กทม.19 ก.ย.-ศาลอาญาอนุญาตให้ครอบครัวชายพิการขายขนมปังที่ถูกกลุ่มวัยรุ่น 7 คนรุมทำร้ายฟันแทงจนเสียชีวิต เป็นโจทก์ร่วมในคดี และให้โอกาสจำเลยกลับไปคิดทบทวน หลังปฏิเสธ เหตุบาดแผลที่พบทั้ง 10 แห่งล้วนเป็นจุดตายทั้งสิ้น
ครอบครัวนายสมเกียรติ ศรีจันทร์ ชายพิการขายขนมปัง ที่ถูกกลุ่มวัยรุ่นทำร้ายจนเสียชีวิตย่านโชคชัย 4 ไปศาลอาญารัชดาฯ พร้อมนายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ เพื่อรับฟังผลการพิจารณาของศาล กรณีครอบครัวยื่นขอเป็นโจกท์ร่วม รวมถึงผลตรวจพยานหลักฐานในคดี หลังศาลรับพิจารณาคดีที่นายสมเกียรติ ถูกกลุ่มวัยรุ่น 7 คน ทำร้ายจนเสียชีวิต ในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นฯ ร่วมกันบุกรุกโดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยมีอาวุธและร่วมกันพกพาอาวุธมีดไปในเมืองฯ โดยไม่มีเหตุอันควร
ศาลใช้เวลาพิจารณาหลักฐานนานกว่า 2 ชั่วโมง ก่อนอนุญาตตามคำร้องให้ครอบครัวผู้ตาย เป็นโจทย์ร่วมในคดีได้
นายอนันต์ชัย เปิดเผยว่า คดีนี้มีพยานหลักฐานจำนวนมากทั้งพยานวัตถุ เอกสาร และบุคคล ในส่วนพยานบุคคล พนักงานสอบสวนระบุในสำนวน 30 ปาก แต่มีประมาณ 7 ปาก ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือรู้เหตุการณ์ทางคดี เช่น บิดาของผู้ก่อเหตุ ซึ่งจะส่งผลให้กระบวนการพิจารณาคดีล่าช้า ใช้เวลานานเกินไป ศาลจึงพิจารณาให้ตัดพยานฝ่ายจำเลยเหลือ 18 ปาก พร้อมอนุญาตให้ผู้เสียหายเป็นโจท์กร่วม นอกจากนี้ ศาลได้อ่านคำฟ้องให้จำเลยฟัง ซึ่งทนายความจำเลยได้ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ศาลจึงให้โอกาสจำเลยกลับไปคิดทบทวนอีกครั้ง เนื่องจากบาดแผลของผู้เสียชีวิตร่วม 10 แห่งเป็นจุดตายทั้งสิ้น การต่อสู้คดีในแง่บรรดาลโทสะ ป้องกันตัว หรือทะเลาะวิวาท ยังถือว่าเป็นเจตนา โดยนัดพร้อมคู่ความวันที่ 19 ธันวาคมนี้ เวลา 13.00 น.
คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา มีกลุ่มวัยรุ่นรวม 7 คน เข้าไปหานายสมเกียรติ ที่ร้านขายขนมปังย่านโชคชัย 4 แล้วเกิดการทำร้ายร่างกายกันจนเป็นเหตุให้นายสมเกียรติเสียชีวิตเพราะถูกแทงและฟันด้วยมีด คดีนี้ศาลรับฟ้องคดี ผู้ต้องหาที่ 1-7 ฐาน ร่วมกันฆ่าผู้อื่นและพาอาวุธมีดติดตัวไปในเมืองฯ โดยไม่มีเหตุอันควร ผู้ต้องหาที่ 2, 4, 5, 6 ว่าร่วมกันบุกรุกเคหสถานโดยใช้กำลังประทุษร้าย และขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายโดยมีอาวุธ.-สำนักข่าวไทย