ธปท.เตรียมทบทวนจีดีพีปีนี้ใหม่

กรุงเทพฯ  20 ส.ค. – ผู้ว่าฯ ธปท.เผยจีดีพีไตรมาส 2/61 โตร้อยละ 4.6 สอดคล้องประมาณการ ชี้ขึ้นดอกเบี้ยในจังหวะเวลาเหมาะสม


นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. เปิดเผยว่า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจไตรมาส 2/2561 ที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)ประกาศขยายตัวร้อยละ 4.6 สอดคล้องกับที่ ธปท.คาดการณ์ไว้ โดยในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง.เดือนกันยายนจะมีการทบทวนอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยปีนี้ใหม่อีกครั้ง หลังจากเดือนมิถุนายนการประชุม กนง.คาดการณ์ไว้ว่าจะขยายตัวร้อยละ 4.4

ผู้ว่าฯ ธปท. กล่าวว่า ในภาวะเศรษฐกิจฟื้นตัวความจำเป็นในการผ่อนคลายนโยบายการเงินเป็นพิเศษมีความจำเป็นน้อยลง ขณะเดียวกับประเทศไทยก็ไม่สามารถที่จะฝืนทิศทางดอกเบี้ยของโลกได้ หากมีจังหวะเวลาที่เหมาะสม ทาง กนง.ก็พร้อมจะพิจารณาขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งจะขึ้นอยู่หลายปัจจัย เช่น เงินเฟ้อ ความเข้มแข็งของปัจจัยทางเศรษฐกิจ เสถียรภาพของระบบการเงิน เนื่องจากการที่อัตราดอกเบี้ยต่ำเป็นเวลานานส่งผลให้เกิดการเก็งกำไรในภาคอสังหาริมทรัพย์ กลายเป็นจุดเปราะบาง อย่างไรก็ตาม การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไม่ได้หมายความว่าแนวโน้มดอกเบี้ยจะปรับทิศทางเป็นขาขึ้น เพราะ ธปท.ต้องมีกระสุนเพียงพอในการดูเเลระบบเศรษฐกิจ


ผู้ว่าฯ ธปท ยังกล่าวถึงผลกระทบจากวิกฤติค่าเงินตุรกีอ่อนค่า ว่า ผลกระทบต่อไทยมีอยู่อย่างจำกัดเนื่องจากปริมาณการทำธุรกรรมระหว่างไทยกับตุรกีมีน้อย ฐานะทางการเงิน หรือทุนสำรองระหว่างประเทศมีความเข้มแข็ง และในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาเงินบาทก็ไม่ได้ผันผวนสูง อย่างไรก็ตาม อัตราแลกเปลี่ยนยังคงมีความผันผวนต่อเนื่อง ดังนั้น ภาคเอกชนควรเตรียมรับมือ ซึ่ง ธปท.มีมาตรการส่งเสริมหลายรูปแบบ โดยเฉพาะการส่งเสริมให้มีการใช้สกุลเงินท้องถิ่นทำการค้าระหว่างกัน ซึ่งปัจจุบันมูลค่าการค้ากับประเทศในเอเชียตะวันออก เช่น จีน ญี่ปุ่น รวมถึงอาเซียนมีมากกว่าร้อยละ 50 ขณะที่การค้ากับสหรัฐมีเพียงร้อยละ 9 แต่มีการใช้เงินสกุลดอลลาร์สหรัฐในการทำธุรกรรมการค้าถึงร้อยละ 80 ซึ่งถือเป็นต้นทุนที่ไม่จำเป็นที่เอกชนต้องเเลกเงินเป็นดอลลาร์สหรัฐในการชำระค่าสินค้า ภาคเอกชนจึงควรเลือกสกุลเงินให้เหมาะสมกับคู่ค้าเเละธุรกิจ ซึ่ง ธปท. มีความร่วมมือระหว่างไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ในการใช้สกุลเงินท้องถิ่น และส่งเสริมการซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนโดยตรงระหว่างบาท-เยน และบาท – หยวน ซึ่งเชื่อว่าการใช้เงินสกุลเงินท้องถิ่นจะได้รับความนิยมมากขึ้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย