เร่งพร่องน้ำเขื่อนรับมือฝนตกหนัก 15-19 ส.ค.นี้

กรุงเทพฯ  15 ส.ค. – ศูนย์เฉพาะกิจชั่วคราวในภาวะวิกฤติ เร่งพร่องน้ำเขื่อนเกินร้อยละ 80  รับมือฝนตกหนัก 15-19  ส.ค.นี้


ศูนย์เฉพาะกิจชั่วคราวในภาวะวิกฤติสรุปสถานการณ์น้ำและพื้นที่เสี่ยงสำคัญ ว่า เมื่อเวลา 22.00 น. ของวานนี้ (14 ส.ค.) พายุโซนร้อนเบบินคา บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าปกคลุมประเทศเวียดนามตอนบน และประเทศ สปป.ลาวในช่วงวันที่ 16-17 สิงหาคม 2561 ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือยังคงมีฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง และ15-19 สิงหาคม จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง รวมถึงดินโคลนถล่มได้ 

ลุ่มน้ำเพชรบุรี มีปริมาณน้ำไหลผ่านทางระบายน้ำล้น (Spillway) เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเพชรบุรี มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามการระบายน้ำจากเขื่อน  แม่น้ำสายสำคัญ  ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคตะวันออก ระดับน้ำเพิ่มขึ้น ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างมีระดับน้ำน้อย ภาคกลางและใต้มีระดับปานกลางถึงน้ำมาก  แม่น้ำโขง ระดับน้ำมีแนวโน้มสูงขึ้น แต่ยังคงต่ำกว่าระดับตลิ่ง 


สำหรับสถานการณ์ฝน  15 ส.ค. 61 ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองหลายพื้นที่กับมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะ 28 จังหวัด ที่ต้องเฝ้าระวัง ภาคเหนือ เชียงราย พะเยา น่าน แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ตาก เพชรบูรณ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เลย หนองคาย บึงกาฬ นครพนม สกลนคร กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ร้อยเอ็ด ยโสธร อุบลราชธานี ภาคกลาง กาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ภาคตะวันออก นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว จันทบุรี ตราด ภาคใต้ ระนอง พังงา อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลา 05.00 น. ฝนตกปานกลางถึงหนักในภาคเหนือ (เชียงราย 77.5 มิลลิเมตร กำแพงเพชร 42 มิลลิเมตร) ฝนตกหนักถึงหนักมากภาคตะวันออก (ตราด 94 มิลลิเมตร สระแก้ว 66 มิลลิเมตร) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันตก ภาคกลาง และภาคใต้ มีฝนตกเล็กน้อยถึงปานกลาง 

ส่วนสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่มีระดับเกินเกณฑ์ควบคุม (Upper Rule Curve) และปริมาณน้ำเกินร้อยละ 80 ของความจุ มีจำนวน 3 แห่ง ได้แก่  เขื่อนแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำ (06.00 น.) ปริมาณน้ำ 726 ล้าน ลบ.ม. (เมื่อวาน 725) คิดเป็นร้อยละ 102 ปริมาณน้ำไหลเข้าวันละ 14.80 ล้าน ลบ.ม. (เมื่อวาน 12.53) ปริมาณน้ำระบายออกวันละ 13.80 ล้าน ลบ.ม. (เมื่อวาน 13.6) น้ำล้นทางระบายน้ำสูง 36 ซม. สูงกว่าเมื่อวาน 1 ซม. แนวโน้มปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเพิ่มขึ้นเล็กน้อย และจากการคาดการณ์สภาพภูมิอากาศ อาจมีฝนตกมากขึ้นส่งผลให้น้ำในเขื่อนเพิ่มขึ้นในสัปดาห์นี้ยังต้องเฝ้าระวังสถานการณ์ต่อไป

ขณะที่สภาพน้ำในพื้นที่ท้ายน้ำ ยังอยู่ในเกณฑ์เฝ้าระวัง ระดับน้ำในแม่น้ำเพชร บริเวณ อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ต่ำกว่าระดับตลิ่ง 1.23 ม. (เมื่อวาน 1.28 ม.) ปริมาณน้ำไหลผ่าน 137.80 ลบ.ม./วินาที (เมื่อวาน 133.30 ม.) ทำให้พื้นที่ริม 2 ฝั่งลำน้ำบริเวณ อ.แก่งกระจาน อ.ท่ายาง อ.บ้านลาด อ.เมือง และ อ.บ้านแหลม ที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วมมีแนวโน้มทรงตัว มีการบริหารจัดการน้ำเข้าระบบชลประทาน และแม่น้ำเพชรบุรี ทำให้ระดับน้ำ (06.00 น.) อ.เมืองเพชรบุรีมีระดับลดลงต่ำกว่าตลิ่ง 1.05 ม. (เมื่อวาน 0.94 ม.) ยังต้องเฝ้าระวัง  ทั้งนี้ ส่วนราชการต่าง ๆ ยังคงเตรียมเครื่องจักร เครื่องมือไว้ในจุดเสี่ยงต่าง ๆ มีการแจ้งเตือนและช่วยเหลือ 


สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติได้ออกประกาศฉบับที่ 3/2561 (10 ส.ค.61) เรื่องสถานการณ์แม่น้ำเพชรบุรี  เขื่อนน้ำอูน จ.สกลนคร สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำ (06.00 น.) ปริมาณน้ำ 534 ล้าน ลบ.ม. (เมื่อวาน 535) คิดเป็นร้อยละ 103 ปริมาณน้ำไหลเข้าวันละ 4.47 ล้าน ลบ.ม. (เมื่อวาน 6.23) มีปริมาณน้ำไหลออกวันละ 5.33 ล้าน ลบ.ม. (เมื่อวาน 5.37)  สภาพน้ำในพื้นที่ท้ายน้ำมีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำล้นตลิ่ง บริเวณบ้านนาหว้า อ.นาหว้า จ.นครพนม บ้านพอกใหญ่ อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร การบริหารจัดการน้ำ ติดตั้งกาลักน้ำ เพื่อเร่งการระบาย ohe มีการแจ้งให้ติดตามสถานการณ์น้ำในจังหวัดสกลนคร บึงกาฬ นครพนม ซึ่งลำน้ำอูนและลำน้ำสงคราม ไหลผ่าน 

เขื่อนวชิราลงกรณ จ.กาญจนบุรี สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำ (00.00 น.) มีปริมาณน้ำ 7,669 ล้าน ลบ.ม. (เมื่อวาน 7,612) คิดเป็นร้อยละ  87 ปริมาณน้ำไหลเข้าวันละ 100.01 ล้าน ลบ.ม. (เมื่อวาน 71.93) มีปริมาณน้ำไหลออกวันละ 42.05 ล้าน ลบ.ม. (เมื่อวาน 42.65) สภาพน้ำในพื้นที่ท้ายน้ำ ไม่มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากการระบายน้ำ การบริหารจัดการน้ำ แผนการระบายน้ำอยู่ที่วันละ 43 ล้าน ลบ. ม. ตลอดเดือนสิงหาคมและกันยายน 2561 มีการแจ้งให้พื้นที่ท้ายเขื่อนตามลำน้ำแควน้อยทราบถึงแผนการระบายน้ำของอ่างเก็บน้ำ

อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่มีปริมาณน้ำในอ่างเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว มี 2 แห่ง คือ เขื่อนรัชชประภา จ.สุราษฏร์ธานี สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำ (00.00 น.) ปริมาณน้ำ 4,889 ล้าน ลบ.ม. (เมื่อวาน 4,870) คิดเป็น ร้อยละ 87 ปริมาณน้ำไหลเข้าวันละ 31.75 (เมื่อวาน 38.77) มีปริมาณน้ำไหลออกวันละ 11.24 ล้าน ลบ.ม. (เมื่อวาน 6.69) หยุดการระบายน้ำระหว่าง 9-12 ส.ค. 61 และมาเริ่มระบายวันที่ 13 สิงหาคม 2561 ตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป โดยมีแผนทยอยระบายน้ำเพิ่มขึ้นจนถึงวันละ 15 ล้าน ลบ.ม. ติดตามสถานการณ์ด้านท้ายน้ำอย่างใกล้ชิด เพื่อปรับเพิ่ม/ลดการระบายให้มีผลกระทบด้านท้ายน้ำน้อยที่สุด

เขื่อนขุนด่านปราการชล จ.นครนายก สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำ (06.00 น.) ปริมาณน้ำ 183 ล้าน ลบ.ม. (เมื่อวาน 174 ) คิดเป็นร้อยละ  82 (เมื่อวานร้อยละ 78) ปริมาณน้ำไหลเข้าวันละ 12.05 (เมื่อวาน 13.00) มีปริมาณน้ำไหลออกวันละ 3.11  ล้าน ลบ.ม. เขื่อนขุนด่านปราการชลช่วยชะลอน้ำที่ไหลลงอ่างก่อนลงสู่แม่น้ำนครนายก (เมื่อ 2 วันก่อนฝนตกหนักบริเวณอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่) ซึ่งส่งผลให้ระดับน้ำในเขื่อนสูงขึ้น 1.93 ม. จากเมื่อวาน ติดตามสถานการณ์ด้านท้ายน้ำอย่างใกล้ชิด ปรับแผนการระบายให้มีผลกระทบด้านท้ายน้ำน้อยที่สุด

ปัจจุบันมีน้ำล้นตลิ่งบริเวณ แม่น้ำสงคราม จังหวัดบึงกาฬ แม่น้ำชี จ.อุบลราชธานี ลำน้ำอูน และลำน้ำก่ำ จ.สกลนคร แม่น้ำแควน้อย จ.กาญจนบุรี คลองอิปัน แม่น้ำตาปี ท้ายเขื่อนรัชชประภา จ.สุราษฏร์ธานี  แม่น้ำโขง บริเวณที่ติดกับประเทศไทยมีระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง แต่ระดับน้ำมีแนวโน้มสูงขึ้น เนื่องจากปริมาณน้ำในแม่น้ำที่ไหลจากประเทศจีนเพิ่มขึ้น และจากการคาดการณ์ฝนในช่วงวันที่ 15-16 ส.ค. มีปริมาณฝนเพิ่มขึ้น ทั้งในประเทศ สปป.ลาว และบริเวณจังหวัดชายแดนของประเทศไทย ทั้งนี้ อาจส่งผลต่อการไหลของแม่น้ำสงครามลงแม่น้ำโขง

