กาญจนบุรี 21 ส.ค.- ตำรวจคุมตัว “อดีตหลวงตา” ทำร้าย “เณรดิว” ปางตาย ฝากขังพร้อมคัดค้านประกันตัว ขณะที่แม่เณรดีใจ ลูกมีอาการดีขึ้น
ความคืบหน้ากรณีสามเณรวัฒนพล สีสวัสดิ์ หรือ เณรดิว อายุ 9 ขวบ ที่บวชจำพรรษาอยู่ที่วัดดอนขมิ้น ตำบลลูกแก อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี ถูกทำร้ายร่างกาย อาการสาหัส ขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่ห้องไอซียูศัลยกรรม ชั้น 3 ตึกสมเด็จพระญาณสังวร โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา อาการยังโคม่า เป็นตายเท่ากัน โดยหลังเกิดเหตุ อดีตหลวงตาศุภชัย หรือ นายศุภชัย บุญลักขะ อายุ 64 ปี อดีตพระลูกวัดดอนขมิ้น ยอมรับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือก่อเหตุดังกล่าว พนักงานสอบสวนจึงได้แจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัสในเบื้องต้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ นางสุกัญญา ตุ้นฮิ้น อายุ 33 ปี และนายวัฒนา สีสวัสดิ์ อายุ 36 ปี แม่และพ่อของสามเณรดิว พร้อมญาติ ก็ยังคงเฝ้าติดตามอาการของ สามเณรดิว อยู่ที่หน้าห้องไอซียูอย่างใกล้ชิด ด้วยความเป็นห่วง เพื่อรอเวลาเข้าเยี่ยม โดยนางสุกัญญา ผู้เป็นแม่ เปิดเผยว่า แพทย์ผู้รักษาแจ้งว่าล่าสุด สามเณรดิวมีอาการตอบสนองต่อยา ภาพรวมอาการดีขึ้น ตนได้แต่เฝ้ารอคอยว่าจะมีปาฏิหาริย์ แม้ความหวังว่าลูกจะรอด และกลับมาเป็นเหมือนเด็กปกตินั้นริบหรี่ก็ตาม เพียงแต่ขอแค่ให้ลูกได้มีชีวิตอยู่ต่อไปตนก็พอใจ แม้ฟื้นขึ้นมาแล้วจะต้องเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต ก็ขอแค่ให้ได้อยู่ด้วยกัน ซึ่งตนตัดสินใจถูกแล้วที่ไม่ถอดเครื่องช่วยหายใจออก ทั้งนี้ความรู้สึกเมื่อวานนี้กับวันนี้ต่างกันมาก เมื่อวานรู้สึกย่ำแย่มาก และกินอะไรไม่ลงเลย แต่วันนี้รู้สึกดีใจมาก เพราะอย่างน้อยลูกก็มีอาการดีขึ้น และตอนนี้ตนขอดูแลลูกให้เต็มที่และดีที่สุดก็พอ ส่วนเรื่องของคดีความก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่จะดำเนินการกับผู้กระทำผิด
ขณะที่ ร.ต.อ.อำนาจ จันทร์บุตร รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.ลูกแก จังหวัดกาญจนบุรี ร้อยเวรเจ้าของคดี เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้รวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว รวมถึงได้สอบปากคำ อดีตหลวงตาศุภชัย หรือ นายศุภชัย ผู้ต้องหา เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้วเช่นกัน สำนวนค่อนข้างครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว โดยวานนี้ได้นำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่วัดดอนขมิ้น และวันนี้นำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังครั้งที่ 1 ที่ศาลจังหวัดกาญจนบุรี โดยพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว ซึ่งจากพยานหลักฐานที่ปรากฏในขณะนี้ สามารถแจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหา ฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส ซึ่งต้องรอผลการวินิจฉัยของแพทย์อย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อนำมาพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมกับผู้กระทำผิดต่อไป.-สำนักข่าวไทย