รร.เอราวัณ 29 ส.ค. – รองนายกรัฐมนตรีเรียกความเชื่อมั่นนักลงทุนต่างชาติ ชูไทยเป็นจุดศูนย์กลางภูมิภาค คาดกระแสเงินทุนไหลตรงเข้าไทยทั้งตลาดหุ้นและลงทุนโดยตรง มุ่งสู่เป็นตลาดหุ้นของภูมิภาค ทีมเศรษฐกิจร่วมแจงแผนการลงทุนใหญ่ พัฒนาโลจิสติกส์ออกไปยังตลาดโลก
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษในงาน Thailand Focus 2018 เรื่อง “โอกาสการลงทุน …ไม่ต้องรออนาคต” ว่า 2 ปัจจัยสำคัญที่เป็นโอกาสสำคัญของไทยในการก้าวไปสู่ศูนย์กลางของประเทศเพื่อนบ้าน คือ การเป็นที่ตั้งศูนย์กลางของกลุ่มประเทศ ACMEC อนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ซึ่งได้ประกาศยุทธศาสตร์ร่วมกันในการเชื่อมโยงอย่างไร้รอยต่อ การเชื่อมโยงยุทธศาสตร์การค้าการลงทุน การท่องเที่ยว ประชากรรวมกัน 200 ล้านคน ขนาดเศรษฐกิจขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ 6-8 ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ไทยจึงเป็นสะพานเชื่อมนโยบาย ACMEC กับยุทธศาสตร์แม่โขง ล้านช้างของจีน เพื่อส่งสินค้าผ่านไทยไปยังตลาดโลก
ขณะที่จีดีพีของไทยขยายตัวอย่างต่อเนื่อง คาดว่าทั้งปีจะสูงกว่าที่หลายสำนักคาดการณ์ไว้ เพราะรัฐบาลเร่งรัดการลงทุน การปฏิรูปหลายด้าน ท่ามกลางปัจจัยบวกอัตราเงินเฟ้อร้อยละ 1 การส่งออกคาดว่าขยายตัวมากกว่าร้อยละ 8 ทุนสำรองระหว่างประเทศ 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หนี้สาธารณะต่อจีดีพีร้อยละ 40 นับว่าเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์ในขณะนี้ รัฐบาลจึงมุ่งแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคม และเร่งรัดลงทุนผ่านโครงสร้างพื้นฐาน หวังใช้แหล่งทุนหลายรูปแบบ ทั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อระดมทุนผ่านเอกชนและงบประมาณ เพื่อดูแลหนี้สาธารณะต่อจีดีพี 40-50 ไม่ให้สูงเกินเพดานความยั่งยืน และการปรับไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัล ยอมรับว่าตลาดทุนไทยเติบโตต่อเนื่อง ปัจจุบันตลาดหลักทรัพย์ฯ มูลค่ารวม 17 ล้านล้านบาท ขณะที่จีดีพีของประเทศมีขนาด 2 ล้านล้านบาท จึงต้องการผลักดันให้ตลาดหลักทรัพย์ไทยเป็นตลาดทุนสำคัญแห่งภูมิภาค เมื่อนักลงทุนเข้ามาลงทุนผ่านโครงสร้างพื้นฐานมากขึ้นจะส่งผลต่อการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ขยับขึ้นตามไปด้วย
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า รัฐบาลเดินหน้าผลักดันการลงทุนขนาดใหญ่ที่สำคัญ เพื่อเชื่อมโยงกับประเทศในภูมิภาค ทั้งการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก (East-West Economic Corridor – EWEC) รองรับการขนส่งจากเวียดนาม -สปป.ลาว-ไทย-เมียนมา เพื่อเชื่อมต่อไปยังเมืองร่างกุ้ง ผ่านตอนเหนือของไทย , โครงการลงทุนรถไฟไทย-จีน รองรับการขนส่งสินค้าจากจีน ผ่าน สปป.ลาว ผ่านไทย และเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) รองรับการพัฒนาเมืองภาคตะวันออกให้เป็นท่าเรือขนาดใหญ่ผ่านไปยังเพื่อนบ้าน ขณะที่โครงการลงทุน Southern Economic Corridor: SEC หรือระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ เพื่อเชื่อมจากเขตอีอีซีผ่านอ่าวไทย ต่อมายังระนองออกไปยังกลุ่มประเทศ BIMTEC ฝั่งทะเลอันดามัน และรถไฟความเร็วสูง รถไฟทางคู่กระจายทั่วทุกภาค การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานหลายด้านจะสร้างควาเชื่อมมั่นต่อแผนการลงทุนระยะยาว
นายอุตตม กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อนักลงทุนเห็นแผนชัดเจน จึงเริ่มมีการเจรจาการร่วมลงทุนกับไทยหลายโครงการ ทั้งจีน ญี่ปุ่น เกาหลี และอีกหลายประเทศตะวันตก เพราะไทยกำหนดแผนลงนามสิ้นปีนี้หลายโครงการ และยังพบว่าการขอรับส่งเสริมลงทุนช่วงที่ผ่านมาร้อยละ 70 อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย
นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า รัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจมาร่วมชี้แจงข้อมูลให้กับนักลงทุนต่างชาติ ทั้งการลงทุน การปฏิรูปประเทศด้านต่าง ๆ จะสร้างความเชื่อมั่นต่อการลงทุนผ่านตลาดทุนมากขึ้น เพราะจะเกิดความเชื่อมั่นต่อการลงทุน จากนักลงทุนสถาบันต่างชาติทั่วโลกมาร่วมงานรวมทั้งหมด 161 ราย ขณะที่บริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่มาร่วมงาน 115 ราย มูลค่าตลาดรวมกัน 13.65 ล้านล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 78 ของตลาดรวม.- สำนักข่าวไทย