กลุ่มนายสุชาติ​ ชมกลิ่น​ จากพรรครวมไทยสร้างชาติ 4 […]