ทั้งนี้  14 ก.ค. – 13 ส.ค. 61 มีน้ำไหลเข้าอ่างฯ ขนาดใหญ่ รวมทั้งประเทศ 12,645 ล้าน ลบ.ม. แยกเป็น ภาคเหนือ 3,793 ล้าน ลบ.ม. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 1,801 ล้าน ลบ.ม. ภาคกลาง 316 ล้าน ลบ.ม. ภาคตะวันตก 4,624 ล้าน ลบ.ม. ภาคตะวันออก 285 ล้าน ลบ.ม. และภาคใต้ 1,826 ล้าน ลบ.ม.อ่างฯ ที่ความจุเกิน 100% ขนาดใหญ่ 2 แห่ง เขื่อนน้ำอูน (ร้อยละ 103) เขื่อนแก่งกระจาน (ร้อยละ 102) ขนาดกลาง 14 แห่ง ซึ่งอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 11 แห่ง  และภาคตะวันออก 2 แห่ง ภาคใต้  1 แห่ง อ่างเฝ้าระวัง (ร้อยละ 80-100) ขนาดใหญ่ 3 แห่ง เขื่อนศรีนครินทร์ (ร้อยละ 88) เขื่อนวชิราลงกรณ (ร้อยละ 87  ) เขื่อนรัชชประภา (ร้อยละ 87) ขนาดกลาง 56 แห่ง ลดลง 4 แห่ง  แยกเป็น ภาคเหนือ 4 แห่ง (ลดลง 1 แห่ง) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 42 แห่ง (ลดลง 4 แห่ง) ภาคตะวันออก 8  แห่ง (เพิ่มขึ้น 2 แห่ง) ภาคกลาง 1 แห่ง (เท่าเดิม) และภาคใต้ 1 แห่ง (เท่าเดิม) พื้นที่เฝ้าระวังเสี่ยงน้ำท่วม แม่น้ำเพชรบุรี บริเวณ อ.แก่งกระจาน อ.ท่ายาง อ.บ้านลาด อ.เมือง อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี แม่น้ำกระบุรี อ.กระบุรี อ.ละอุ่น และ อ.เมืองระนอง จังหวัดระนอง แม่น้ำตะกั่วป่า อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ลำน้ำก่ำ ลำน้ำสงคราม และลำน้ำอูน ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากมีน้ำมากและอาจเกิดฝนตกในพื้นที่ พื้นที่เฝ้าระวังจากการเร่งระบายน้ำ  

สำหรับอ่างฯ ขนาดใหญ่ที่มีปริมาณน้ำมากกว่าร้อยละ 80 โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ต้องเฝ้าระวังเขื่อนแก่งกระจาน เขื่อนวชิราลงกรณ เขื่อนศรีนครินทร์ เขื่อนรัชชประภา และเขื่อนน้ำอูน รวมถึงอ่างขนาดกลางและขนาดเล็ก ที่มีปริมาณน้ำร้อยละ 100 ให้หน่วยงานเกี่ยวข้องจัดทำแผนการระบายน้ำจากอ่างเก็บน้ำที่มีระดับน้ำสูงกว่าเกณฑ์ควบคุมให้อยู่ในเกณฑ์  และจัดทำมาตรการเตรียมความพร้อมลดความเสี่ยงอุทกภัย  กรณีการระบายน้ำฉุกเฉินของอ่างเก็บน้ำและกรณีเขื่อนวิกฤติ สำรวจความแข็งแรงของเขื่อน และสร้างการรับรู้ภาคประชาชนต่อเนื่อง .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สิ้นพระเอกดัง “ไพโรจน์ สังวริบุตร” จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี

3 มิ.ย.- วงการบันเทิงเศร้า… สิ้นพระเอกดัง “เอ๋” ไพโรจน์ สังวริบุตร นักแสดง-ผู้กำกับในตำนาน จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี แฟนคลับร่วมแสดงความอาลัย ข่าวเศร้าช็อกวงการบันเทิง เอ๋-ไพโรจน์ สังวริบุตร เสียชีวิตอย่างสงบ เมื่อเวลา 03.00 น. (3 มิ.ย.68) ที่จังหวัดนครราชสีมา สิริอายุได้ 72 ปี กำหนดสวดพระอภิธรรม ณ วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร สำหรับพิธีรดน้ำศพ จะมีขึ้นในวันที่ 4 มิถุนายน 2568 โดยข้อมูลจากเพจดาราภาพยนตร์ เผยการจากไปของพระเอกรุ่นใหญ่ สร้างความโศกเศร้าให้กับวงการบันเทิงไทยอย่างมาก หากเอ่ยถึงชื่อ “ไพโรจน์ สังวริบุตร” คนไทยหลายรุ่นคงต้องนึกถึงชายหนุ่มร่างโปร่ง ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม และแววตาทะเล้นที่ปรากฏอยู่บนจอเงินในบท “ตั้ม” จากภาพยนตร์ วัยอลวน อันโด่งดังในยุค 2510–2520 เขาคือพระเอกผู้ก้าวข้ามกาลเวลา จากภาพลักษณ์ของวัยรุ่นสุดแนวในวันนั้น สู่ผู้กำกับภาพยนตร์มากฝีมือในวันนี้ และยังคงยืนหยัดเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์วงการภาพยนตร์ไทย “ไพโรจน์ สังวริบุตร” เกิดเมื่อวันที่ 18 […]

Thai drone illegally enters Cambodian airspace, intercepted by Cambodian troops

กัมพูชาอ้างสกัดโดรนที่ส่งจากฝั่งไทย

พนมเปญ 3 มิ.ย.- สื่อกัมพูชารายงานว่า ทหารกัมพูชาสกัดอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนที่อ้างว่าส่งจากฝั่งไทยเข้าไปสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์รายงานวันนี้ว่า กองทัพไทยยังคงละเมิดดินแดนของกัมพูชา โดยล่าสุดได้ส่งโดรนไปบินเหนือพื้นที่แนวหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา และถูกกำลังพลกัมพูชาสกัดไว้ได้ แขมร์ไทมส์อ้างรายงานจากชายแดนว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 มิถุนายน ทหารกัมพูชาที่ประจำการอยู่บริเวณแนวหน้าในจังหวัดพระวิหารสามารถสกัดโดรนลำหนึ่งที่เข้ามาในน่านฟ้ากัมพูชาเพื่อวัตถุประสงค์ในการสอดแนม ผลการประเมินเบื้องต้นชี้ว่า โดรนลำนี้ถูกส่งโดยกองทัพไทย เพื่อเก็บข้อมูลข่าวกรองเรื่องการประจำการและการเคลื่อนย้ายกำลังพลของกองทัพกัมพูชา.-814.-สำนักข่าวไทย

ล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ถอยหนีชนดะ

ขอนแก่น 3 มิ.ย. – ระทึก ผู้ต้องหาถอยรถหนี ชนจยย.สายตำรวจ ขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ก่อนจนมุมรถไถลข้ามเลนพลิกตะแคง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพรถยนต์สีขาวจอดคุยกับชายคนหนึ่งที่ยืนริมถนนกสิกรทุ่งสร้าง หน้าตลาดจอมพล เขตเทศบาลนครขอนแก่น ทันใดนั้น รถคันดังกล่าวก็ถอยหลังอย่างรวดเร็ว พุ่งชนรถจักรยานยนต์ที่ขี่อยู่ด้านหลังล้ม 2 คัน และพยายามเร่งเครื่องหลบหนีจนไปชนกับรถคันอื่นอย่างแรง แล้วไถลข้ามเลนพลิกตะแคงอยู่ข้างทาง เมื่อเวลา 22.45 น. วานนี้ (2 มิ.ย.) คนขับปีนออกจากหน้าต่าง มีท่าทีขัดขืน แต่สุดท้ายก็ยอมออกมาจากรถ หลังจากนั้นตำรวจพาเดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม และมีชายอีกคนออกมาจากหน้าเป็นรายที่สอง ตำรวจจึงควบคุมตัวที่ข้างทาง ต่อมา รถกู้ชีพมาถึงที่เกิดเหตุและทำการปฐมพยาบาลทั้งชายสองคนและสายลับที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นเหตุขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้า ภายในรถมีบุหรี่ไฟฟ้าวางอยู่ ก่อนจะคุมตัวขึ้นรถกระบะไป สภ.เมืองขอนแก่น พ.ต.อ.พรศักดิ์ งานดี ผู้กำกับการตำรวจสืบสวนจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า นายอนุพงษ์ อายุ 35 ปี เป็นคนขายบุหรี่ไฟฟ้า ส่วนนายณัฐพล อายุ 37 ปี เป็นคนขับรถยนต์คันที่เกิดเหตุ มีพฤติกรรมลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า ผ่านเฟซบุ๊กให้กับลูกค้าทั่วไปที่สั่งซื้อ จึงวางแผนล่อซื้อ […]

ทรงพระเจริญ

ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี ร่วมแปรอักษร แสดงพลังความจงรักภักดี

สงขลา 2 มิ.ย. – จังหวัดสงขลา จัดกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” ประชาชนกว่า 5,000 คน ร่วมแปรอักษร “ทรงพระเจริญ คนสงขลารักพระราชินีฯ” แสดงพลังความจงรักภักดีอย่างยิ่งใหญ่ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2568 วันนี้ 2 มิถุนายน 2568 เวลา 16.30 น. ที่สนามกีฬาติณสูลานนท์ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยนางปวีณ์ริศา เกิดสม ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสงขลา นำคณะรองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนชาวสงขลากว่า 5,000 คน ร่วมกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” เพื่อแสดงความจงรักภักดีและเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ย้ำรัฐบาลยึดหลักอธิปไตย-ประโยชน์สูงสุดของประเทศ

กรุงเทพฯ 4 มิ.ย. – นายกฯ ย้ำรัฐบาลไม่นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยืนยันหลักอธิปไตยและประโยชน์สูงสุดของประเทศ วันนี้ (4 มิ.ย.68) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์เรื่องสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา รัฐบาลยืนยันหลักอธิปไตยและประโยชน์สูงสุดของประเทศ “ดิฉันขอย้ำอีกครั้งว่า รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และได้บูรณาการการทำงานอย่างใกล้ชิดระหว่างกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม และหน่วยงานความมั่นคง เพื่อประเมินสถานการณ์อย่างรอบด้าน” นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า เรารวบรวมข้อมูลจากทั้งเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ภาพแผนที่จากเทคโนโลยีและการวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ ตลอดจนพิจารณาอย่างเคร่งครัดภายใต้หลักกฎหมายระหว่างประเทศ โดยมีเป้าหมายคือการปกป้องอธิปไตยของชาติและผลประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ หากมีความคืบหน้า รัฐบาลจะมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้ชี้แจงรายละเอียดเป็นระยะ เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและรอบด้านต่อไป.-314-สำนักข่าวไทย

ม็อบรถบัส 2 ชั้น ขู่บุกกรุง ค้านคำสั่งห้ามใช้เส้นทางเขาพับผ้า

ตรัง 4 มิ.ย. – ม็อบรถบัส 2 ชั้น ชุมนุมคัดค้านคำสั่งห้ามใช้เส้นทางเขาพับผ้า อ้างไม่ชอบ กม.-เส้นทางไม่เข้าหลักเกณฑ์กำหนด ขู่เคลื่อนขบวนพันคันบุกกรุง หากไม่ได้รับแก้ไข บริเวณอันดามันเกตเวย์ บนเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 เขาพับผ้า เครือข่ายผู้ประกอบการรถบัส 2 ชั้น ในนามสมาคมรถโดยสารสองชั้นไทย กว่า 100 คัน พร้อมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว ราว 200 คน ชุมนุมคัดค้านคำสั่ง กรมการขนส่งทางบกที่ห้ามรถบัส 2 ชั้นใช้เส้นทาง 7 แห่งทั่วประเทศ การชุมนุมครั้งนี้ เป็นการรวมตัวของผู้ประกอบการจากทั้งภาคใต้ ภาคกลาง และภาคตะวันออก เพื่อประท้วงคำสั่งที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย.68 สำหรับรถทัวร์ และวันที่ 1 มิ.ย.68 สำหรับรถประจำทาง โดยชูป้ายข้อความต่างๆ รวมถึงการเรียกร้องให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมและอธิบดีกรมการขนส่งทางบกลาออกจากตำแหน่ง นายสุริยะ แกล้วทนงค์ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารสองชั้นไทย เปิดเผยว่า การสำรวจเส้นทางเขาพับผ้า พบว่าไม่เข้าหลักเกณฑ์ที่ต้องประกาศห้าม เนื่องจากมีความลาดชัน 8% […]

หัวโจกปล้นบุหรี่ไฟฟ้า กลับลำ ยันไม่มีคนในชี้เป้า

กทม. 4 มิ.ย. – คุมตัว “แบงค์” หัวโจกปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลางกรมศุลฯ ทำแผน เจ้าตัวกลับลำอ้างลงมือครั้งแรก ไม่มีใครชี้เป้า ปัดเจตนาชน รปภ.ดับ กลางดึกที่ผ่านมาตำรวจ สน.ท่าเรือ พร้อมชุดปฏิบัติการพิเศษ กว่า 20 นาย ควบคุม 5 ผู้ต้องหาแก๊งปล้นบุหรี่ไฟฟ้า ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บริเวณ ตู้คอนเทนเนอร์ ในโกดังสเตเตียม ถนนท่าเรือ 1 เขตคลองเตย จากนั้นในช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 คนไปฝากขังผัดแรกที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ส่วนนายแบงค์ หัวโจก พนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพอย่างเงียบๆ เพราะเกรงว่านายแบงค์จะถูกญาติ รภป. ผู้เสียชีวิต รุมประชาทัณฑ์ ภายหลังจากทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จสิ้นแล้ว พนักงานสอบสวนได้คุมตัวนายแบงค์กลับมา คุมขังที่ สน.ท่าเรือ เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม ผู้สื่อข่าวได้พยายามซักถามว่านายแบงค์ก่อเหตุมาแล้วกี่ครั้ง นายแบงค์ อ้างว่าก่อเหตุขโมยบุหรี่ไฟฟ้ามาเพียงครั้งเดียว ส่วนนำไปขายใครนั้น นายแบงค์ไม่ตอบ และยืนยันว่าการก่อเหตุนี้ ไม่มีคนในมาชี้เป้า เพราะบริเวณนั้นใครก็รู้ว่าเป็นพื้นที่เก็บสินค้าที่ต้องการทำลาย พร้อมยกมือไหว้ขอโทษครอบครัว รปภ.ที่เสียชีวิต และยอมรับว่าตนเองไม่ได้ตั้งใจถอยรถชน […]

“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่ชายแดนติดตามสถานการณ์ไทย-กัมพูชา

อุบลราชธานี 4 มิ.ย. – “ภูมิธรรม” ลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ย้ำกองทัพไม่ขัดแย้งรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ลงพื้นที่ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เพื่อติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเกิดกรณีการปะทะกันที่ช่องบก โดยระบุว่า การมาครั้งนี้ตั้งใจมาให้กำลังใจกำลังพลที่อยู่แนวหน้า ซึ่งกำลังเตรียมความพร้อมในการดูแลและป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้น รวมถึงดูพื้นที่จริง ซึ่งเบื้องต้นพบว่า ข่าวทหารกัมพูชาวางกับระเบิดเป็นของเก่า เวลานี้เรากำลังใช้ทางออกที่โลกอยากเห็น และเรายังไม่ได้เสียอธิปไตยตรงไหนไป สิ่งที่เกิดขึ้นในแต่ละจุด เราอยากให้มันค่อยๆ คลายไป เรากำลังใช้มาตรการทางการทูตเชิงรุก เริ่มต้นจากเล็กไปหาใหญ่ และมาตรการต่างๆ ที่จะมีเพิ่มขึ้น เราตกลงกันแล้วว่า จะคุยด้วยกันตลอด ไม่ได้มีปัญหาอะไร มันไม่ได้ถึงขั้นนั้น เพราะยังไม่มีอะไร เราคำนึงถึงชีวิตของพี่น้องประชาชนตามแนวชายแดน เราจะใช้กระบวนการสันติวิธีให้ถึงที่สุด ถ้ามีอะไรเกินเลย ฝ่ายที่อยู่แนวหน้าจะต้องแจ้งเรา ซึ่งจะดำเนินการโดยทันทีทันใด ยืนยันกองทัพกับฝ่ายการเมืองไม่มีปัญหากัน .-สำนักข่าวไทย