กรุงเทพฯ 16 ส.ค.- นายกฯ เปิดงาน CLMVT Forum 2018 กระตุ้นการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยียุคใหม่ เพื่อก้าวไปสู่การเป็นตลาดและฐานการผลิตเดียวกันจากภูมิภาคสู่ตลาดโลก ย้ำ CLMVT ต้องพร้อมกันยกระดับศักยภาพทางเทคโนโลยีให้ได้เร็วที่สุด
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นประธานในพิธีเปิดงาน CLMVT Forum 2018 ซึ่งจัดโดยกระทรวงพาณิชย์ ภายใต้แนวคิด “ทะยานสู่อนาคตด้วยการใช้เทคโนโลยี” (CLMVT Taking-Off Through Technology) เพื่อกระชับความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจการค้าการลงทุนในกลุ่มประเทศ CLMVT อันได้แก่ กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม และไทย ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น รวมถึง สร้างเครือข่ายของผู้นำทางธุรกิจและผู้ประกอบการรุ่นใหม่
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “การทะยานสู่อนาคตของภูมิภาค CLMVT ด้วยเทคโนโลยี” ตอนหนึ่งว่า กลุ่ม CLMVT ได้รับความสนใจจากทั่วโลก ในฐานะภูมิภาคที่มีศักยภาพทางการค้าและการลงทุน CLMVT Forum จึงเป็นเวทีในการหารือทิศทางอนาคตร่วมกัน และส่งเสริมความเชื่อมโยงแบบไร้รอยต่อภายใน CLMVT ควบคู่กับความร่วมมือกับนานาประเทศ ด้วยการนำของภาคเอกชนและวิชาการเป็นหลัก เพื่อปรับตัวรองรับเศรษฐกิจยุคใหม่ไปพร้อมๆ กัน เพื่อก้าวไปสู่การเป็นตลาดและฐานการผลิตเดียวกัน ที่เชื่อมโยงห่วงโซ่มูลค่าจากภูมิภาคสู่ตลาดโลก
“โดยภาคเอกชนและวิชาการ จะมีบทบาทสำคัญมากขึ้น ในฐานะผู้สร้างนวัตกรรมและใช้นวัตกรรมในเชิงพาณิชย์ รวมถึง เป็นแกนกลางประสานภาคส่วนต่างๆ ให้เดินไปในทิศทางเดียวกัน ปัจจุบัน โลกได้เข้าสู่ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม ครั้งที่ 4 ซึ่งเป็นยุคแห่งการหลอมรวมของเทคโนโลยีหลายสาขา CLMVT จึงต้องพร้อมกันยกระดับศักยภาพทางเทคโนโลยีให้ได้เร็วที่สุด” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กระบวนการเปลี่ยนไปสู่ดิจิทัล ได้ส่งผลให้เกิดการค้ารูปแบบใหม่ มีการทำการค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น จึงต้องสร้างสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการค้าในรูปแบบใหม่ให้ได้มากที่สุด รวมถึง การสร้างระบบขนส่งโลจิสติกส์ และการชำระเงินข้ามพรมแดนแบบอิเล็กทรอนิกส์ ที่สะดวกและปลอดภัย รวมทั้ง การพัฒนาความเชื่อมโยงทางระบบดิจิทัลระหว่างประเทศ และการสร้างความเชื่อมั่นในการซื้อขายผ่านช่องทางออนไลน์ โดยภาครัฐควรปลดล็อคและปรับปรุงกฎระเบียบต่างๆ เพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อภาคธุรกิจ
“ดังนั้น ภาคธุรกิจจำเป็นต้องปรับตัว และหันมาใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีสมัยใหม่ให้มากขึ้น รวมถึง ภาครัฐก็ต้องปรับใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เช่นกัน เพื่อปรับปรุงการให้บริการแก่ประชาชนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมทั้งเพื่อรองรับธุรกิจ” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี เน้นว่า เศรษฐกิจดิจิทัลจะต้องเติบโตควบคู่ไปกับการเติบโตของเศรษฐกิจท้องถิ่น และการมีส่วนร่วมของธุรกิจหรือผู้ประกอบการขนาดเล็ก เทคโนโลยีดิจิทัลจะต้องเข้ามาสร้างโอกาสให้กลุ่มเหล่านี้ สามารถเข้าถึงโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ และยังต้องสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการหน้าใหม่ ที่มีความคิดสร้างสรรค์ และสามารถสร้างสรรค์คุณค่าใหม่ๆ ให้กับเศรษฐกิจในภูมิภาค
“ความท้าทายของ CLMVT ในบริบทของเศรษฐกิจยุคใหม่ คือจะใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยียุคใหม่นี้ ในการเติบโตไปด้วยกันได้อย่างไร ทุกประเทศใน CLMVT จึงควรสร้างเครือข่ายและพัฒนาผู้ประกอบการ ในเรื่องทักษะทางการค้าในยุคดิจิทัลร่วมกัน ส่งเสริมการสร้างสภาพแวดล้อมด้านการค้าแบบดิจิทัลร่วมกันทั้งภูมิภาค” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ประเทศไทยยึดมั่นในหลักการ stronger together โดยการเคารพและเกื้อกูลกันแบบทุกฝ่ายได้ประโยชน์ (win-win) รวมถึงการกระจายโอกาสให้ทั่วถึง (inclusive growth) ดังนั้น การแข่งขันและความร่วมมือจะต้องดำเนินควบคู่กันไปอย่างสมดุล จึงจะเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน และนำไปสู่การเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน .- สำนักข่าวไทย