สืบพยานโจทย์ปากแรก”ฟันแทงชายพิการส่งขนมปัง”

สืบพยานโจทย์ปากแรก”ฟันแทงชายพิการส่งขนมปัง”

กทม.18 ก.ค.- ทนายที่เห็นเหตุการณ์กลุ่มวัยรุ่นรุมทำร้ายและใช้มีดฟันแทงชายพิการส่งขนมปังจนเสียชีวิตในท้องที่ สน.โชคชัย เบิกความต่อศาลเป็นพยานโจทย์ปากแรก


     

ศาลอาญา รัชดาฯสืบพยานโจทก์ปากแรกคดีที่อัยการและนางทองคำ ศรีจันทร์ เป็นโจทก์ร่วมยื่นฟ้องนายพีรพล ยศพงศ์อนันต์ กับพวกรวม 7 คน เป็นจำเลยที่ 1-7  ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, ร่วมกันบุกรุกโดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยมีอาวุธและร่วมกันพกพาอาวุธมีดไปในเมืองฯ โดยไม่มีเหตุอันควร สืบเนื่องจากวันที่ 1 พฤษภาคม 2559 เวลากลางวัน พวกจำเลยบุกบ้านพักสมเกียรติ ศรีจันทร์ ชายพิการ อาชีพส่งขนมปังในซอยโชคชัย 4 แยก 69 แล้วใช้อาวุธมีดแทงและฟันนายสมเกียรติ จนถึงแก่ความตาย


วันนี้(18 ก.ค.) นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความโจทก์ร่วม ขึ้นเบิกความในฐานะพยานโจทก์ปากแรก ระบุว่า วันเกิดเหตุขณะทำงานอยู่บนชั้น 2 ของสำนักงานทนายความ เจ้าหน้าที่สำนักงานฯมาแจ้งว่านายสมเกียรติ ผู้ตายกำลังถูกทำร้าย จึงลงมาและมองเห็นจำเลย 4 คนกำลัง ใช้มีดยาว 2 เล่มและก้อนอิฐทำร้ายนายสมเกียรติ ส่วนนายสมเกียรติถือมีดยาวป้องกันตัว นอกจากนี้เห็นนายพีรพล จำเลยที่ 1 บาดเจ็บที่ข้อมือขวา ส่วนนายสมเกียรติมีเลือดออกตามร่างกาย ขณะที่จำเลยที่เหลือยืนดูอยู่ในบริเวณใกล้เคียง มีหลายชายผู้ตายเข้าไปช่วยเหลือไม่ให้ถูกทำร้าย จากนั้นมีรถตำรวจมาที่เกิดเหตุ แต่กลุ่มจำเลยยังพยายามเข้าไปทำร้ายผู้ตาย ตำรวจต้องยิงปืนขึ้นฟ้าเพื่อระงับเหตุ  ตนเห็นที่คอผู้ตายมีเลือดออกและล้มลง หลังเกิดเหตุตำรวจเชิญไปให้ปากคำ ตนได้มอบหลักฐานภาพนิ่งและแผ่นซีดีบันทึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งรวบรวมจากโซเชียลมีเดียและวงจรปิด จากการประมวลเหตุการณ์ ส่วนตัวเชื่อว่าสาเหตุของการทำร้ายมาจากผู้ตายถูกกลุ่มจำเลยถากถางเรื่องความพิการ นอกจากนี้วันที่ 4 พฤษภาคม 2559 จำเลยที่ 7 ได้โพสต์ข้อความในเฟสบุ๊คลักษณะข่มขู่ตน ซึ่งได้แจ้งความไว้ที่สน.โชคชัย

ทนายจำเลยได้ซักค้านประเด็นระยะทางจากร้านผู้ตายถึงสำนักงานของพยานทำให้เห็นเหตุการณ์ได้หรือไม่ ซึ่งนายอนันตชัย ยืนยันเห็นเหตุการณ์จริง โดยระยะทางจากร้านมาถึงสำนักงานประมาณ 15 เมตร และไม่ทราบผลตรวจเลือดผู้ตายว่ามีสารเมทแอมเฟตามีน รวมถึงไม่ทราบว่ากลุ่มจำเลยโทรศัพท์หาใครหรือพูดว่าอะไรเพราะไม่อยู่ในเหตุการณ์ ที่ไม่ได้เข้าไปช่วยเหลือเนื่องจากไม่ปลอดภัยเพราะกลุ่มจำเลยมีจำนวนมากและมีอาวุธ

สำหรับวันนี้(18 ก.ค.)มีพยานโจทก์ขึ้นเบิกความรวม 4 ปาก คือนายอนันตชัย, หลานชาย,มารดาและพี่สาวของผู้ตาย 


คดีนี้ฝ่ายโจทก์ขอนำพยานเข้าเบิกความจำนวน 24 ปาก ส่วนจำเลยขอนำพยานเข้าเบิกความจำนวน 12 ปาก.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เมียติด GPS รถผัว ตามง้อถึงบ้าน ฝ่ายชายเมิน ยิงดับ

ภรรยาติด GPS รถสามี ตามง้อไม่สำเร็จ ซัดด้วยลูกโม่ตายคาใต้ถุนบ้าน คาดปมทะเลาะหึงหวง คิดจบชีวิตตัวเองตาม แต่พ่อสามียึดปืนไว้ทัน

ครูสูญเงิน 1.2 ล้านบาท มิจฉาชีพหลอกเป็นที่ดิน-จนท.ธนาคาร

ครูสาวชาวอุบลราชธานี ถูกมิจฉาชีพอ้างตัวเป็นหน่วยงานราชการ และเจ้าหน้าที่ธนาคาร ใช้เบอร์ธนาคารโทรหาจึงหลงเชื่อ สูญเงินกว่า 1.2 ล้านบาท

สุราษฎร์ฯ คลื่นลมแรง น้ำทะเลหนุนสูงท่วมบ้าน-รีสอร์ต

ฝนตกหนัก-คลื่นลมแรง น้ำทะเลหนุนสูงซัดบ้านพัก-รีสอร์ต อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี พังเสียหาย 4 หลัง เตือนเรือประมงงดออกจากฝั่ง

New threats in Los Angeles as wildfire switches direction

ไฟป่าแอลเอเปลี่ยนทิศสร้างปัญหาใหม่

ลอสแอนเจลิส 12 ม.ค.- รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐเกิดภัยคุกคามใหม่วานนี้ เมื่อไฟป่าที่โหมไหม้เผาหลายพื้นที่ทั่วเทศมณฑลลอสแอนเจลิสหรือแอลเอเคาน์ตี้ได้เปลี่ยนทิศทาง ทำให้ต้องสั่งอพยพประชาชนเพิ่มเติม และกลายเป็นปัญหาท้าทายใหม่สำหรับทีมนักดับเพลิง พื้นที่เขตแคลิฟอร์เนียใต้เผชิญไฟป่ามาตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม โดยเกิดไฟป่าพร้อมกัน 6 จุดทั่วแอลเอเคาน์ตี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 11 คน  ผู้สูญหาย 13 คน  บ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างเสียหายหรือถูกทำลายรวมแล้วกว่า 10,000 หลัง คาดว่าความเสียหายทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สินจะเพิ่มขึ้นอีก เมื่อเจ้าหน้าที่สามารถเข้าตรวจสอบพื้นที่ประสบภัยได้อย่างละเอียด ขณะนี้ยังคงมีประชาชน 153,000 คนอยู่ภายใต้คำสั่งอพยพ และอีก 166,800 คน เสี่ยงต้องอพยพเนื่องจากมีการประกาศเคอร์ฟิวในทุกพื้นที่ที่มีการอพยพประชาชนหนีไฟป่า ขณะเดียวกันเครื่องบินกองทัพอากาศของเม็กซิโกได้ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐเมื่อวานนี้ เพื่อนำทีมบุคคลากร 74 คนจากกองทัพบกและคณะกรรมาธิการป่าไม้แห่งชาติ ไปช่วยปฏิบัติการดับไฟป่าที่กำลังลุกไหม้ลามไม่หยุดทั่วเขตแคลิฟอร์เนียใต้ ภารกิจด้านมนุษยธรรมดังกล่าวครอบคลุมทั้งปฏิบัติการดับไฟป่าและปกป้องพลเรือน ขณะที่กงสุลเม็กซิโกในเมืองแอลเอประกาศไม่ปิดทำการและเสนอให้ที่พักพิงกับผู้ประสบภัยชาวเม็กซิโก ไม่ว่าจะมีสถานะเป็นผู้อพยพหรือไม่ ปัจจุบันมีชาวเม็กซิโกหรือลูกหลานชาวเม็กซิโกอาศัยอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนียคิดเป็นเกือบร้อยละ 30 ของประชากรทั้งรัฐ.-820(814).-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนืออากาศหนาว-ใต้ตอนล่างฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือมีอากาศหนาว ส่วนภาคอีสาน ภาคกลาง รวมทั้ง กทม-ปริมณฑล ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นถึงหนาว ภาคใต้ตอนล่าง มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

คนร้ายลอบวางระเบิด 2 พ่อลูก ครู ตชด. เสียชีวิต

คนร้ายลอบวางระเบิด ถนนศรีสาคร-จะแนะ จ.นราธิวาส รถกระบะของครูใหญ่โรงเรียน ตชด. และลูกชาย ขับผ่านมา พลิกคว่ำหลายตลบ ก่อนบุกมาจ่อยิงซ้ำจนเสียชีวิต เจ้าหน้าที่เชื่อกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง หวังสร้างสถานการณ์ความปั่นป่วนในพื้นที่

“ตระกูลม่วงศิริ” ยกทีมซบพรรคเพื่อไทย

“ตระกูลม่วงศิริ” ยกทีมซบพรรคเพื่อไทย ด้าน “ธีรรัตน์” ต้อนรับกลับบ้านเก่า มองเป็นเรื่องน่ายินดีช่วยทำงานให้สำเร็จ ขณะที่ สก.ปชป.-ไทยสร้างไทย มาด้วย

นายกฯ เตรียมลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ 16 ม.ค.นี้

“แพทองธาร” นายกฯ เตรียมลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ 16 ม.ค.นี้ ติดตามโครงการพัฒนาพื้นที่ พบนักเรียน ประชาชน ร่วมมหกรรมแก้หนี้, พูดคุยผู้นำศาสนา-ผู้ประกอบการประมง-เร่งโครงการก่อสร้างสะพาน, ขุดลอกคลอง, โครงการเงินกู้ซอฟต์โลน