ภูมิภาค 19 ก.ย. – สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคเหนือยังไม่คลี่คลาย ล่าสุดลำน้ำร่องช้าง จ.พะเยา หลากเข้าท่วมเขตเมืองระลอก 2 โรงเรียนอย่างน้อย 7 แห่ง ต้องปิดเรียนทันที
น้ำจากลำน้ำร่องช้าง ในพื้นที่ อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา ขณะนี้ระดับน้ำยังเพิ่มสูงขึ้น หลากเข้าท่วมสถานที่ราชการ ที่ว่าการอำเภอ ไปรษณีย์ และโรงเรียนอย่างน้อย 7 แห่ง จนต้องประกาศหยุดเรียนทันที ถนนสายพะเยา-เชียงคำ ฝั่งขาเข้าเมืองพะเยา น้ำท่วมพื้นผิวจราจร ชาวบ้านกว่า 2,000 ครัวเรือน ถูกน้ำท่วมหนักเป็นระลอกที่ 2
ฝนที่ตกหนักสะสมบนเทือกเขาเพชรบูรณ์ตลอดทั้งสัปดาห์ ทำให้น้ำป่าจำนวนมากไหลลงสู่ลุ่มน้ำชมพู แต่ไม่สามารถระบายลงสู่แม่น้ำน่านได้ เพราะระดับน้ำสูงกว่า น้ำป่ายังกัดเซาะพื้นคอนกรีตของประตูระบายน้ำ และถนนริมตลิ่งลุ่มน้ำชมพู ในพื้นที่หมู่ 1 ต.ป่ามะคาบ อ.เมืองพิจิตร ขาดออกจากกัน ชาวบ้าน 2 ตำบลของ อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก ไม่สามารถสัญจรไปมาระหว่างกันได้ นอกจากนี้ น้ำป่ายังท่วมนาข้าวที่กำลังตั้งท้องออกรวงกว่า 5,000 ไร่ ปลากว่า 100 บ่อ ที่เลี้ยงไว้หลุดหายไปกับกระแสน้ำ
ขณะที่มวลน้ำจากพิจิตรและกำแพงเพชรไหลบ่ามาถึงนครสวรรค์แล้ว ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำปิง แม่น้ำยม แม่น้ำน่าน และแม่น้ำเจ้าพระยา เช้านี้ปรับตัวสูงขึ้นเกือบ 1 เมตร ไหลบ่าเข้าท่วมนาข้าวใน ต.ท่าไม้ ต.พิกุล ต.บางเคียน และ ต.บางพระหลวง อย่างรวดเร็ว ต้นข้าวที่กำลังจะเก็บเกี่ยวได้ในสัปดาห์หน้า เสียหายนับพันไร่
ด้านผู้อำนวยการเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน จ.พิษณุโลก ระบุว่า ขณะนี้เขื่อนได้ระบายน้ำเฉลี่ย 10 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ไปช่วยเหลือเกษตรกรที่ปลูกข้าวของโครงการเขื่อนแควน้อยบำรุงแดนฯ หลังฝนตกหนักต่อเนื่อง ทำให้มีน้ำไหลเข้าเขื่อนมาก โดยเช้านี้เข้ามากถึง 35.87 ล้านลูกบาศก์เมตร
ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ แม้ไม่มีฝนแล้ว แต่เจ้าหน้าที่เทศบาลฯ ยังต้องเร่งสูบน้ำออกจากตัวเมือง ย่านธุรกิจ และส่วนราชการ โดยเฉพาะชุมชนโนนสมอ ชุมชนกุดแคน และชุมชนโนนสาทร เนื่องจากพบปัญหาน้ำเน่าเสียส่งกลิ่น ชาวบ้านกว่า 100 หลังคาเรือน เริ่มเจ็บป่วยและเป็นโรคน้ำกัดเท้า ขณะนี้เทศบาลและสาธารณสุขเฝ้าติดตามสถานการณ์และช่วยเหลือเบื้องต้นอย่างใกล้ชิด. – สำนักข่าวไทย
