ตร.-ป.ป.ส.บุกยึดทรัพย์เครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่

ปทุมธานี 19 ก.ย.- ตำรวจร่วมกับ ป.ป.ส.บุกยึดทรัพย์เครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ ติดอันดับ 1 ใน 60 ประเทศ ที่บ้านย่านปทุมธานี ได้ทรัพย์สินมูลค่ากว่า 209 ล้านบาท 


สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับสำนักงาน ป.ป.ส. สนธิกำลังเข้ายึดทรัพย์เครือข่ายค้ายาเสพติดรายสำคัญของภาคเหนือ ภาคกลาง และปริมณฑล โดยเข้าค้นและยึดทรัพย์ ที่บ้านนายณัฐวัฒน์ เลิศอริยธนากุล เลขที่ 134/412 หมู่บ้านสีวลี 2 จ.ปทุมธานี โดยนายณัฐวัฒน์ เป็นหัวหน้าขบวนการที่มีเครือข่ายกว่า 30 ราย ทำหน้าที่เป็นนายทุนสนับสนุนการสั่งผลิต ลำเลียงและค้ายาเสพติดจากภาคเหนือ มากระจายยาที่ จ.ปทุมธานี และจังหวัดภาคกลาง

นายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า ปฏิบัติการครั้งนี้เป็นการบูรณาการตามนโยบายรัฐบาลที่ให้ขยายผลเครือข่ายยาเสพติด ซึ่งกลุ่มนี้จับได้ตั้งแต่วันที่ 3 ม.ค.59 ขณะนั้นยึดทรัพย์สินได้จำนวนน้อย จึงตรวจสอบเส้นทางการเงินขยายผลจนถึงนายณัฐวัฒน์ ซึ่งเป็นคนสั่งการทั้งหมด ปฏิบัติการครั้งนี้จับกุมผู้ต้องหาได้ 5 คน คือ นายณัฐวัฒน์ น.ส.วราภรณ์ เลิศอริยธนากุล ทำหน้าที่โอนเงิน นายสมพร ศรีสร้างคอม ดูแลเครือข่ายที่ชลบุรี นายวีระพล แซ่มู่ ชาวจีนฮ่อ และนายสมชาย เลาเซิ้น ชาวลีซอ นอกจากนี้ ยังจับกุมผู้ร่วมขบวนการได้เกือบครบทั้งขบวนการ ขาดอีก 4-5 คน ที่เป็นผู้สมคบช่วยเหลือให้เงินผ่านบัญชี


สำหรับการยึดทรัพย์ครั้งนี้ ได้ทรัพย์สินมูลค่ากว่า  209 ล้านบาท โดยใช้ พ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด กรณีสมคบสนับสนุนการค้ายาเสพติด จับกุมได้โดยไม่ต้องมีของกลางยาเสพติด โดยเครือข่ายนี้เป็น 1 ใน 60 เครือข่ายใหญ่ที่ค้ายาเสพติดในประเทศไทย

ด้าน พล.ต.ต.ประหยัชว์ บุญศรี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 กล่าวว่า ขบวนการค้ายาเสพติดกลุ่มนี้ ร่วมกับชนกลุ่มน้อย และทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง รับถมดินและอพาร์ตเมนต์บังหน้า มีรูปแบบการลำเลียงยาเสพติดผ่านรถบรรทุกผัก และซื้อยาเสพติดแลกอาวุธ

สำหรับทรัพย์สินที่ยึดได้ครั้งนี้ อายัดเงินฝากในบัญชี  17 บัญชี เป็นเงิน 4 ล้านบาท เช็คเงินสด 18 ฉบับ รวม 1.5 ล้านบาท อายัดบ้าน ที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง อพาร์ตเมนต์ 13 รายการ 100 ล้านบาท ตรวจยึดรถยนต์ 14 คัน 15 ล้านบาท ตรวจยึดรถยนต์บรรทุก รถแบ็กโฮ 16 คัน 50 ล้านบาท เงินสด ทองรูปพรรณ อาวุธปืน และทรัพย์สินอื่นๆ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง