ภูมิภาค 14 ส.ค. – หลายพื้นที่ประสบภาวะฝนตกหนัก ทำให้หลายหน่วยงานต้องเร่งช่วยเหลือและเฝ้าระวัง ส่วนเหตุดินสไลด์ที่แม่ฮ่องสอน รวมถึงระนอง เจ้าหน้าที่เร่งนำเครื่องจักรหนักเข้าตักดินและเปิดเส้นทางการจราจร
หลังเมื่อคืนที่ผ่านมา เกิดฝนตกหนักบนยอดดอยในเขต จ.แม่ฮ่องสอน ทำให้น้ำในแม่น้ำเงาเพิ่มสูงขึ้น และท่วมที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำ ทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 36 จัดกำลังพลเข้าช่วยเหลือและแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ส่วนความคืบหน้ากรณีดินสไลด์ทับเส้นทางเข้าบ้านกอมูเดอ ต.สามแลบ อ.สบเมย เจ้าหน้าที่นำรถแบ็กโฮเข้าเกลี่ยดินที่ทับเส้นทาง โดยจะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จในวันนี้ เพื่อเปิดเส้นทางจราจรให้ประชาชนใช้การตามปกติ
ส่วนที่ จ.พิจิตร หลังเกิดฝนตกหนักบนเทือกเขาเพชรบูรณ์ ทำให้มีน้ำป่าไหลลงสู่คลองสาขาที่เชื่อมกับแม่น้ำน่าน เอ่อล้นท่วมริมคลอง บางจุดท่วมสวนกล้วยน้ำว้าได้รับความเสียหาย โดยผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ได้ลงพื้นที่ตรวจการระบายน้ำ พร้อมเตือนประชาชน 4 อำเภอ ได้แก่ อ.สากเหล็ก อ.วังทรายพูน อ.ทับคล้อ และ อ.ดงเจริญ ให้พร้อมรับมือน้ำหลากและดินโคลนถล่ม เพราะเป็นจุดที่ต่ำกว่าแนวเทือกเขาเพชรบูรณ์ ขณะที่พบว่าบางจุดมีน้ำเอ่อล้น
สถานการณ์ที่ จ.ระนอง หลังเกิดฝนตกหนักและดินสไลด์จากยอดเขาน้ำตกปุญญบาล ต.บางนอน อ.เมืองระนอง ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (13 ส.ค.) จนทับถนนเพชรเกษม ช่วงเข้า-ออกตัวเมืองระนอง เชื่อมไปยังภาคใต้ ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้นำรถแบ็กโฮตักดินออกจากถนน เพื่อเปิดพื้นผิวการจราจร แต่ต้องใช้ความระมัดระวัง เพราะมีดินและก้อนหินขนาดใหญ่ไหลจากภูเขาลงมาสมทบ คาดว่าอาจมีดินอีกจำนวนหนึ่งไหลลงมาอีก
ส่วนสถานการณ์ในแม่น้ำชี ซึ่งไหลผ่าน จ.ยโสธร ล่าสุดระดับน้ำหน้าเขื่อนกั้นแม่น้ำ อยู่ที่ 10 เมตร เจ้าหน้าที่ลดระดับการเตือนจาก “ธงแดง” เป็น “ธงเหลือง” โดยภาพรวมระดับน้ำลดลงอย่างช้าๆ แต่ยังต้องเฝ้าระวัง เพราะอาจกระทบกับพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเร่งระบายน้ำลงสู่แม่น้ำมูล เพื่อเตรียมรับน้ำเหนือจากเขื่อนลำปาวที่อาจได้รับผลกระทบฝนตกหนักจากพายุลูกใหม่. – สำนักข่าวไทย