กรุงเทพฯ 15 ส.ค. – ธปท.เผยผลศึกษาประเทศไทยเป็นประเทศที่แก่เร็ว แก่ก่อนรวย และเกษียณอายุเร็วตั้งแต่อายุ 45 ปี ห่วงแรงงานหายจากระบบกระทบการเติบโตทางเศรษฐกิจ
นางสาวณัคนางค์ กุลนาถศิริ เศรษฐกร สายนโยบายการเงิน ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยผลการศึกษาสังคมสูงวัยกับความท้าทายของตลาดแรงงานไทย ว่า ประเทศไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุตั้งแต่ปี 2543 โดยมีประชากรที่มีอายุมากกว่า 65 ปี ร้อยละ 7 ของประชากรทั้งหมด และจะเพิ่มเป็นร้อยละ 14 ในปี 2565 และเป็นร้อยละ 20 ในปี 2578 ซึ่งเป็นสังคมผู้สูงอายุรุนแรงเหมือนประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจากการศึกษาประเทศไทยเป็นประเทศที่แก่เร็ว โดยสัดส่วนคนไทยสูงอายุเพิ่มเป็น 2 เท่า โดยใช้เวลาเพียง 20 ปีเท่านั้น ขณะที่ประเทศพัฒนาแล้วใช้เวลาร่วม 100 ปี นอกจากนี้ พบว่าผู้สูงอายุไทยมีรายได้และการศึกษาน้อยกว่าประเทศอื่น มีแนวโน้มคนไทยแก่ก่อนรวยสูง
ขณะที่การเตรียมความพร้อมรับมือสังคมผู้สูงอายุยังไม่มีมาตรการที่เป็นรูปธรรมมากพอหากเทียบกับประเทศสิงคโปร์ ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้
ด้านนางสาวปภัสสร แสวงสุขสันต์ เศรษฐกรอาวุโส ส่วนเศรษฐกิจมหภาคและพยากรณ์ ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธปท. กล่าวว่า จากผลการศึกษาพบว่าคนไทยเริ่มออกจากตลาดแรงงานค่อนข้างเร็ว โดยคนไทยเกษียณอายุตั้งแต่อายุ 45 ปีโดยเฉพาะผู้หญิง เนื่องจากออกมาดูแลทำงานบ้าน เลี้ยงลูก ซึ่งมี 5.8 ล้านคน และพบว่า คนไทยอายุ 45- 60 ปี ที่กำลังเข้าสู่วัยสูงอายุ 20 ล้านคนจะทำงานอยู่นอกระบบ โดยเฉพาะภาคเกษตร ค้าขาย อาชีพอิสระ ซึ่งมีความเสี่ยงด้านรายได้ที่ไม่มั่นคงและโอกาสเข้าถึงสิทธิ์การรักษาบริการทางการแพทย์น้อยลง หากคนไทยออกจากตลาดแรงงานเร็วอาจจะมีผลกระทบทำให้เกิดภาวะขาดแคลนแรงงานได้ ซึ่งเป็นปัญหาเชิงโครงสร้างที่ทั่วโลกกำลังเผชิญ
โดยจากการศึกษาของสหประชาชาติ พบว่า ในอีก 10 ปีข้างหน้า หรือ ปี 2571 หากแรงงานหายไปร้อยละ 1.5 จะกระทบทำให้เศรษฐกิจเติบโตลดลงร้อยละ 1.5 เช่นกัน เพราะแรงงานถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยในการขับเคลื่อนภาวะเศรษฐกิจ ดังนั้น จึงเสนอให้แก้ไข 2 ด้าน เพื่อรักษาจำนวนแรงงานที่ทำงานอยู่ในระบบเศรษฐกิจ คือ 1.การเพิ่มและเสริมทักษะของแรงงานไทย เพื่อให้มีทางเลือกที่จะทำงานต่อในระบบมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มแรงงานที่มีอายุ 45 – 60 ปีที่อยู่ในภาคเกษตรกรรมและบริการ เช่น การตั้งศูนย์พัฒนาทักษะและช่วยเหลือแรงงานเหมือนต่างประเทศ และ 2. เพิ่มความยืดหยุ่นในการทำงาน โดยเฉพาะแรงงานหญิง เช่น การจัดตั้งศูนย์เลี้ยงเด็กในสถานประกอบกิจการ เป็นต้น. – สำนักข่าวไทย