ร้องประกาศสำนักนายกฯ หลักเกณฑ์แต่งตั้งตำรวจขัด รธน.

สนง.ผู้ตรวจการแผ่นดิน 16 ส.ค.- “วิทยา” ร้องผู้ตรวจการแผ่นดินพิจารณาประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องหลักเกษณฑ์การแต่งตั้งและโยกย้ายตำรวจตามหลักอาวุโส ฉบับลงวันที่ 25 ก.ค.61 ขัดรัฐธรรมนูญ  เชื่อ ถูกหมกเม็ดเข้า ครม.


นายวิทยา แก้วภราดัย   และ นายราเมศ รัตนะเชวง  อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์  ยื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ผ่านนายรักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้ตรวจสอบประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี   เรื่องหลักเกณฑ์การแต่งตั้งและโยกย้ายข้าราชการตำรวจตามหลักอาวุโส ฉบับลงวันที่ 25 กรกฎาคม 2561 ว่าเข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 258 และมาตรา 260 หรือไม่

นายวิทยา กล่าวว่า รัฐธรรมนูญทั้ง 2 มาตราดังกล่าว ได้บัญญัติกระบวนการของการปฏิรูปตำรวจว่า ให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน  1 ปี แต่ถ้าไม่แล้วเสร็จ ให้การแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจ เป็นการไปตามหลักอาวุโส  ตามหลักเกณฑ์ที่คณะรัฐมนตรีกำหนดและประกาศราชกิจจานุเบกษา   แต่เมื่อครบเวลา 1 ปี พบว่าการปฏิรูปยังไม่แล้วเสร็จ  รัฐบาลได้ออกหลักเกณฑ์การแต่งตั้งและโยกย้ายข้าราชการตำรวจตามหลักอาวุโส ฉบับลงวันที่ 25 กรกฎาคม 2561 วางหลักเกณฑ์เพิ่มเติมการพิจารณาความอาวุโสไว้เพียงว่า  หากใครดำรงตำแหน่งดังกล่าวมาแล้ว ไม่น้อยกว่า 1  ปีก็ถือว่ามีอาวุโส ที่จะได้รับการพิจารณาเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น


“ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีฉบับนี้ เหมือนฟ้าผ่ากลางกบาลตำรวจ   เป็นรองผู้บัญชาการปีเดียว ก็อาวุโสเท่ากับคนที่ครองตำแหน่งเดียวกันมาแล้ว 7 ปี  ผมเห็นว่าเรื่องนี้มีการหมกเม็ดเข้า ครม.  โดยที่นายกรัฐมนตรีอาจไม่รู้ แต่ถ้าผู้ตรวจการแผ่นดินติงไป  นายกรัฐมนตรีก็จะได้ทราบว่า ใครเป็นแอบหมกเม็ดเข้าไป” นายวิทยา กล่าว

นายวิทยา กล่าวว่า  วันนี้การปฏิรูปตำรวจเริ่มต้นช้ามาก แทบไม่เห็นผลเลย หากรัฐบาลที่มีอำนาจเข้มแข็งอย่างรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ยังไม่สามารถทำได้  รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งจะทำได้อย่างไร  คงหยุดการปฏิรูปตำรวจแน่ 

“นี่ปฏิรูปมา 1 ปียังไม่เสร็จ ก็ไม่ต้องไปหวังการปฏิรูปด้านอื่น ๆ ผมถือว่า 5  ปีที่อยู่มา เป็นการทำลายโอกาสของรัฐบาล รวมทั้ง ยังเป็นลูบหน้าอาจารย์มีชัย ที่เป็นคนร่างรัฐธรรมนูญ และเป็นประธานคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจด้วย” นายวิทยา กล่าว 


ด้าน นายรักษเกชา   กล่าวว่า จะเร่งเสนอเรื่องให้ผู้ตรวจการแผ่นดินพิจารณา และการพิจารณาคงไม่ช้า เพราะตามกฎหมายผู้ตรวจการแผ่นดินกำหนดไว้แล้วว่า ถ้าหากเห็นว่าเป็นเรื่องที่ต้องส่งศาลรัฐธรรมนูญหรือศาลปกครองวินิจฉัย ให้ดำเนินการภายใน 60 วันนับแต่ได้รับคำร้อง      .- สำนักข่าวไทย      

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เหล้าเถื่อนลาว

เสียชีวิตรายที่ 6 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว

คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพิ่มรายที่ 6 เป็นหญิงชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในไทย

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ.

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ช่วยปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังถูกร้องทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมช่วยเจ้าทุกข์ย้ายหน่วยตามร้องขอ

ไฟไหม้โรงงานพัดลม เผาวอดเสียหายกว่า 50 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุ กว่า 5 ชม. จึงควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

จับหมอดังฟอกเงิน

ออกหมายจับ “หมอดัง” พร้อมพวกรวม 9 คน “ฉ้อโกง-ฟอกเงิน”

ตำรวจออกหมายจับ “หมอดัง” พร้อมพวกรวม 9 คนข้อหา “ฉ้อโกง-ฟอกเงิน” ล่าสุดจับได้แล้ว 6 คน ส่วนอีก 3 คน อยู่ระหว่างติดตามตัว เบื้องต้นมีข้อมูลว่า “หมอดัง” หนีออกนอกประเทศตั้งแต่ ก.ย.ที่ผ่านมา

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน